หลวงปู่สรวง ออยเตียนสรูล
?>
ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์แห่งภาคอีสาน
The Buddhist Art Conservation Club Of Esan (North Eastern Part Of Thailand)
29 สิงหาคม 2568, 01:36:11
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
ปฏิทิน
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
กติกาในการ เช่า-แลกเปลี่ยนพระเครื่อง
|
พระเครื่องเมืองอุบลราชธานี
|
แจ้งปัญหาการใช้งาน
แจ้งเรื่องการยืนยันตัวตนสำหรับผู้ที่จะให้เช่าพระเครื่องฯ
|
วิธีสมัครสมาชิกเว็บ
ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์แห่งภาคอีสาน
>
ห้องพระ
>
พระคณาจารย์อริยสงฆ์ทั่วประเทศ
(ผู้ดูแล:
บ่หัวซาผีบ้าเดินดิน
,
middle spirit
,
deknoy
) >
หลวงปู่สรวง ออยเตียนสรูล
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: หลวงปู่สรวง ออยเตียนสรูล (อ่าน 18693 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
พลังน้ำใจ :
634
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 982
Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com
Level 25 : Exp 44%
HP: 0%
อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี
หลวงปู่สรวง ออยเตียนสรูล
«
เมื่อ:
09 ตุลาคม 2554, 22:44:08 »
ประวัติหลวงปู่สรวง
หลวงปู่สรวงที่เรารู้จักกันในนามนี้ในปัจจุบันนั้น เมื่อก่อนนี้ชาวบ้านในท้องถิ่นอำเภอ ขุขันธ์ และอำเภอใกล้เคียง ที่มีภูมิลำเนาอยู่แถบชายแดน ตามเชิงเขาพนมดงรัก(พนมดองแร็ก) ซึ่งเป็นแนวเขตแดนระหว่าง กัมพูชากับประเทศไทย มักจะเห็นท่านเป็นผู้ทรงศีลปฏิบัติธรรม พักอาศัยอยู่ตามกระท่อมในไร่นาของชาวบ้าน โคกและเวียน ไปที่นั่นที่นี่บ้างนานๆ จะกลับมาเห็นในที่เดิมอีก ในสายตาและความเข้าใจของชาวบ้านในสมัยนั้นมองท่านในฐานะผู้มีคุณวิเศษ เหนือคนทั่วไปและเรียกขานว่า "ลูกเอ็าวเบ๊าะ" หรือ "ลูกตาเบ๊าะ" (เป็นภาษาเขมร หมายถึงพระดาบส ที่เป็นผู้รักษาศีลอยู่ตามถ้ำเขาลำเนาไพร) ในสมัยนั้นยังมีป่าพรรณไม้อุดมสมบูรณ์และสัตว์ป่านานาพันธุ์ ได้มีลูกศิษย์ติดตามหลวงปู่เดินธุดงค์ตามป่าเขาแถบชายแดนไทย และตลอดจนถึงประเทศเขมร แต่ก็อยู่กับหลวงปู่ได้ไม่นานจำต้องกลับบ้าน เนื่องจากทนความยากลำบากไม่ไหวหลวงปู่จึงเดินธุดงค์ไปในที่ต่างๆ ตามลำพังเป็นส่วนมาก
ไม่มีใครทราบถิ่นกำเนิดและอายุของหลวงปู่ที่แท้จริง ได้รู้แต่ว่าหลวงปู่เป็นชาวเขมรต่ำ ได้เข้ามาในประเทศไทยนานแล้วคนแก่คนเฒ่า ผู้สูงอายุที่เคยเห็นท่านเล่าบอกว่าตั้งแต่เป็นเด็กๆเกิดมาก็เห็นท่านในสภาพลักษณะเหมือนที่เห็นในปัจจุบันถ้าผิดจากเดิมไปบ้างก็เล็กน้อยเท่านั้น ประกอบด้วยหลวงปู่เป็นคนพูดน้อยและไม่เคยเล่าประวัติส่วนตัวให้ใครฟัง จึงไม่มีใครที่จะสามารถรู้อายุและประวัติที่แท้จริงของท่านได้
