?>
ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์แห่งภาคอีสาน
The Buddhist Art Conservation Club Of Esan (North Eastern Part Of Thailand)
19 สิงหาคม 2568, 22:43:38 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  

กติกาในการ เช่า-แลกเปลี่ยนพระเครื่อง | พระเครื่องเมืองอุบลราชธานี | แจ้งปัญหาการใช้งาน
แจ้งเรื่องการยืนยันตัวตนสำหรับผู้ที่จะให้เช่าพระเครื่องฯ | วิธีสมัครสมาชิกเว็บ

หน้า: 1 ... 7 8 [9] 10
 81 
 เมื่อ: 06 มิถุนายน 2568, 18:25:33 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
ทำสิ่งใด ถ้าหากว่าทำดี ถูกต้อง นั้น
ไม่เป็นเครื่องกระทบกระเทือนทั้งตนและคนอื่น
คือไม่ทำความเสียหายแก่ตนและคนอื่น
ไม่ทำความเดือดร้อนให้แก่ตนและทั้งคนอื่นด้วย
นั่นแหละ “หลักความดี”

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
กระจกเครื่องส่อง
แสดง ณ วัดหินหมากเป้ง
๑๓ ตุลาคม ๒๕๑๘

 82 
 เมื่อ: 06 มิถุนายน 2568, 05:02:06 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
*********************** อวดอุตริมนุสธรรม**************************
คำถาม ๑ ขอโอกาสครับ ท่านอาจารย์ การที่เราจะเริ่มมีการพูดเกี่ยวกับภาวนาสมาธินี้มันไม่เป็นการอวดอุตริมนุสธรรมหรือครับ ? เพราะต้องพูดเกี่ยวโยงไปถึงฌานสมาธิสมาบัติ แม้กระทั่งมรรคผลนิพพาน มันจะไม่เป็นทุกข์เป็นโทษเกี่ยวกับอาบัติที่พระพุทธองค์ได้ทรงวางไว้ หรือครับ ?
-------------------------
คําตอบ ๑ สนทนากันเรื่องธรรมปฏิบัติแล้วนั้น จำเป็นจะต้องพูดถึงเรื่องจิต พูดถึงเรื่องจิตก็หมายถึงต้องพูดถึง เรื่องสมาธิกับเรื่องสมถะ สมถะก็พูดถึงเรื่องฌานสมาบัติหรือตลอดถึงมรรคผล นิพพานนั่นเอง จำเป็นจะต้องพูด ถ้าไม่พูดอย่างนั้นก็ไม่ทราบว่าจะรู้กันได้อย่างไร
ในพระธรรมหรือวินัย ท่านก็สอนไว้ว่า อธิศีลสิกขาให้ศึกษาอธิศีล อธิจิตสิกขาให้ศึกษาอธิจิต ก็ได้แก่สมาธิหรือฌานสมาธิ อธิปัญญาสิกขาก็ให้ศึกษาอธิปัญญา หมายความถึงปัญญา รู้แจ้งแทงตลอดถึงมรรคผล นิพพาน
ถ้าไม่พูดเรื่องนี้ก็คงไม่รู้เรื่องกัน ที่ท่านบัญญัติสิกขาบทบางข้อบางตอนไว้ว่า ภิกษุอวด อุตริมนุสธรรม คือกล่าวถึงฌานสมาธิสมาบัติมรรคผลนิพพาน แม้แต่พูดถึงความสงบของจิตของใจ ท่านปรับอาบัติปาราชิกด้วย เหตุที่ผู้พูดมีเจตนาอวดอุตริ
ท่านบอกตรง ๆ เลยว่าอวดอุตริคําว่า ' อวดอุตริ ' ในที่นี้หมายความว่า
อวดความดีความงามของตน ตั้งแต่ฌานสมาธิสมาบัติขึ้นไป เพื่อให้เขาเลื่อมใสศรัทธา ปรารถนาลาภผลทั้งที่มีอยู่และไม่มีอยู่ในตน ไม่พ้นจากอาบัติโดยแท้ถ้ามีอาบัติเบา
แต่ที่พวกเราพากันสนทนากันไม่ได้มุ่งอย่างนั้นต้องการมุ่งที่จะเข้าใจในหลักปฏิบัติว่า อะไรผิดอะไรถูก ทำอย่างไรถึงถูกทำอย่างไรถึงผิด ที่เป็นไปอย่างนั้นเป็นสมาธิที่เป็นไปอย่างนั้นเป็นฌาน อันเป็นมรรคอันเป็นผล เราพูดกันอย่างนี้เรียกว่าเป็นการศึกษาโดยเฉพาะเพื่อแสวงหาแนวปฏิบัติให้ถูก ถ้าไม่ศึกษาไม่อบรมไม่สอนกันเชนนี้แล้วไม่ทราบจะสอนกันอย่างไร พระพุทธเจ้าและพระ สาวกทั้งหลายท่านเผยแพร่พระพุทธศาสนา ท่านก็สอนและเผยแพร่อย่างนี้ทั้งนั้น จึงพากันเข้าใจ เถิดว่าไม่เป็นอาบัติ เราศึกษาเพื่อความบริสุทธิ์หมดจด เพื่อให้เข้าใจในอรรถธรรมในพุทธศาสนา โดยชัดเจน เหตุนั้นจึงไม่ได้จัดเป็นนการอวดอุตริมนุสธรรม
ธรรมปฏิบัติ

