พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ ( หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี )

[middle spirit]

ถ้าเราไปเอาเรื่องคนอื่น
มาเกาะเกี่ยวไว้กับจิตกับใจของเรา
เป็นทุกข์ทั้งนั้น
เลยเป็นโลกทั้งหมด
ไม่มีธรรมในตัวของเรา
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๖๕

[middle spirit]

เอาชนะความโลภ ด้วยการจำแนกแจกปั่นจนให้ชินต่อความเป็นผู้มีใจกว้าง
อาจได้ประสบอารมณ์ที่พึงพอใจจากบุคคลที่ได้รับการแบ่งปันคนใดคนหนึ่ง
จะเอาชนะความโลภขี้เหนียวของคนอื่น
ก็ต้องด้วยการสละของส่วนตัวเสียก่อน แล้วเขาจึงจะคอยคลายความโลกขี้เหนียวลงได้ ความโลภเปรียบเหมือนลมที่อัดเข้าไปในกระบอก
หากไม่ระบายออกบ้างมันอาจเกิดระเบิดขึ้นได้
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
สงคราม 27 ส.ค. 2506

[middle spirit]

หัดเป็นคนสร้างบุญกุศลอย่าให้เป็นคนจน
คุณงามความดีมีปรากฏขึ้นในใจของตนแล้ว
ได้ชื่อว่าเป็นมหาเศรษฐีบุญกุศล
อยู่ในโลกนี้ก็เป็นผู้ไม่จน
ละโลกนี้ไปแล้ว ก็เป็นผู้ไม่จน
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๕๑

[middle spirit]

คนส่วนมากมองดูความสุขเพียงผิวเผิน
ได้เงินเท่านั้นแหละเป็นความสุข เพราะเงินมีดีอย่างเดียวจะซื้ออะไรได้หมด
แต่หาได้คิดไม่ว่า เงินไม่ได้ไปหาซื้อของเหล่านั้นมาให้เรา
แต่เราต้องเอาเงินไปซื้อของเหล่านั้นเอง
เงินมันนอนเอกเขนกอยู่ในกระเป๋าแม้แต่เงินเองมันก็ไม่รู้ค่าราคาของมันด้วยซ้ำ
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
ปุจฉาวิสัชนาในต่างประเทศ

[middle spirit]

เรามีอิสระสามารถทำความดีได้เต็มที่
สามารถทำให้ จิตอยู่เหนือโลกได้
โดยไม่กีดขวางและกระทบกระเทือนใครๆทั้งหมด
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๒๕

[middle spirit]

คนไทยในเมืองไทยโดยมาก เพียงแต่เอาพุทธศาสนามาถือไว้
ไม่ได้ปฏิบัติตามพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง
จึงมีแต่ชาวพุทธเป็นส่วนมาก พุทธบริษัทที่แท้มีน้อยเหลือเกิน
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี

[middle spirit]

ขอถึง – ถึงแล้ว พระรัตนตรัย
--------------------------------
ขอถึง คือ เห็นว่าพระไตรสรณคมน์เป็นของดี
 คนส่วนมากเขาถือกัน เราก็อยากจะถือบ้างเพื่อจะได้เป็นคนดีกับเขา
และก็ไปขอถึงกับเขาบ้าง แต่ไม่รู้จักไตรสรณคมน์ นั้นเป็นอย่างไร
จะรู้บ้างก็เป็นแต่คำพูดของคนอื่น หรือตามตำราเท่านั้น
ไม่ซาบซึ้งเข้าถึงจิตใจของตนจริงๆ นี่เรียกว่า ขอถึง
                                  ----------------
ถึงแล้ว คือ ผู้ที่เข้าถึงพระรัตนตรัยเบื้องตน ด้วยการ ได้ยิน ได้ฟัง ได้เห็นเสียก่อน
เช่น เห็นพระพุทธเจ้าด้วยตาของตนเอง  หรือเห็นแล้วได้ฟังธรรมเทศนาของพระองค์
หรือได้ฟังธรรมเทศนาผที่พระองค์ใดหนึ่งองค์หนึ่งเทศน์ให้ฟัง
หรือได้เห็นพระอริยสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง
แล้วเกิดศรัทธาเลื่อมใสขึ้นในใจ แล้วจิตใจของผู้นั้นเข้าถึงคือ
เลื่อมใสศรัทธาเอาเป็นสรณะที่พึ่งจริงๆ
ไม่เอาที่พึ่งอื่น เช่น ภูต ผี ปีศาจ ต้นไม้ ภูเขา เทวดา เป็นต้น
สิ่งที่เป็นที่พึ่งมาแต่ก่อนทั้งหมด แล้วก็ไม่ได้คำนึงถึงข้อที่ท่านบัญญัติไว้ 5 ปะการ
พระรัตนตรัยนี้ เป็นเครื่องวัดของพุทธมามะกะในพระพุทธศาสนาโดยแท้ คือ
เราขอถึงพระพุทธเจ้า ๑
ขอถึงพระธรรม ๑
ขอถึงพระอริยสงฆ์ ๑
ไม่ถือมงคลตื่นข่าว คือ เชื่อกรรม เชื่อผลของกรรม เราทำกรรมดีย่อมได้รับผลเป็นสุข
ตอบแทนด้วยตนเอง เราทำกรรมชั่วย่อมได้รับผลเป็นทุกข์ตอบแทนด้วยตนเอง คนอื่นจะรับแทนไม่ได้ ๑
ไม่ทำบุญนอกจากพระพุทธศาสนา ( เว้นแต่ทำเพื่อสงเคราะห์ อนุเคราะห์ ) ๑
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
ของดีในพระพุทธศาสนา

