middle spirit
|
 |
« ตอบ #735 เมื่อ: 02 มิถุนายน 2568, 05:43:23 » |
|
คนมีปัญญาอาศัยธรรมะ เป็นเครื่องปรับปรุงกายและใจของตน เอาปัญญาเข้ามาพิจารณาจิตที่มันเป็นโลกนั้น ให้กลายมาเป็นธรรม หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี จากหนังสือธรรมเล่มที่๘๐
|
.
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
middle spirit
|
 |
« ตอบ #736 เมื่อ: 03 มิถุนายน 2568, 05:35:19 » |
|
พองดเว้นตรงที่จิต ไม่คิดทะเยอทะยาน ดิ้นรนอยากได้เท่านั้น ศีล บริสุทธิ์เลย หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี จากหนังสือธรรมะเล่มที่๘๙
|
.
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
middle spirit
|
 |
« ตอบ #737 เมื่อ: 04 มิถุนายน 2568, 05:44:30 » |
|
สิ่งใดที่ไม่สบอารมณ์ของเรา อย่าผลุนผลันหันแล่น ต้องยับยั้ง ตั้งสติพิจารณาเสียก่อน หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี จากหนังสือธรรมะเล่มที่๔๑
|
.
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
middle spirit
|
 |
« ตอบ #738 เมื่อ: 04 มิถุนายน 2568, 11:47:02 » |
|
พระพุทธเจ้าทรงสอน ให้ขัดเกลาจิตใจของเราไม่ให้คิดชั่ว ทำความเพียรพยายามคิดแต่ทางดี ทางบุญ ทางกุศล ผลักดันความชั่วให้มันออกไป จิตใจให้ผ่องใสอยู่เสมอเป็นสุข สุขอะไรจะสุขเท่าอันนี้ไม่มี หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี จากหนังสือธรรมะเล่มทที่58
|
.
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
middle spirit
|
 |
« ตอบ #739 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2568, 06:09:27 » |
|
คนเราเกิดมาในเมืองมนุษย์ ต้องพบมนุษย์อยู่ร่ำไป พระพุทธเจ้าสอนให้อยู่ด้วยความสงบวิเวกด้วยใจ อย่าไปยึดเอาเรื่องของคนอื่นมาไว้เป็นอารมณ์ของใจ แล้วก็จะวิเวกอยู่คนเดียว ถ้าใจไม่สงบแล้วจะอยู่ในป่าคนเดียว มันก็ไม่สงบอยู่ดีๆนั้นเอง หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี ปุจฉาวิสัชนาในต่างประเทศ ณ.ประเทศออสเตรเลีย วันที่ 19 พ.ย. – 12 ธ.ค. พ.ศ. 2519
|
.
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
middle spirit
|
 |
« ตอบ #740 เมื่อ: 06 มิถุนายน 2568, 05:02:06 » |
|
*********************** อวดอุตริมนุสธรรม************************** คำถาม ๑ ขอโอกาสครับ ท่านอาจารย์ การที่เราจะเริ่มมีการพูดเกี่ยวกับภาวนาสมาธินี้มันไม่เป็นการอวดอุตริมนุสธรรมหรือครับ ? เพราะต้องพูดเกี่ยวโยงไปถึงฌานสมาธิสมาบัติ แม้กระทั่งมรรคผลนิพพาน มันจะไม่เป็นทุกข์เป็นโทษเกี่ยวกับอาบัติที่พระพุทธองค์ได้ทรงวางไว้ หรือครับ ? ------------------------- คําตอบ ๑ สนทนากันเรื่องธรรมปฏิบัติแล้วนั้น จำเป็นจะต้องพูดถึงเรื่องจิต พูดถึงเรื่องจิตก็หมายถึงต้องพูดถึง เรื่องสมาธิกับเรื่องสมถะ สมถะก็พูดถึงเรื่องฌานสมาบัติหรือตลอดถึงมรรคผล นิพพานนั่นเอง จำเป็นจะต้องพูด ถ้าไม่พูดอย่างนั้นก็ไม่ทราบว่าจะรู้กันได้อย่างไร ในพระธรรมหรือวินัย ท่านก็สอนไว้ว่า อธิศีลสิกขาให้ศึกษาอธิศีล อธิจิตสิกขาให้ศึกษาอธิจิต ก็ได้แก่สมาธิหรือฌานสมาธิ อธิปัญญาสิกขาก็ให้ศึกษาอธิปัญญา หมายความถึงปัญญา รู้แจ้งแทงตลอดถึงมรรคผล นิพพาน ถ้าไม่พูดเรื่องนี้ก็คงไม่รู้เรื่องกัน ที่ท่านบัญญัติสิกขาบทบางข้อบางตอนไว้ว่า