ชาวบ้านแถบนี้พบเห็นหลวงปู่บ่อยๆ ที่ชายป่าบ้านตะเคียนราม วัดตะเคียนราม อำเภอภูสิงห์ , บ้านลุมพุก บ้านโคกโพน ต.กันทรารมย
์ อ.ขุขันธ์ , และหมู่บ้านอื่นๆเกือบทุกหมู่บ้านในบริเวณตลอดแนวชายแดน ท่านจะเดินทางไปมาอยู่ในบริเวณแถบนี้โดยตลอด แต่ก็จะไม่อยู่เป็นประจำในที่แห่งเดียวเป็นเวลานานๆ บางทีหลวงปู่จะหายไปนานถึงสองสามปีถึงจะกลับมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าหลวงปู่ไปอยู่ไหนมา ในช่วงหลังมานี้พบหลวงปู่จำอยู่ในกระท่อมในนาบริเวณต้นโพธิ์บ้านขยอง , วัดโคกแก้ว , บ้านโคกเจริญ , กระท่อมกลางนาระหว่างบ้านละลมกับบ้านจะบก , กระท่อมบ้านรุน (อำเภอบัวเชด) และบ้านอื่นๆอีกในท้องถิ่นเดียวกันนี้
ในระยะหลังนี้ได้มีผู้ปวารณาเป็นลูกศิษย์อาสาขับรถให้หลวงปู่ ได้เดินทางไปในที่ต่างๆ ทำให้มีผู้รู้จักหลวงปู่มากขึ้น ไปเกือบทุกจังหวัดในประเทศไทย ในแต่ละวันจะมีผู้เดินทางเข้ามากราบไหว้หลวงปู่เป็นประจำและมีจำนวนมาก จึงทำให้บางคนก็สมหวังได้มีโอกาสกราบนมัสการ บางคนก็มาไม่พบต้องคอยหลวงปู่เป็นเวลานานกว่าหลวงปู่จะกลับมาถึงแม้จะต้องพบกับความลำบากเพียงใด ลูกศิษย์ก็ทนรอได้ เพียงขอให้ได้มีโอกาสกราบนมัสการหลวงปู่สักครั้งในชีวิต
หลวงปู่เป็นพระที่มักน้อย สันโดษ สมถะ มีความอุเบกขาสูงสุดให้ความเมตตากับผู้ที่ได้พบเห็นทุกคน ให้ความสำคัญกับทุกคนเท่ากันหมดไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นคนยากจน เป็นเศรษฐี คนเข็ญใจหรือรู้จักหลวงปู่มานาน ก่อนหลังหรือได้ติดตามรับใช้หลวงปู่มานานๆ ก็ตาม ท่านไม่เคยเอ่ยปาก นับว่าเป็นศิษย์หรือให้สิทธิ์พิเศษแก่คนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะแม้แต่ครั้งเดียว ทุกคนจะได้รับความเมตตาจากหลวงปู่เท่ากัน จึงทำให้มีผู้มากราบไหว้หลวงปู่เป็นประจำและจะกลับมากราบไหว้หลวงปู่อีก เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ
ความเป็นอยู่ของหลวงปู่ ท่านจะอยู่อย่างเรียบง่ายจำวัดอยู่ตามกระท่อมปลายนาหลังเล็กๆ มีไม้กระดานเพียงไม่กี่แผ่น บางครั้งก็มีเพียง 2-3 แผ่น พอนอนได้เท่านั้นทุกแห่งที่หลวงปู่จำวัดอยู่จะมีเสาไม้ไผ่สูงๆปักอยู่ มีเชือกขึงระหว่างกระท่อมกับเสาไม้ หรือต้นไม้ที่อยู่ใกล้ๆ มีว่าวขนาดใหญ่ทำด้วยจีวรหรือกระดาษผูกไว้เป็นสัญลักษณ์ และที่สำคัญคือหลวงปู่จะก่อกองไฟไว้เสมอ บางครั้งลูกศิษย์เอาของไปถวาย หลวงปู่ก็จะโยนเข้ากองไฟ ฉะนั้นถ้าเห็นว่ากระท่อมใดมีสิ่งของดังกล่าวก็หมายความว่าที่แห่งนั้นหลวงปู่เคยจำวัดหรือเคยอยู่มาก่อน
images.jpg
(10.42 KB, 205x246 - ดู 3886 ครั้ง.)
images (1).jpg
(8.28 KB, 196x240 - ดู 3234 ครั้ง.)
images (2).jpg
(9 KB, 182x276 - ดู 3006 ครั้ง.)
