|
......ตำราการสร้างดาบมหาศาสตราคมต้องลงอักขระเลขยันต์เสกปลุกทุกส่วนของมีด คือ ใบมีด ด้ามมีด ปลอกมีด เมื่อจะทำการสร้างดาบมหาศาสตราคม ขั้นแรกต้องจัดหาวัสดุโลหะธาตุต่างๆที่ใช้ทำใบมีดจะเป็นสิ่งที่ถือกันว่ามีอาถรรพ์อยู่ในตัว มีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัว ใช้โลหะหลายชนิดประกอบกันแล้วตีเป็นใบมีด โดยฤกษ์ยามคือสิ่งสำคัญ ......ฤกษ์ยามคือสิ่งสำคัญ โดยแบ่งออกเป็น 5 วาระ ดังนี้ วาระที่ 1 หลอมเหล็ก โดยประกอบพิธีกรรมขอขมาอาถรรพ์ในตัวเหล็ก ฤกษ์วาระที่ 1 วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ.2563 ฤกษ์เวลา วันเสาร์ 06.00 ถึง 08:29 น.ในวันอาทิตย์ ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบสอง(๑๒) ปีชวด จุลศักราช ๑๓๘๒ คริสตศักราช 2020 , มหาศักราช 1942 , รัตนโกสินทรศก 239 อธิกสุรทิน ปกติมาส อธิกวาร , โสรวาร(ส) กัตติกมาส โทศก วาระที่ 2 ตียึดเหล็กให้ยาว วาระที่ 3 บวงสรวงโลหะ วาระที่ 4 ขึ้นรูปดาบ โดยประกอบพิธีกรรมขอขมาครู วาระที่ 5 พุทธาภิเษกพระแสง ......ขั้นแรกต้องจัดหาวัสดุโลหะธาตุต่างๆที่ใช้ทำใบมีดจะเป็นสิ่งที่ถือกันว่ามีอาถรรพ์อยู่ในตัว มีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัว ใช้โลหะ 77 อย่างหลอมเข้ากันแล้วตีเป็นใบมีด การใช้เหล็ก 77 อย่าง นำมาผสม ดังนี้ 1.เหล็กจากยอดพระเจดีย์มหาธาตุ 2.เหล็กขนันผีพรายตายทั้งกลม 3.ตะปูตอกฝาโลงจาก 7 ป่าช้า 4.เหล็กที่เกิดการชำรุดจากอาวุธที่พังในการศึก 5.เหล็กแทงคอวัว 6.เหล็กเบญจพรรณกัลเม็ด 7.เหล็กหล่อบ่อพระแสง 8.เหล็กที่ใช้สำหรับตรึงโลงศพ 9.หม้อผีตายหง 10.หอกสัมฤทธิ์ 11.พระแสงหัก 12.เหล็กสลักประตู 13.เหล็กถ้ำต่างๆ 14.เหล็กกำแพง 15.เหล็กน้ำพี้ 16.ธาตุเงิน 17.ธาตุทอง 18.ธาตุทองแดง 19.ผงถ่านไม้ไผ่ 20.ผงตะไบพระต่างๆ 21.ยอดปราสาท 22.เหล็กประตูโบสถ์ 23.เหล็กประตูวัด 24.เหล็กประตูบ้านคนตายท้องกลม 25.เหล็กประตูบ้านคนผูกคอตาย 26.เหล็กสะพาน 27.เหล็กทางสามแพร่ง 28.เหล็กฟ้าผ่า 29.เหล็กลำกล้องปืนที่ยิงคนตาย 30.ตะปูสังฆวานร 31.บาตรพระเก่า 32.เหล็กน้ำพี้ 33.เหล็กน้ำลี้ 33.ชนวนทองล้น หล่อพระประทาน 34.เหล็กช่อฟ้าอุโบสถ 35.ยอดปลีฉัตรทองพระธาตุ 36.เหล็กเปียก 37.เหล็กตะแกรงเผาศพ 38.เหล็กดึงคอศพ 39.