[middle spirit]

ให้เห็นตัวของตนอยู่เสมอ รู้ตัวของตนอยู่เสมอ
ทำแล้วให้ปล่อยวาง ให้เข้าหาตัวเองนี้
นิ่งแน่วอยู่เสมอ อันนี้เรียกว่า เป็นผู้ไม่ประมาทโดยแท้
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๙๑

[middle spirit]

การปฏิบัติธรรม
เป็นการ ชำระใจ อย่างเดียว
ให้ ใจ ใสสะอาด
เมื่อเราเข้าใจและรักษา ใจ ได้
เป็นการฟังธรรม อยู่ตลอดเวลา
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมเล่มที่๔๗

[middle spirit]

กรรมและเวร
เป็นของที่ทำด้วยกาย
และใจของตนจริงๆ
กรรมและเวรจึงต้องชำระด้วยใจ
ที่ใจของตนทุกๆคน
ถ้าไม่ชำระใจของตนแล้ว
ก็ไม่ทราบว่าจะชำระอย่างไร
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี

[middle spirit]

โลก กับ ธรรม อันเดียวกัน
ถ้าใจเราเป็นธรรม สิ่งทั้งหลายในโลกอันนี้ก็เป็น ธรรม
ถ้าจิตของเราเป็นโลก มันไม่สงบ
ทั้งตัวของเรา ของคนอื่น
ภายนอกภายในมันก็เป็นโลกไปหมด
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๙๓

[middle spirit]

กรรมที่ตนกระทำไว้แล้ว
ไม่ว่ากรรมดีและกรรมชั่ว
ผลของกรรมนั้นย่อมเกิดที่ใจของตนเอง
มิใช่ผู้ทำกรรมผู้หนึ่ง เจ้ากรรมนายเวรอีกผู้หนึ่ง
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
(คำตอบ 1.3หัส 2 หน้า 487)

[middle spirit]

กระทบแต่ก็ไม่เข้าถึงใจ เราจับหลักอันนั้นได้
แน่วแน่อยู่ในหลักอันนั้น
เชื่อมั่นอยู่ในหลักอันนั้น
ตั้งอยู่อันนั้นแหละ
เป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์อย่างแน่นอน
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๘๒

[middle spirit]

พระพุทธเจ้าทรงสอน
ให้ขัดเกลาจิตใจของเราไม่ให้คิดชั่ว
ทำความเพียรพยายามคิดแต่ทางดี ทางบุญ ทางกุศล
ผลักดันความชั่วให้มันออกไป
จิตใจให้ผ่องใสอยู่เสมอเป็นสุข
สุขอะไรจะสุขเท่าอันนี้ไม่มี
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๕๘

[middle spirit]

ผู้ถาม ; ถ้าปล่อยวางหมด พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ก็ไม่มีใช่หรือไม่?
หลวงปู่เทสก์ : ยิ่งปล่อยวางได้มากเท่าไหร่
                   พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ยิ่งสมบูรณ์ขึ้นเท่านั้น
                   เดี๋ยวนี้มันไม่ปล่อยวาง จึงต้องยุ่ง ยุ่งจนจะไม่มี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
                    และให้เข้าใจอีกด้วยว่า ผู้รู้เท่าและผู้ปล่อยวางมีอยู่ จึงปล่อยวางสิ่งนั้นได้
หลวงปู่เทสก์ เทสก์ เทสรํงสี
ปุจฉาวิสัชนาในต่างประเทศ
ณ.ประเทศออสเตรเลีย วันที่ 19 พ.ย. – 12 ธ.ค. พ.ศ. 2519