kruba
บันทึกการเข้า
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
พลังน้ำใจ :
634
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 982
Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com
Level 25 : Exp 44%
HP: 0%
อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี
24 ชั่วโมง ก่อนหลวงปู่ละสังขาร
«
ตอบ #1 เมื่อ:
09 ตุลาคม 2554, 22:45:59 »
ตามปกติหลวงปู่จะมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง สามารถนั่งรถเดินทางไปไหนมาไหนได้เป็นเวลาติดต่อกันหลายวัน โดยหยุดพักเพียงเล็กน้อย ท่านไม่ค่อยเจ็บป่วยหรือแสดงอาการว่าเหน็ดเหนื่อยแต่อย่างใด จะมีบ้างก็เป็นการเจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆและก็หายได้ในเร็ววัน โดยไม่เคยฉันยา เพิ่งจะมีอาการป่วยปรากฏในไม่กี่เดือนหลังมานี้ หลวงปู่มีอาการป่วยและไม่ฉันอาหารติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายวัน
วันที่ 7 กันยายน 2543 เวลาประมาณ 17.00 น. หลวงปู่ได้เดินทางเข้าไปในจังหวัดศรีสะเกษ และได้พบกับลูกศิษย์ นายสมยศฯ ที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) สาขาศรีสะเกษ ซึ่งขณะนั้นหลวงปู่เองก็มีอาการป่วยคือมีเสมหะ และเสียงแหบแห้ง พูดฟังไม่ค่อยชัดและได้ออกจากธนาคารกรุงเทพฯ ไปที่บ้านอาจารย์ทวีศักดิ์ ในระหว่างที่ลูกศิษย์หารือกันว่าจะพาหลวงปู่ไปหาหมอที่อำเภอประโคนชัย(หมอไฮ) หลวงปู่ก็ตื่นขึ้นมาและขอน้ำล้างหน้า หลวงปู่ได้บอกกับนายสมยศว่าจะขอกลับบ้านที่บ้านตะเคียนรามด้วย พวกลูกศิษย์ที่อยู่ในขณะนั้นได้ขอร้องให้หลวงปู่ไปหาหมอที่อำเภอประโคนชัย แต่หลวงปู่ไม่ยอมจึงได้พาหลวงปู่ไปที่บ้านตะเคียนราม
ถึงเวลาประมาณ 20.00 น. และหลวงปู่ได้นั่งอยู่ในรถสักครู่ใหญ่ๆ และได้บอกให้ลูกศิษย์ก่อไฟและลงไปผิงไฟ ลูกศิษย์ที่ติดตามมามี นายสัญชัย(เจ้าของรถ) , นายดุงกับภรรยา , นายสมยศ (เจ้าของบ้าน) และหลวงปู่ได้ผิงไฟและให้นวดเฟ้นให้จนถึงเวลาประมาณ ตีหนึ่งเศษ หลวงปู่ก็บอกว่า "จะไปตามทางตามเพลา" โดยมีเพียงหลวงปู่และนายสัญชัยเป็นผู้ขับรถเท่านั้น และหลวงปู่ได้เดินทางไปที่กระท่อมข้างวัดป่าบ้านจะบก จนกระทั่งถึงเวลาประมาณบ่ายสองโมงของวันที่ 8 กันยายน 2543 อาการป่วยของหลวงปู่ก็กำเริบหนักขึ้น หลวงปู่ได้บอกกับลูกศิษย์ว่าจะไปที่บ้านรุน และได้ให้นายกัณหา ลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดคนหนึ่งซึ่งอยู่บ้านละลมถอดเสื้อออกมาเพื่อพัดด้านหลังให้กับหลวงปู่ หลังจากพัดอยู่นานพอสมควรก็ได้บอกให้ลูกศิษย์ที่รวมกันอยู่ในกระท่อมในขณะนั้นช่วยกันงัดแผ่นไม้กระดานที่หลวงปู่นั่งทับอยู่ออกมาหนึ่งแผ่น ทั้งที่หลวงปู่ยังนั่งอยู่บนกระดานแผ่นนั้น พองัดออกมาได้หลวงปู่ก็ได้พนมมือไหว้ไปทุกสารทิศ
เสร็จแล้วก็ให้ลูกศิษย์หามท่านออกมาจากกระท่อม และวางลงพื้นดินด้านทิศเหนือ อยู่ระหว่าง
