?>
ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์แห่งภาคอีสาน
The Buddhist Art Conservation Club Of Esan (North Eastern Part Of Thailand)
24 ตุลาคม 2568, 23:09:38 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  

กติกาในการ เช่า-แลกเปลี่ยนพระเครื่อง | พระเครื่องเมืองอุบลราชธานี | แจ้งปัญหาการใช้งาน
แจ้งเรื่องการยืนยันตัวตนสำหรับผู้ที่จะให้เช่าพระเครื่องฯ | วิธีสมัครสมาชิกเว็บ

หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9 10
 71 
 เมื่อ: 20 สิงหาคม 2568, 10:14:02 
เริ่มโดย Alcoco - กระทู้ล่าสุด โดย rdi_rus
มารอฟังครับ

 72 
 เมื่อ: 20 สิงหาคม 2568, 06:10:30 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
ผู้ที่ตั้งอยู่ในพระรัตนตรัย ที่จักได้ชื่อว่าเป็นพระพุทธบริษัทที่แท้จริง
ต้องประกอบด้วยองค์คุณ ๕ ประการ คือ

(๑) มีความเชื่อมั่นในพระพุทธเจ้าว่า
      ท่านเองเป็นพระสยัมภู ตรัสรู้เองจริง
      แล้วไม่ติเตียนและเหยียดหยามดูหมิ่น

(๒) พระธรรมคำสอนของพระองค์นั้น
    เป็นนิยยานิกธรรมนำผู้ปฏิบัติตามให้เป็นคนดีได้
     ตามฐานะชั้นภูมิ ควรแก่การปฏิบัติของตนๆ
     แล้วเทิดทูนเอามาปฏิบัติตามโดยไม่มีความประมาท

(๓) พระอริยสงฆ์ผู้เชื่อฟังคำสอนของพระองค์แล้วนำเอาไปปฏิบัติตาม
     จนได้รู้แจ้งเห็นจริงตามพระองค์มีจริง
      จึงได้เป็นธรรมทายาท นำเอาคำสอนของพระองค์มาสั่งสอนพวกเรา
      จึงเป็นบุคคลที่เราควรเทิดทูนไว้ในที่ควรสักการบูชา

(๔) เชื่อกรรมเชื่อผลของกรรมว่า
      เราทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ด้วยตนเอง
      มิใช่เทวดาอินพรหมและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ภายนอกจะอำนวยผลให้เรา (มงคลตื่นข่าว)           
      ถือและปฏิบัติพระรัตนตรัยมิใช่เพื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์และโชคลาภ
      แต่ปฏิบัติตามให้เป็นคนดีจนพ้นจากทุกข์ได้ในที่สุด

(๕) ไม่ทำบุญนอกพุทธศาสนา
     หากจำเป็นจะต้องทำเพื่อสังคมก็ทำเพื่อสงเคราะห์
     มิใช่ทำนอกบุญญเขตในพุทธศาสนา
     ถ้าหากถึงขั้นพระอริยบุคคลที่เป็นฆราวาสแล้ว ต้องมีนิจศีลอีก
   
      ผู้จะเป็นพระพุทธบริษัทโดยสมบูรณ์ ต้องมีองค์คุณทั้ง ๕ ประการนี้เป็นประจำ แม้ผู้จะบรรพชาอุปสมบทเป็นสามเณรและเป็นพระภิกษุ ก็จะต้องมีองค์คุณทั้ง ๕ นี้ให้ครบเสียก่อน การบวชจึงจะสมบูรณ์

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
ที่มา พุทธศาสนาเสื่อมได้อย่างไร

 73 
 เมื่อ: 19 สิงหาคม 2568, 19:51:35 
เริ่มโดย pepyupp - กระทู้ล่าสุด โดย meawie33
ลองดูด้านข้างว่าเหรียญบวมมั้ย ถ้าบวมไม่ดีครับ  wan-e003

 74 
 เมื่อ: 19 สิงหาคม 2568, 06:10:47 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
จิตที่สงบนิ่งแน่วนั่น เป็นสุขอย่างยิ่ง
จิตที่สงบอย่างนั้น เป็นของหายาก
เพราะเหตุนั้นเราจึงต้องหัด
ทุกคนต้องหัดด้วยกันทั้งนั้น