เหล็กพลิกศพ 40.ตะปูเผาผีตายโหง 41.กำไรสำริด 42.โซ่ตรวนนักโทษอุกฉกรรณ์ 43.ปรอทดำ 44.แร่เจ้าน้ำเงิน 45.แร่บริสุทธิ์(สังกะสี) 46.เศษสะเก็ดฟ้าผ่า หรือ(ที่เรียกว่าขวานฟ้าผ่า) 47.ลูกกระสุนปืนที่ยิงคนตาย 48.เหล็กกรงขัง 49.แร่เงินยวง 50.เหล็กแกนเจดีย์ 51.เหล็กสมอเรือสำเภาโบราณ 52.กั่นพร้าหัก 53.โซ่ล่ามช้าง 54.ตราชั่งโบราณ 55.ขอบบาตร 56.ตะขอช้าง 57.กรีชทองแดง 58.ผานไถ 59.พญาร้อยคุ้ง 60.เหล็กปอฉ้อ 61.เหล็กฐานเทียนชัย 62.เหล็กไอ้ใบ้ 63.เหล็กเที่ยงตรง 64.เหล็กแกะ 65.เหล็กไตรภพ 66.เหล็กลูกปืนใหญ่โบราณ 67.เหล็กหล่อบ่อพระขรรค์ 68.เหล็กใบเลื่อย 69.ธาตุทองเหลือง 70.เหล็กเตารีดโบราณ 71.ขวานเหล็กโบราณ 72.กาน้ำชาเหล็กโบราณ 73.ทั่งเหล็กโบราณ 74. กล่องเหล็กโบราณ 75. กุญแจเหล็กโบราณ 76.เหล็กเกราะโบราณ 77.เคี่ยวเกี่ยวข้าวโบราณ และบรรจุมวลสารอาถรรพ์ 77 ชนิด คัมภีร์มหาศาสตราคม หาเหล็กสําหรับทํามีดตามที่ระบุไว้ ในคัมภีร์มหาศาสตราคมมาจนครบถ้วนคือ เอาเหล็กยอดพระเจดีย์มหาธาตุ ยอดประสาททวารามาประสม เหล็กขนันผีพรายตายทั้งกลม เหล็กตรึงโลงตรึงปั้นลมสลักเพชร หอกสําฤทธิ์กริชทองแดงพระแสงหัก เหล็กปฏักสลักประตูตาปูเห็ด พร้อมเหล็กเบญจพรรณกัลเม็ด เหล็กบ้านพร้อมเสร็จทุกสิ่งแท้ เอาเหล็กไหลเหล็กหล่อบ่อพระแสง เหล็กกําแพงนําพี้ทั้งเหล็กแร่ ทองคําสําฤทธิ์นากอะแจ เงินที่แท้ธาตุเหล็กทองแดงคง ยังได้รวมด้วยเหล็กสารพัดบิ่น สารพัดหักอีกร้อยแปดชนิดมาร่วมด้วย เมื่อได้เหล็กมาพร้อมแล้ว จึงตั้งมณฑลพิธีล้อมด้วยราชวัฏฉัตรธงทั้ง๔ มุม ตรงกลางตั้งพิธีดาดด้วยผ้าขาว ลงยันต์เพดานทั้งหน้าหลัง แล้วหาเครื่องกระยาสังเวย สําหรับบูชาเทพยดาอารักษ์และครูบาอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาท อันประกอบด้วยมัจฉะมังษาหาร ๖ ประการ พร้อมเครื่องกระยาบวช ขนมแห้ง ขนมหวานอีกผลไม้ ๙ อย่าง เทียนเงินเทียนทองหนัก ๔ บาท ๑ คู่ เมื่อได้วันดีคือวันเสาร์ขึ้น ๑๕ คํา จึงบูชาครูบาอาจารย์และเทพยดาฟ้าดิน จึงเริ่มพิธีตีดาบขึ้นทันที เอาสูบทั่งตั้งไว้ในพิธี เอาถ่านที่ต้องย่างวางในนั้น ช่างเหล็กมีฝีมือลือทั้งกรุง ผ้าขาวนุ่งผ้าขาวห่มดูคมสัน วงสายสิญจ์เศกลงเลขยันต์ คนสําคัญคอยดูซึ่งฤกษ์ดี ครั้นได้พิชัยฤกษ์ราชฤทธิ์ พระอาทิตย์เที่ยงฤกษ์ราชสีห์ ขุนแผนสูบเหล็กให้แดงดี นายช่างตีรีดรูปให้เรียวปลาย ที่ตรงกลางกว้างงามสามนิ้วกึ่ง ยาวหนึ่งศอกกํามาหน้าลูกไก่ เผาชุบสามแดงแทงตะไบ บัดเดี๋ยวใจเกลี้ยงพลันเป็นมันยับแล้ว ลงกั่นดาบข้างแบน ด้วยคาถาบารมีพระพุทธเจ้าคือ อายันตุโภนโต อิธะทานะ สีละเนกขัมมะ ปัญญา สะหะวิริยะขันติ สัจจาธิฎฐานะเมตตุเปกขา ยุทธายะโว คัณหะถะอาวุธานิ ลงกั่นดาบด้านสัน ด้วยพระคาถาหัวใจพระยาสมาสดังนี้ นานามุสะระ หะระ บัพพะตะคะรุ กะลิงคะระ สะระธนู คะทาสิโต มาระหัตถา มาระคะนา เอาทองแดงที่ใช้สําหรับห่อหุ้มกั่นดาบมาลงถมด้วยพระคาถา นวหรคุณ ๑๐๘ คาบ อะสังวิสุโลปุสะพุภะ แล้วลงถมด้วยพระคาถาต่างอีก พระคาถาพุทธนิมิตร์ ลงถม ๙ คาบ พุทธัสสะ อิธิพุทธัสสะ พุทธะนิมิตตัง ปฏิมานะพุทโธ ธาตุพุทโธ นิมิตตะพุทโธ กายะพุทโธ สูญญะพุทโธ เอคะตานัง กายะรูปะสูญยัง พุทธะนิมิตตัง อิทธิฤทธิ์พุทธะ นิมิตตังลงถมอีก ๙ คาบด้วยคาถา อะสิ สัตติ ธนูเจวะ สัพเพ เต อาวุทธานิ จะ ภัคคะภัคคา วิจุณณานิ โลมังมาเมนะผุสสันติ ตามด้วยคาถาพรหมสี่หน้าลงถมอีก ๙ คาบ ว่า สหัสสะสีเส ปิเจโปโส สีเสสีเส สะตังมุกขา มุกเข มุกเข สะตังชิวหา ชีวะกัปโป มหิทธิโก นะสักโกติ จะวัณเณตุง ตามด้วยคาถาลงถมอีก ๙ คาบ บารมี ๓๐ ทัศน์ ว่า อิติปารมิตาติงสา อิติสัพพัญญูมาคะตา อิติโพธิมนุปปัตโต อิติปิโสจะเตนะโม ลงถมด้วยคาถามงกุฏพระพุทธเจ้า ๙ คาบ ว่า อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ อิเมนาพุทธะตังโสอิอิโสตังพุทธะปิติอิ และตามด้วยอรหันต์ ๘ ทิศ ๙ คาบ ว่า อิระชาคะตะระสา ติหังจะโตโรถินัง ปิสัมระโลปุสัตพุท โสมาณะกะริถาโธ ภะสัมสัมวิสะเทภะ คะพุทปันทูทัมวะคะ วาโธโนอะมะมะวา อะวิสุนุสานุติ แล้วตามด้วย คาถา ๙ คาบ พุทธังกันตัง ธัมมังกันตัง สังฆังกันตัง พุทธังสิทธิ ธัมมังสิทธิ สังฆังสิทธิ แล้วลงถมตามด้วยคาถา ๙ คาบ นะผุด ผัดผิด ปฏิเสวามิ แล้วจึงลงประทับด้วยคาถานี้อีกครั้งหนึ่งว่า สัตถาธะนุง อากัตถิตุง ทัตวา วิสัชเชตุง นาทาสิ ( บทนี้เมื่อลงให้ผ่อนลมหายใจออกลงจบเดียว ) กัณหะเนหะ หายใจเข้าพุทธังปัจจุขาด ธัมมังปัจจุขาด สังฆังปัจจุขาด ( หายใจเข้าออก สลับกันไปทีละบท ) สําหรับแผ่นทองแดงด้านหลังนั้นลงประทับด้วยพระคาถานี้ อะระหัง สุคะโต ภะคะวา ลงถม ๙ คาบแล้วตามด้วย นะโมพุทธายะ อิติปาระมิตาติงสา โนวะปะตานุภาเวนะ มาระเสนา อะติกกันตา มาระนิทรา ทัสสะปาระมิตา ทะมาระนิทรา ปาระชังฆานิทรา ทัสสะปาระมิตา โลหะกันตา นามะเตนะโม มาตาปิตุพุทธะคุณัง สัพพะสัตรูวิธังเสนตุ อะเสสะโต เอวังทัสสะวัณโณ ปฏิฐิตัง จักรวาฬะ สัพพะสัตตานุภาเวนะ มาราโมระอะติกกันตา ทัสสะพรหมมานุภาเวนะ สัพพะสัตรูวินาสสันติ เมื่อลงทองแดงห่อกั่นดาบแล้ว จึงเอาเกสร ๑๐๘ และยามุกใหญ่มาบดให้ละเอียด เพื่อบรรจุในด้าม (ยามุกใหญ่คือยาสารพะดอย่าง ) หินซึ่งใช้บดยานั้นลงด้วยพระคาถา มหาโสฬสมงคล ลงถม๙ คาบ ตามด้วยคาถาหัวใจพระธรรมเจ็ดคําภีร์๙ คาบ คาถาพรหมสี่หน้า ๙ คาบ คาถาพุทธนิมิต ๙ คาบคาถาพระเจ้า ๑๖ พระองค์ ๙ คาบคาถาอะระหันต์ ๘ ทิศ ๙ คาบคาถาบารมี ๓๐ ทัศน์ ๙ คาบ คาถาหัวใจสนธิ งะญะนะมะ ๙ คาบ คาถาพระกรณีย์ จะภะกะ๙ คาบ ขณะบดยาให้ภาวนาพระคาถานี้ งะญะนะมะ จะภะกะสะ นะมะพะทะ อะระหังสุคะโตภะคะวา อิกะวิติ อิสวาสุ สุสวาอิ นะโมพุทธายะ อะสังวิสุโลปุสะพุภะ ปะติลิยะติ พุทธังสิทธิ ธัมมังสิทธิ สังฆังสิทธิ จนกว่าจะบดยาเสร็จด้ามมีดให้ใช้ไม้ ชัยพฤกษ์ แกะเป็นรูปท้าวเวสสุวรรณ เขียนคาถาเป็นตัวเลข ลงที่องค์ท่าน ลงเลข ๓ ตรีนิสิงเหที่ปากท้าวเวสสุวรรณ ว่าด้วยสูตรคือ มะอะอุตรีนิสิงเห ลงเลข ๗ ที่ตาทั้งสองของท่านว่าสูตร สะธะวิปิปะสะอุสัตตะนาเค ลงเลข ๕ ที่อกของท่านว่า อาปามะจุปะปัญจะเพชรฉลูกัญเจวะ ลงเลข ๔ ที่หัวไหล่ทั้งสองของท่านว่า นะมะพะทะจัตตุเทวา ลงเลข ๖ ที่ขาทั้งสองของท่านว่า อิสวาสุฉอวัชชะราชา ลงเลข ๕ ที่ด้านหลังท่านว่า ทีมะสังอังขุปัญจะ อินทรานะเมวะจะ ลงเลข ๑ ที่ตาตุ่มทั้งสองข้างว่า มิเอกะยักขา ลงเลข ๙ ที่ศรีษะท่านว่า อะสังวิสุโลปุสะพุภะนวะเทวา ลงเลข ๕ ที่แขนซ้ายว่า สหะชะตะตรีปัญจะพรหมาสะหะบดี ลงเลข ๕ ที่แขนขวาว่า นะโมพุทธายะ ปัญจะพุทธานะมามิหัง ลงเลข ๒ ที่ศอกทั้งสองข้างว่า พุทโธทะเวราชา ลงเลข ๘ ที่สะโพกทั้งสองข้างว่า เสพุเสวะเสตะอะเส อัฏฐะอะระหันตา ใช้พระคาถาท้าวเวสสุวรรณลงด้ามมีดให้ทั่วว่า เวสสุวรรโณมหาราชา สัพเพเทวาเสเจวะ อาฬะวะกาทะโย ปิจะขัคคัง ตาละปัตตัง ทิสวา สัพเพยักขา ปะลายันติ เวสสุวรรโณมหาราชา จัตตุโลกะปาลายัสสะสิโน อิติภูตา มหาภูตา สัพเพยักขาปะลายันติ ลงกระบองท้าวเวสสุวรรณด้วย นะโมพุทธายะ จบคัมภีร์มหาศาสตราคม
|