กระท่อมกับต้นมะขาม โดยหลวงปู่หันหน้าเข้ากระท่อมขณะนั้นมีผู้นำน้ำดื่มบรรจุขวดมาถวาย 2 ขวด หลวงปู่ได้เทน้ำรดตนเองจากศรีษะลงมาจนเปียกโชกไปทั้งตัวคล้ายกับเป็นการสรงน้ำครั้งสุดท้าย นายสัญชัยผู้ขับรถให้หลวงปู่นั่งเป็นประจำได้นำรถมาจอดใกล้ๆ และช่วยกันหามหลวงปู่ขึ้นรถและขับตรงไปที่กระท่อมบ้านรุน อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ โดยมีนายสุข หรือนายดุง(คนบ้านเจ็ก อำเภอขุขันธ์) ขับรถติดตามไปเพียงคนเดียว ก่อนจะถึงกระท่อมนายสัญชัยได้หยุดรถที่หน้าบ้านนายน้อยเพื่อจะบอกให้นายน้อยตามไป แต่หลวงปู่ได้บอกให้นายสัญชัยขับรถไปที่กระท่อมโดยเร็ว โดยบอกว่า "เต็อวกะตวม เต็อวกะตวม กะตวม" พอถึงกระท่อมได้อุ้มหลวงปู่ไปที่แคร่ ในกระท่อมและช่วยกันก่อกองไฟ เพื่อให้เกิดความอบอุ่น และนายสุขได้อาสาขอออกไปข้างนอกเพื่อจัดหาอาหารมาถวายหลวงปู่ และรับประทานกัน นายสุขได้ไปที่บ้านโคกชาด ตำบลไพรพัฒนา ไปพบนายจุกและนางเล็กซึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงปู่เช่นเดียวกันและได้บอกให้รีบไปหาหลวงปู่ที่บ้านรุน เพื่อดูอาการป่วยของหลวงปู่ซึ่งมีอาการหนักกว่าทุกคราว นางเล็กได้จัดหาอาหารให้กับนายสุขส่วนตัวเองกับสามีได้ขับรถตามไปทีหลัง พอมาถึงกระท่อมปรากฎว่านายสัญชัยขับรถออกไปข้างนอก พวกที่อยู่ก็รีบหุงหาอาหารเพื่อจัดถวายหลวงปู่ โดยหวังว่าหากหลวงปู่ได้ฉันอาหารอาการก็คงจะดีขึ้นบ้าง แต่หลังจากถวายอาหารแล้วหลวงปู่ไม่ยอมฉันอาหารเลย แม้จะอ้อนวอนอย่างไรหลวงปู่ก็นิ่งเฉย นายสัญชัยที่ออกไปทำธุระข้างนอกได้กลับมาโดยขับรถตามนายน้อยที่นำของมาถวายหลวงปู่เหมือนกัน เมื่อไม่สามารถที่จะทำให้หลวงปู่ฉันได้ ทุกคนก็พิจารณาหาวิธีว่าจะช่วยหลวงปู่ได้อย่างไร ในที่สุดก็เห็นพ้องกันว่าให้รีบช่วยกันแต่ง ขันธ์ห้า ขันธ์แปด มาขอขมาหลวงปู่โดยด่วน ตามที่เคยได้กระทำมาและก็ได้ผลมาหลายครั้งแล้วซึ่งจะทำให้หลวงปู่หายป่วยได้ทุกครั้ง และนายสัญชัยยืนยันว่า ถ้าได้แต่ง ขันธ์ห้า ขันธ์แปด ขอขมาและหาแม่ชีมาร่วมสวดมนต์ถวายด้วยแล้วก็จะหายเป็นปกติ ทุกคนเห็นชอบด้วยจึงให้นายสัญชัยรีบดำเนินการโดยด่วน นายสัญชัยได้ขับรถไปที่บ้านขยุงเพื่อหาคนที่เคยแต่งขันธ์ห้า ขันธ์แปด เมื่อนายสัญชัยออกไปแล้วลูกศิษย์ที่เหลืออยู่ซึ่งมีผู้ใหญ่บ้านรุนและลูกบ้านอีกจำนวนหนึ่ง รวมทั้งนายมีเจ้าของกระท่อมก็ได้พากันแต่งขันธ์ห้า ขันธ์แปดเฉพาะหน้าอย่างรีบด่วน เพื่อเป็นการบันเทาจนกว่านายสัญชัยจะได้พาคนที่แต่งขันธ์ห้า ขันธ์แปดมาทำพิธีอีกครั้งหนึ่ง โดยนายน้อยได้อาสาไปหาธูปเทียน ในหมู่บ้าน โดยขับ
รถออกมาห่างจากกระท่อมประมาณ 300 เมตร รถติดหล่มไม่สามารถขับรถออกไปได้ทั้งที่เคยเป็นทางที่ใช้เป็นประจำ ด้วยความร้อนใจนายน้อยได้จอดรถล็อคประตูและขวางถนนทำให้รถคันอื่นไม่สามารถเข้าออกได้ และได้อุ้มลูกเดินเข้าไปในหมู่บ้านในระหว่างนั้นเองนายสัญชัยได้ขับรถเข้ามาแต่ก็ไม่สามารถผ่านเข้าไปได้เนื่องจากมีรถนายน้อยติดหล่มขวางทางอยู่ จึงได้กลับเอารถมาจอดไว้ที่บ้านนายน้อย
kruba
บันทึกการเข้า
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
พลังน้ำใจ :
634
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 982
Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com
Level 25 : Exp 44%
HP: 0%
อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี
24 ชั่วโมง ก่อนหลวงปู่ละสังขาร
«
ตอบ #2 เมื่อ:
09 ตุลาคม 2554, 22:47:09 »
ในระหว่างที่กำลังรอคอย นายน้อยออกไปซื้อธูปเทียนนั้น ชาวบ้านรวมทั้งผู้ใหญ่บ้านได้พากันทยอยกลับจนเกือบจะหมดแล้ว และได้มีหญิงชาวบ้านคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่าพวกเราน่าจะพาหลวงปู่ไปส่งที่โรงยาบาลจะเป็นการดีที่สุด และแล้วพวกชาวบ้านพากันกลับไปจนหมด ซึ่งผิดจากทุกครั้งที่เขาเหล่านั้นจะอยู่กับหลวงปู่ตลอดเวลาจะกลับบ้านก็ต่อเมื่อหลวงปู่ได้เดินทางไปที่อื่นแล้ว สุดท้ายก็ยังมีลูกศิษย์กับหลวงปู่ในกระท่อมเพียงแปดคนรวมทั้งเด็กที่เป็นลูกของนายจุกนางเล็กด้วย ทุกคนต่างหาวิธีที่จะช่วยให้ความอบอุ่นแก่หลวงปู่ ซึ่งขณะนั้นได้พากันจับดูตามร่างกายของหลวงปู่ จะเย็นจัดตลอด บางคนก็ได้เอาหมอนไปอังไฟให้ร้อนแล้วนำมาประคบตามร่างกายให้หลวงปู่บางคนก็ต้มน้ำร้อน หลวงปู่ได้สั่งให้ลูกศิษย์เอาผ้าชุปน้ำอุ่นมาเช็ดนิ้วมือนิ้วเท้าทำความสะอาดและเช็ดทั่วทั้งร่างกายโดยย้ำว่าให้ทำให้สะอาดที่สุด บางแห่งตามนิ้วเท้าที่ของหลวงปู่ที่ลูกศิษย์เช็ดให้ไม่สะอาดพอ หลวงปู่ก็ใช้นิ้วมือเกาถูอย่างแรงจนสะอาด เมื่อทำความสะอาดร่างกายพอสมควรแล้ว หลวงปู่ได้เอ่ยออกเสียงอย่างแผ่วเบาออกมาเป็นภาษาเขมรว่า "เนียงนาลาน" (นางไหนละรถ) ซึ่งเสียงที่เปล่งออกมานั้นแผ่วเบามาก ทุกคนเข้าใจว่า "เนียง" นั้นหมายถึงนางเล็กจึงได้พากันอุ้มหลวงปู่ไปขึ้นรถของนายจุกนางเล็ก โดยผู้ที่อุ้มมีนายจุก และนายตี๋ โดยนายสุขเป็นผู้เปิดประตูรถให้ พอนำหลวงปู่ขึ้นนั่งบนรถโดยลูกศิษย์ได้ปรับเบาะเอนลงเพื่อให้หลวงปู่เอนกายได้สบายขึ้น ท่านได้พยายามยื่นมือมาดึงประตูรถปิดเอง ลูกศิษย์จึงช่วยปิดให้รถเลื่อนออกจากกระท่อมเพื่อไปโรงพยาบาลบัวเชด ซึ่งอยู่ไม่ไกลมากแต่รถออกไปได้ประมาณ 50 เมตร อาการป่วยของหลวงปู่ก็เริ่มหนักมากขึ้นทุกทีจนลูกศิษย์ที่นั่งอยู่ด้วยด้านหลังตกใจ และร้องขึ้นว่า "หลวงปู่อาการหนักมากแล้ว" และได้จอดรถคนที่อยู่รถคันหลังก็วิ่งลงมาดู และก็บอกว่าอย่างไรก็จะต้องนำหลวงปู่ส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ เมื่อรถวิ่งออกมาอีกก็มาติดรถของนายน้อยที่ติดหล่มขวางทางอยู่ไม่สามารถออกไปได้
kruba
บันทึกการเข้า
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
พลังน้ำใจ :
634