พระชัยชาญ ชยธมฺโม ถาม
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ตอบ

 83 
 เมื่อ: 05 มิถุนายน 2568, 06:09:27 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
คนเราเกิดมาในเมืองมนุษย์ ต้องพบมนุษย์อยู่ร่ำไป
พระพุทธเจ้าสอนให้อยู่ด้วยความสงบวิเวกด้วยใจ
อย่าไปยึดเอาเรื่องของคนอื่นมาไว้เป็นอารมณ์ของใจ
แล้วก็จะวิเวกอยู่คนเดียว
ถ้าใจไม่สงบแล้วจะอยู่ในป่าคนเดียว มันก็ไม่สงบอยู่ดีๆนั้นเอง

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
ปุจฉาวิสัชนาในต่างประเทศ
ณ.ประเทศออสเตรเลีย วันที่ 19 พ.ย. – 12 ธ.ค. พ.ศ. 2519


 84 
 เมื่อ: 04 มิถุนายน 2568, 11:47:02 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
พระพุทธเจ้าทรงสอน
ให้ขัดเกลาจิตใจของเราไม่ให้คิดชั่ว
ทำความเพียรพยายามคิดแต่ทางดี ทางบุญ ทางกุศล
ผลักดันความชั่วให้มันออกไป
จิตใจให้ผ่องใสอยู่เสมอเป็นสุข
สุขอะไรจะสุขเท่าอันนี้ไม่มี

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มทที่58

 85 
 เมื่อ: 04 มิถุนายน 2568, 05:44:30 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
สิ่งใดที่ไม่สบอารมณ์ของเรา
อย่าผลุนผลันหันแล่น
ต้องยับยั้ง ตั้งสติพิจารณาเสียก่อน

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๔๑

 86 
 เมื่อ: 03 มิถุนายน 2568, 05:35:19 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
พองดเว้นตรงที่จิต
ไม่คิดทะเยอทะยาน
ดิ้นรนอยากได้เท่านั้น
ศีล บริสุทธิ์เลย

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๘๙

 87 
 เมื่อ: 02 มิถุนายน 2568, 05:43:23 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
คนมีปัญญาอาศัยธรรมะ
เป็นเครื่องปรับปรุงกายและใจของตน
เอาปัญญาเข้ามาพิจารณาจิตที่มันเป็นโลกนั้น
ให้กลายมาเป็นธรรม

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมเล่มที่๘๐

 88 
 เมื่อ: 31 พฤษภาคม 2568, 21:53:58 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
สติ  เป็น เครื่องระลึกได้
สติ  อันนี้แหละระงับเสียซึ่ง
ความโลภ อยากได้ของเขา
และความทุกข์ใจทั้งหมดในโลก
เราจึงควรที่จะรีบเร่งฝึกฝนอบรมไว้

