?>
ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์แห่งภาคอีสาน
The Buddhist Art Conservation Club Of Esan (North Eastern Part Of Thailand)
13 มิถุนายน 2568, 15:06:24 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  

กติกาในการ เช่า-แลกเปลี่ยนพระเครื่อง | พระเครื่องเมืองอุบลราชธานี | แจ้งปัญหาการใช้งาน
แจ้งเรื่องการยืนยันตัวตนสำหรับผู้ที่จะให้เช่าพระเครื่องฯ | วิธีสมัครสมาชิกเว็บ

หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 10
 51 
 เมื่อ: 28 เมษายน 2568, 05:15:59 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
#จับตัวกลาง
"หลายนัย ที่เราจะจับตัวกลาง
อย่างว่า...เราคิดไปในอดีตนั้นเรียกว่า ไม่ใช่กลาง
คิดไปในอนาคต ก็ไม่ใช่กลาง
อย่าคิดไปในอดีต ในอนาคต
อย่าส่งไปตามอดีต อนาคต ให้มันเฉยๆ เสีย
นี่แหละ ค้นหาตัวกลางได้
เราไม่ยินดียินร้ายล่ะ
ยินดี ก็ไม่เอา ยินร้าย ก็ไม่เอา
วาง...กลางๆ ไม่ให้เกิดยินดียินร้าย หรือสมมุติว่า ยินดีอยู่ข้างขวา ยินร้ายอยู่ข้างซ้าย
เราวาดภาพขึ้นมาที่ใจของเรานั่น...
เราไม่เอาทั้งยินดียินร้าย
เราเอาตัวกลางๆ
อย่างนี้ค้นหาตัวกลางได้เหมือนกัน
มีหลายวิธีที่จะค้นหา ทีนี้ มันต้องการอยู่ว่า...
ยังไม่รู้ตัวกลาง คือมีลักษณะอย่างไร
อย่างที่เคยอธิบายให้ฟังว่า...กลั้นลมหายใจ
หายใจเข้า-หายใจออกไม่เอา
ไม่ต้องหายใจออก หายใจเข้า เฉยๆ...กลั้นเสีย
มันเป็นตัวกลางเหมือนกัน จับเอาตัวกลางนั้น...
พอจับตัวกลางได้แล้ว คราวนี้...
ที่เราว่า จะให้จิตเป็นสมาธิไม่ต้องพูด
ไม่มีข้างหน้า ข้างหลัง
ไม่มีอดีต อนาคต
ไม่มีรัก ไม่มีชัง
ไม่ชอบ ไม่เกลียด
ไม่โกรธแล้ว มันเฉยๆ...เป็นกลาง
มันก็เลย เป็น...สมาธิ ในตัว
ทีนี้เมื่อเป็นสมาธิ...
ตัวกลางๆ นั่นแหละ เราจะเห็นมันชัดขึ้นมา
อะไรจะเกิด มันก็เกิดขึ้นตรงนั้น...
เห็นที่เกิดของสิ่งต่างๆ ความรู้ที่เกิดจาก...สิ่งต่างๆ นั้นคือ...ตัวปัญญา"

พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศืษฏ์
(หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี)

 52 
 เมื่อ: 27 เมษายน 2568, 05:35:35 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
ความประพฤติก็ไม่มีอะไร มีในตัวของเราทั้งหมด
มีกาย วาจาใจ ๓ อย่างนี้แหละ ดีชั่วอยู่ตรงนี้
จะดีก็เพราะกาย วาจา ใจ นี้
จะชั่วจะเลวก็เพราะ กาย วาจา ใจ นี้

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
กระจกเครื่องส่อง
แสดง ณ วัดหินหมากเป้ง
๑๓ ตุลาคม ๒๕๑๘