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 982
Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com
Level 25 : Exp 44%
HP: 0%
อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี
24 ชั่วโมง ก่อนหลวงปู่ละสังขาร
«
ตอบ #3 เมื่อ:
09 ตุลาคม 2554, 22:47:34 »
นายจุก
ได้ร้องตะโกนบอกให้นายจันวิ่งไปสำรวจดูเส้นทางอื่น ว่าจะมีทางใดที่สามารถจะนำรถออกไปได้และเมื่อสำรวจดูโดยทั่วแล้ว เห็นว่ามีทางออกเพียงทางเดียวก็คือต้องขับฝ่าทุ่งหญ้าออกไปหาถนน แต่ไม่น่าจะออกไปได้แต่ก็ตัดสินใจขับออกไป เหตุการณ์บนรถในขณะนั้น ในขณะที่กำลังเลี้ยวรถเพื่อขับผ่านทุ่งหญ้าออกไปนั้นได้มีอาการบางอย่างที่เป็นสัญญาณแสดงให้เห็นว่าหลวงปู่จะละสังขารอย่างแน่นอนให้คนที่อยู่บนรถเห็น ต่างคนก็ร่ำไห้มองดูด้วยความอาลัยและสิ้นหวัง หลวงปู่เริ่มหายใจแผ่วลงเรื่อยๆ ในที่สุดก็ได้ทอดมือทิ้งลงข้างกาย แล้วจากไปด้วยความสงบ อย่างไรก็ตามลูกศิษย์ก็ยังคงนำหลวงปู่ไปที่โรงพยาบาล เผื่อว่าหมอจะสามารถช่วยให้หลวงปู่ฟื้นขึ้นมาได้ ในระหว่างทางไปโรงพยาบาล นายสาด ชาวบ้านตาปิ่น อำเภอบัวเชด ก็ขี่รถจักรยายนต์สวนทางมา นายจุกชะลอรถและตะโกนบอกให้นายสาดตามไปที่โรงพยาบาลบัวเชด พอไปถึงโรงพยาบาล ทั้งนายแพทย์และพยาบาลได้รีบนำหลวงปู่เข้าห้องฉุกเฉินทำการตรวจโดยละเอียด และลงความเห็นว่าหลวงปู่ได้สิ้นลมไปแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ถึง 4 ชั่วโมง ซึ่งลูกศิษย์ต่างก็ยืนยันว่าสิ้นลมไม่น่าจะเกิน 10 นาทีแน่นอน เพราะระยะทางจากบ้านรุนไปโรงพยาบาลบัวเชดประมาณ 10 กิโลเมตร และก็ได้ขับรถด้วยความเร็วสูงด้วย ลูกศิษย์ไม่ให้ทางโรงพยาบาลฉีดยา หรือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งกับร่างของหลวงปู่ทั้งสิ้น เมื่อเห็นว่าไม่สามารถจะช่วยหลวงปู่ได้แน่แล้ว ก็ได้พากันนำร่างหลวงปู่กลับพอมาถึง บ้านตาปิ่น ก็ได้แวะเอาจีวรเก่าของหลวงปู่ที่เคยให้ไว้กับนายสาด เพื่อนำมาครองให้หลวงปู่ให้อยู่ในสภาพที่เรียบร้อย และนายสาดก็ได้ขึ้นรถมาด้วยพอมาถึงบ้านรุนก็มีรถนายสัญชัยและนายน้อยจอดรออยู่ ก็ได้แจ้งว่าหลวงปู่ได้มรณภาพแล้ว และได้พากันขับรถมุ่งหน้าจะไปบ้านละลม พอถึงบ้านไพรพัฒนา นายจุกได้ขับรถแวะเข้าไปที่วัดบ้านไพรพัฒนา และได้บอกข่าวให้กับหลวงพ่อพุฒ วายาโม เจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนาให้ทราบ ว่าหลวงปู่สรวงได้ละสังขารแล้
kruba
บันทึกการเข้า
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
พลังน้ำใจ :
634
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 982
Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com
Level 25 : Exp 44%
HP: 0%
อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี
เหตุการณ์ที่วัดไพรพัฒนา
«
ตอบ #4 เมื่อ:
09 ตุลาคม 2554, 22:48:58 »