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๔

 89 
 เมื่อ: 31 พฤษภาคม 2568, 21:37:25 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
การรู้จิตของตนนี่แหละ
จึงเป็นผลให้ได้ความสงบ
ถ้ารู้เมื่อไรแล้ว สงบเมื่อนั้น
มีความสุขความสบาย
ครั้นไม่รู้แล้ว
มันส่งไปวุ่นวายในสิ่งต่างๆ
ให้เป็นทุกข์เดือดร้อน

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๖๓

 90 
 เมื่อ: 30 พฤษภาคม 2568, 16:24:29 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
#เสียแรงเป็นศิษย์หลวงปู่เทสก์
เห็นภาพนี้ แล้วนึกถึงบนสนทนา ระหว่าง ในหลวงรัชกาลที่ 9 กับ พล.อ.อ หะริน เรื่องสมาธิ
ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงถาม พล.อ.อ.หะรินว่า คนเราหายใจเข้าออก นาทีละกี่ครั้ง พล.อ.อ.หะริน : “คงประมาณ 18 ครั้ง พระพุทธเจ้าข้า”
ในหลวง ร.9 : “ชั่วโมงละกี่ครั้ง”
พล.อ.อ.หะริน : “ประมาณ 1,080 ครั้ง พระพุทธเจ้าข้า”
ในหลวง ร 9 : “วันหนึ่งเล่า”
พล.อ.อ.หะริน: “ตอนนี้ข้าพระพุทธเข้าต้องขอพระราชทานใช้เครื่องคิดเลข พระพุทธเจ้าข้า….ประมาณ 26,000ครัง พระพุทธเจ้าข้า”
ในหลวง ร.9 : “ปีหนึ่งล่ะ”
พล.อ.อ.หะริน : “ประมาณเก้าล้านสี่แสนหกหมื่น พระพุทธเจ้าข้า”
ในหลวง ร.9 : “แล้วหกสิบปี”
พล.อ.อ.หะริน : “ห้าร้อยหกสิบแปดล้าน พระพุทธเจ้าข้า”
ในหลวง ร.9 : “ลมหายใจนี่ ซื้อเขามาหรือเปล่า เสียภาษีหรือเปล่า”
พล.อ.อ.หะริน : (งงไปพักหนึ่ง) “เปล่า พระพุทธเจ้าข้า”
ในหลวง ร.9 : “แล้วได้อะไรบ้าง จากลมหายใจเกือบห้าร้อยเจ็บสิบล้านครั้ง เสียแรงเป็นลูกศิษย์เอกของหลวงปู่ (หลวงปู่ เทสก์) ตั้งแต่เกิดมา หายใจทิ้งหายใจขว้างไปหลายร้อยล้านครั้งแล้ว”
พล.อ.อ.หะริน : (ยังงงอยู่)
ในหลวง ร. 9 : “นั่งรถมาทำงานและกลับบ้าน ก็ไม่ต้องขับเอง มีคนขับให้ แล้วทำไมไม่ใช้ลมหายใจให้เป็นประโยชน์ มัวแต่ไปคิดอะไร ดูแม่ค้าทะเลาะกันข้างถนน ดูจราจรจับคนไม่สวมหมวกกันน็อค ดูเจ๊กขายก๋วยเตี๋ยว ดูเด็กขายพวง มาลัย แล้วได้อะไรบ้าง”
พล.อ.อ.หะริน : (นั่งนิ่ง)
ในหลวง ร. 9 : “ทีนี้ หัดใช้ลมหายใจให้เป็นประโยชน์เสียบ้าง เวลาไม่มีอะไรทำก็ภาวนาอานาปาณสติไป หายใจเข้า ภาวนา “พุท” หายใจออก ภาวนา “โธ” วันหนึ่งก็ทำสมาธิได้เหลือหลาย ไม่เอาลมหายใจที่ได้มาฟรีๆ ไม่เสียภาษี ไป ทิ้งขว้างเสียเปล่าๆ เดือนละไม่รู้กี่ล้านครั้ง”
ส่วนหนึ่งจาก บทความเรื่อง พ่อหลวง-หลวงพ่อ โดย พล.อ.อ.หะริน หงสกุล

หน้า: 1 ... 7 8 [9] 10
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.19 | SMF © 2006-2009, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!