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๘๘

 75 
 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2568, 06:38:37 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
เรามาแก้ตัวของเราอย่างเดียว
เขาจะโกรธจะเกลียดเรา
หรือเขาจะชอบอกชอบใจเรา
อันนั้นเป็นเรื่องของโลก
เราไม่ได้เอาอันนั้นมาเกี่ยวเกาะ
ไว้กับจิตกับใจของเรา
มันก็สบายเลย
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๖๕

 76 
 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2568, 06:16:52 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
เมื่อเกิดมาเป็นคน รู้ตัวว่าเราจะต้องตาย
จงรีบทำคุณงามความดีทำประโยชน์ไว้เสีย

การทำมากหรือทำน้อย ไม่เป็นปัญหา
ขอให้ตั้งเจตนาให้ดี
ให้เชื่อมั่นในบุญกุศลที่ตนทำนั่น
จิตใจแน่วแน่อยู่กับกุศลอันนั้น
ก็จะเป็นของมากอยู่เอง

ไม่ต้องเอาหน้า เอาเกียรติ
ไม่ต้องเอาชื่อ เอาเสียง
เอาเฉพาะใจของตนเอง
ตั้งศรัทธาแน่วแน่เฉพาะบุญกุศลที่ตนทำเอง
นั่นละ เป็นอานิสงส์มาก กุศลมาก ตรงนี้แหละ..”

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี

 77 
 เมื่อ: 16 สิงหาคม 2568, 05:56:10 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
ขั้นแรกเราต้องมีสติ
ฝึกฝนอบรมจิตให้สงบระงับ
ให้เป็นเรือนที่อยู่ของจิต
ให้จิตชองเราอยู่ในอำนาจของสติ
แล้วก็คอยมองแต่จิตของตัวเอง
อยู่ทุกอิริยาบถ

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๘๖

 78 
 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2568, 06:22:00 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
การภาวนา คือ การอบรมจิตใจให้มีความสงบ
เป็นการชำระจิตใจให้สงบจากอารมณ์ต่าง ๆ
ยิ่งเป็นการละเอียดไปกว่าการรักษาศีลอีก

จิตของเราถ้ายังไม่สงบตราบใดแล้ว มันก็จะต้องยุ่งวุ่นวายอยู่ตราบนั้น
เมื่อมาฝึกหัดภาวนา เห็นโทษเห็นภัย ของความยุ่ง ความไม่สงบด้วยตนเองแล้ว
เราก็จะพยายามทุกวิถีทางที่จะละความไม่สงบ
เมื่อสิ่งใดที่ละได้แล้ว อารมณ์ใดที่วางได้แล้ว
เราก็จะต้องรักษาไม่ให้สิ่งนั้น มันเกิดขึ้นมาอีก
ไม่ใช่ว่าเราละได้แล้ว ก็แล้วไปเลย ไม่ต้องคำนึงถึงมันอีก อย่างนั้นไม่ถูกต้อง
เพราะมันอาจสามารถที่จะฟื้นฟู ขึ้นมาใหม่อีก ถ้ามันเกิดมาทีหลังจะยิ่งร้ายกว่าเก่า

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี

 79 
 เมื่อ: 14 สิงหาคม 2568, 07:00:15 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
รู้อะไรไม่มีคุณประโยชน์เท่ารู้จิต
การเห็นจิตของเรานั่นแหละดี
มันคิดดี คิดชั่ว คิดหยาบ คิดละเอียดก็รู้
ดูจนกระทั่งมันวางลง
ถ้าเห็นอยู่เสมอๆแล้วมันก็วางหมด
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี

จากหนังสือธรรมะเล่มที่๙๐

 80 
 เมื่อ: 12 สิงหาคม 2568, 06:01:02 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
อายตนะทั้งหลาย เป็นเครื่องวัดจิตของตนได้อย่างดีที่สุด
เมื่ออายตนะ มากระทบจิตของเรา เราหวั่นไหวหรือไม่

เมื่อหวั่นไหวมาก ก็แสดงว่า มีสติน้อย
มีธรรมเป็นเครื่องอยู่ ก็ยังน้อย

เมื่อหวั่นไหวน้อย หรือไม่หวั่นไหวเสียเลย ก็แสดงว่า มีสติมาก
มีธรรมะเป็นเครื่องอยู่มาก แล้วรักษาตัวได้


หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี

หน้า: 1 ... 6 7 [8] 9 10
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.19 | SMF © 2006-2009, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!