วลาประมาณ 19.00 น. ในขณะที่หลวงพ่อพุฒกำลังสนทนากับพระลูกวัดก็ได้มีรถเข้ามาจอดจำนวน 4 คัน โดยมีนายสาด ลงมาแจ้งกับหลวงพ่อพุฒว่าหลวงปู่สรวงมรณภาพแล้ว หลวงพ่อพุฒอึ้งไปขณะหนึ่ง ก็ได้ถามว่ามรณภาพที่ไหน นายสาดตอบว่าที่โรงพยาบาล และได้นำศพของท่านมาพร้อมกับรถนี้แล้ว หลวงพ่อพุฒจึงได้ลงไปเปิดประตูรถดู และได้กราบลงบนตักของหลวงปู่ และได้จับตามร่างกายและหน้าอกของหลวงปู่ดู และก็รู้สึกได้ว่าท่านได้ละสังขารจริงๆ และถามลูกศิษย์ที่นำสังขารหลวงปู่มา ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ลูกศิษย์ทุกคนรวมทั้งนายสัญชัยได้บอกว่าจะนำสังขารของหลวงปู่ไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านขยุง หลวงพ่อพุฒ บอกว่าให้เดินทางไปก่อนแล้วอาตมาจะตามไป ขบวนรถทั้ง 4 คันก็ได้เคลื่อนออกจากวัดไพรพัฒนาจะไปยังวัดบ้านขยุง หลวงพ่อพุฒจึงครองจีวรเตรียมอุปกรณ์เรียกหาพระลูกวัดก่อนจะออกเดินทางได้อธิษฐานว่า ?สาธุ ถ้าหากหลวงปู่มีความประสงค์จะให้ลูกหลานได้เป็นผู้บำเพ็ญกุศล ก็ขอให้หลวงปู่ได้กลับมาที่วัดด้วยเถิด? แล้วก็ได้นั่งรถติดตามไปที่บ้านขยุงแต่ไปถึงแค่บ้านโคกชาด มีรถหลายคันจอดอยู่และได้ให้สัญญาณไฟ จึงได้จอดดูแล้วปรากฏว่าเป็นรถที่จะนำสังขารหลวงปู่ไปที่วัดบ้านขยุง ได้บอกหลวงพ่อพุฒว่าให้กลับไปที่วัดไพรพัฒนา แล้วก็ขับออกนำหน้า หลวงพ่อพุฒก็ได้นั่งรถตามมา พอมาถึงวัดเห็นรถที่มีสังขารหลวงปู่จอดอยู่ที่ด้านทิศตะวันออกของศาลา จึงได้บอกว่าอย่าพึ่งทำอะไรให้อยู่อย่างนี้ก่อน และได้สั่งให้พระลูกวัดจัดเตรียมสถานที่ตั้งศพบนสาลา ส่วนหลวงพ่อพุฒเองได้นำธูปเทียนมากราบไหว้ขอขมาลาโทษ และนิมนต์ร่างของหลวงปู่ขึ้นมาตั้งตรงสถานที่ๆ จัดไว้บนศาลา และได้จุดธูปอธิษฐานว่า ? หากเป็นความประสงค์ของหลวงปู่จะให้ลูกหลานบำเพ็ญกุศลในที่นี่จริง ก็ขอให้ดำเนินการไปโดยเรียบร้อย และขอให้มีลูกศิษย์ของหลวงปู่ได้มาร่วมบำเพ็ญกุศลโดยทั่วกัน? ต่อจากนั้นได้ดำเนินการบำเพ็ญกุศลให้กับหลวงปู่อย่างที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน
นี่คือเหตุการณ์ทั้งหมดว่าเหตุใด สรีระของหลวงปู่สรวงจึงได้มาตั้งบำเพ็ญ กุศลอยู่ที่บ้านไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ
kruba
บันทึกการเข้า
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
พลังน้ำใจ :
634
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 982
Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com
Level 25 : Exp 44%
HP: 0%
อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี
Re: หลวงปู่สรวง ออยเตียนสรูล
«
ตอบ #5 เมื่อ:
09 ตุลาคม 2554, 22:50:12 »
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.sisaket.ru.ac.th/pra-sisaket/web_160251/prawatpu.html
pingfi.jpg
(66.89 KB, 880x570 - ดู 3805 ครั้ง.)