ภิกษุอวด อุตริมนุสธรรม คือกล่าวถึงฌานสมาธิสมาบัติมรรคผลนิพพาน แม้แต่พูดถึงความสงบของจิตของใจ ท่านปรับอาบัติปาราชิกด้วย เหตุที่ผู้พูดมีเจตนาอวดอุตริ ท่านบอกตรง ๆ เลยว่าอวดอุตริคําว่า ' อวดอุตริ ' ในที่นี้หมายความว่า อวดความดีความงามของตน ตั้งแต่ฌานสมาธิสมาบัติขึ้นไป เพื่อให้เขาเลื่อมใสศรัทธา ปรารถนาลาภผลทั้งที่มีอยู่และไม่มีอยู่ในตน ไม่พ้นจากอาบัติโดยแท้ถ้ามีอาบัติเบา แต่ที่พวกเราพากันสนทนากันไม่ได้มุ่งอย่างนั้นต้องการมุ่งที่จะเข้าใจในหลักปฏิบัติว่า อะไรผิดอะไรถูก ทำอย่างไรถึงถูกทำอย่างไรถึงผิด ที่เป็นไปอย่างนั้นเป็นสมาธิที่เป็นไปอย่างนั้นเป็นฌาน อันเป็นมรรคอันเป็นผล เราพูดกันอย่างนี้เรียกว่าเป็นการศึกษาโดยเฉพาะเพื่อแสวงหาแนวปฏิบัติให้ถูก ถ้าไม่ศึกษาไม่อบรมไม่สอนกันเชนนี้แล้วไม่ทราบจะสอนกันอย่างไร พระพุทธเจ้าและพระ สาวกทั้งหลายท่านเผยแพร่พระพุทธศาสนา ท่านก็สอนและเผยแพร่อย่างนี้ทั้งนั้น จึงพากันเข้าใจ เถิดว่าไม่เป็นอาบัติ เราศึกษาเพื่อความบริสุทธิ์หมดจด เพื่อให้เข้าใจในอรรถธรรมในพุทธศาสนา โดยชัดเจน เหตุนั้นจึงไม่ได้จัดเป็นนการอวดอุตริมนุสธรรม ธรรมปฏิบัติ พระชัยชาญ ชยธมฺโม ถาม หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ตอบ
|
.
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
middle spirit
|
 |
« ตอบ #741 เมื่อ: 06 มิถุนายน 2568, 18:25:33 » |
|
ทำสิ่งใด ถ้าหากว่าทำดี ถูกต้อง นั้น ไม่เป็นเครื่องกระทบกระเทือนทั้งตนและคนอื่น คือไม่ทำความเสียหายแก่ตนและคนอื่น ไม่ทำความเดือดร้อนให้แก่ตนและทั้งคนอื่นด้วย นั่นแหละ “หลักความดี” หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี กระจกเครื่องส่อง แสดง ณ วัดหินหมากเป้ง ๑๓ ตุลาคม ๒๕๑๘
|
.
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
middle spirit
|
 |
« ตอบ #742 เมื่อ: 08 มิถุนายน 2568, 05:28:54 » |
|
ความดีของคนที่จะดีขึ้นมา ไม่ใช่ปล่อยตามกระแส ชีวิตของคนที่ปล่อยตามกระแสมันไม่มีดีขึ้นมาเลย หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี จากหนังสือธรรมเล่มที่๘๖
|
.
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
middle spirit
|
 |
« ตอบ #743 เมื่อ: 09 มิถุนายน 2568, 05:52:48 » |
|
“...#ศีลเป็นคุณธรรมช่วยป้องกันความชั่ว ไม่ให้รั่วไหลเข้ามาหากาย วาจา ใจ ของผู้รักษาไว้ได้อย่าง ดีเลิศ ยิ่งกว่าเครื่องป้องกันอะไรทั้งหมด เมื่อความชั่วไม่รั่วไหลเข้ามาถึงกาย วาจา ใจแล้ว ศีล ยังเป็นเครื่องปรับปรุง แต่งกาย วาจา ใจ ให้สะอาดเยือกเย็น เป็นรากฐานของสมาธิอีกด้วย ฉะนั้น ศีล จึงเป็นเครื่องเสริมสร้างคุณงามความดี ตั้งแต่เบื้องต้นจนอวสาน ช่วยสร้างคนให้เป็นพระ ช่วยสร้างพระธรรมดาให้เป็น พระอริยเจ้า...” หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี วัดหินหมากเป้ง อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย
|
.
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
middle spirit
|
 |
« ตอบ #744 เมื่อ: วันนี้ เวลา 06:25:39 » |
|
"ถ้าจะชนะโลกได้ ต้องเอาชนะตนเองเสียก่อน ความชนะโลกย่อมไม่มีแก่บุคคลที่ไม่ชนะตนเอง" หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี .
|
.
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|