kruba
บันทึกการเข้า
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
หมวดทั่วไป
-----------------------------
=> ข่าวสารของทางชมรมฯและพูดคุยเรื่องทั่วไปสัพเพเหระ
===> วิธีสมัครสมาชิกและแจ้งปัญหาการใช้งาน
===> กฏกติกามารยาทชาวชมรมฯ
-----------------------------
ชมรมสืบสานตำนานบูรพาจารย์สายสำเร็จลุน
-----------------------------
=> ชมรมสืบสานตำนานบูรพาจารย์ศิษย์สายสำเร็จลุน
===> พุทธสถานวัดบูรพาจารย์สายสำเร็จลุน
===> หลวงปู่ใหญ่สำเร็จลุน
===> หลวงปู่ญาถ่านตู๋ ธัมมสาโร
===> หลวงปู่ญาถ่านกัมมัฏฐานแพง จันทสาโร
===> หลวงปู่ญาถ่านแสง อานันโท
===> หลวงปู่(สำเร็จ)เณรแก้ว
===> หลวงปู่ญาถ่านซาคำแดง
===> หลวงปู่ญาถ่านโทน กันตสีโล
===> หลวงปู่ญาถ่านทอง สุวัณโณ
===> หลวงปู่ญาถ่านฤทธิ์ โสภิโต
===> หลวงปู่ญาถ่านภูมาภิบาล
===> หลวงปู่ญาถ่านลี อุตตโร
===> หลวงปู่ญาถ่านสวน ฉันทโร
===> หลวงปู่ญาถ่านดี ภัทธิโย
===> หลวงปู่เพ็ชร ฐานธัมโม
===> หลวงปู่ญาถ่านคำบุ คุตฺตจิตฺโต
===> หลวงปู่ญาถ่านคล้าย อธิเตโช
===> หลวงปู่ญาถ่านอ่อง ฐิตธัมโม
===> หลวงปู่ญาถ่านทา นาควัณโณ
===> หลวงปู่ญาถานเกษม วัดเกษมสำราญ
===> หลวงปู่เครื่อง ธัมมจาโร
===> หลวงปู่เพ็ชร ปทีโป
===> หลวงปู่ด่อน อินทสาโร
===> หลวงปู่อ่วม สิริภทฺโท
===> หลวงปู่คำฝน สุทธิวัณโณ
-----------------------------
บูรพาจารย์สายหลวงปู่มั่น-หลวงปู่เสาร์
-----------------------------
=> บูรพาจารย์สายหลวงปู่มั่น-หลวงปู่เสาร์ ในจังหวัดอุบลราชธานี
-----------------------------
ห้องพระ
-----------------------------
=> พระคณาจารย์อริยสงฆ์รวมจังหวัดอุบลราชธานี,ศรีสะเกษ,ยโสธร,อำนาจเจริญและมุกดาหาร
===> พระครูวิโรจรัตโนบล (หลวงปู่รอด)
===> พระอุปัชฌาย์แดง หนองบัวฮี
===> หลวงปู่มั่น ทัตโต
===> พรครูศรีสุตาภรณ์
===> หลวงปู่เลิศ วัดหนองหลัก
===> พระครูชิโนวาทสาทร
===> หลวงปู่ชา สุภัทโท
===> หลวงปู่บุญมี โชติปาโล
===> หลวงปู่บุญชู วัดบ้านวังมน
===> หลวงพ่อใหญ่วัดพิชบ้านแก้ง
===> หลวงปู่มาย จันทสีโล
===> หลวงปู่มหาประดิษฐ์ อุตฺตโม
===> หลวงตาเคน ฉินฺนาลโย ที่พักสงฆ์ถ้ำแตก
===> พระครูวิบูลธรรมธาดา(หลวงพ่อกาว ธมฺมทินฺโน)
===> หลวงปู่ทา ธมฺมธโร วัดบ้านหมากมี่
=> พระคณาจารย์อริยสงฆ์ทั่วประเทศ
-----------------------------
ห้องเวทย์วิทยาคมและสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ
-----------------------------
=> ฆราวาสผู้เรืองวิทยาคม
=> เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)
-----------------------------
พระเครื่องและวัตถุมงคล
-----------------------------
=> ร้านพระเครื่อง VIP (ชมรมเพื่อนอนุรักษ์พระแท้)
===> นิธิปรัชญ์พระเครื่อง
===> แดนเมืองอุบล
===> อิศานปุระ
===> เเงซายพระเครื่อง
=> วิชาการ ถาม-ตอบ เกี่ยวกับพระเครื่องและวัตถุมงคล
=> ให้เช่า-รับเช่า-แลกเปลี่ยนพระเครื่องและวัตถุมงคล
===> ประมูลพระเครื่อง
=====> ประมูลพระเครื่องสายอีสาน
=====> ประมูลพระเครื่องเมืองสยาม(นอกเหนือภาคอีสาน)
=====> ประมูลเครื่องรางของขลัง
===> แนะนำพระใหม่
===> ให้เช่าวัถุมงคล เพื่อการกุศลเท่านั้น
-----------------------------
ประวัติศาสตร์ บุคคลสำคัญ วัฒนธรรม ประเพณี พุทธสถานและแหล่งท่องเที่ยวภาคอีสาน
-----------------------------
=> ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี ท้องถิ่น
=> วีรชน 2 ฝั่งโขง
=> พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์และพุทธสถานที่สำคัญภาคอีสาน
=> สถานที่ท่องเที่ยวภาคอีสาน
-----------------------------
มุมนักอ่าน ลานนักเขียน
-----------------------------
=> ปรัชญาพาที กวี ธรรมะ
=> เเนะนำหนังสือน่าอ่าน
=> ส่องสนามเมืองนักปราชญ์ โดย อ.แดน เมืองอุบล
กำลังโหลด...