 53 
 เมื่อ: 26 เมษายน 2568, 05:21:33 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
ขอให้พิจารณา
ถึงเรื่องของตนเองนี่แหละ
มันมีผิดตรงไหน
ไม่ถูกตรงไหน
เมื่อรู้ตัวแล้ว ก็แก้ไขไป
ก็หมดเรื่อง

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๕๗

 54 
 เมื่อ: 25 เมษายน 2568, 05:55:22 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
คนเรามีใจทุกคน กิเลสทั้งหลายเกิดจากใจ
บาปทั้งหลายก็เกิดจากใจ
บุญทั้งหลายก็เกิดจากใจ
แต่เรายังไม่ทันเห็นใจ
จึงว่ายังห่างไกลพุทธศาสนามาก

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๖๒

 55 
 เมื่อ: 24 เมษายน 2568, 05:06:38 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
ให้พิจารณากายนี่แหละ
อย่าให้จิตส่งออกนอกกาย
จิตมันแน่วอยู่แต่เรื่องนั้น
จิตจะได้ความสงบ
จิตจะรวมเป็นสมาธิ อยู่ในขั้นของ สมถะ

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๗๔

 56 
 เมื่อ: 23 เมษายน 2568, 06:19:13 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit

อายตนะภายใน กับ อายตนะภายนอก
มากระทบกันเข้านี่แหละ
ที่ทำให้เกิดทั้งคุณและโทษ ก็อยู่ที่ตรงนี้
อารมณ์ที่เกิดจากอายตนะทั้งสองนี้
จึงเหมือนมิตรและศัตรูไปพร้อมๆกัน

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
(ธาตุ-ขันธ์-อายตนะ สัมพันธ์ รหัส 4 หน้า 115)

 57 
 เมื่อ: 22 เมษายน 2568, 07:46:30 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
รักษาศีลต้องถือจิต
รักษาจิตก่อนจึงจะรักษาศีลถูกตัวศีลแท้
เมื่อศีลเข้าถึงจิต เข้าถึงใจแล้ว
เราไม่ต้องรักษาศีล ศีลกลับมารักษาตัวเราเอง...
ศีล คือ ความปกติของ กาย วาจา แลใจ
ถ้าใจไม่ปกติเสียแล้ว กาย วาจา มันจะปกติไม่ได้
เพราะกาย วาจา มันอยู่ในบังคับของจิต

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
(สิ้นโลก เหลือธรรม รหัส 4 หน้า 238-239)

 58 
 เมื่อ: 20 เมษายน 2568, 06:26:09 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
ประกอบแต่กิจที่ควร ละสิ่งที่ไม่ควรเสีย
พยายามรักษาความดีของตนไว้
ก็มีแต่ทางจะดียิ่งๆขึ้นไป จะไม่เรียกว่า
เพียรชอบอย่างไร

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๘๑

 59 
 เมื่อ: 19 เมษายน 2568, 05:36:38 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
ปฏิบัติดี
ปฏิบัติตรง
ปฏิบัติเพื่อพ้นจากทุกข์
ปฏิบัติเป็นที่น่ากราบไหว้บูชา
นั่นแหละจึงจะเป็นพระสงฆ์แท้

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๙๒

 60 
 เมื่อ: 18 เมษายน 2568, 05:51:20 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
#ถาม สมัยก่อนพระพุทธเจ้าทรงบัญญัติสิกขาบทวินัยมีน้อย แต่มีพระปฏิบัติตามได้สำเร็จ มรรคผลนิพพานมาก สมัยนี้สิกขาบทวินัยมีมาก แต่มีพระได้สำเร็จมรรคผลมีน้อย นี้เป็นเพราะเหตุใด
#ตอบ ปัญหานี้มีมานานแล้วแต่ครั้งพระพุทธเจ้ายังทรงพระชนมายุอยู่ พระมหากัสสปะ เถระเคยทูลถามพระพุทธเจ้าแล้วเหมือนกัน พระที่เข้ามาบวชในธรรมวินัยนี้ เบื้องต้นมีน้อยและเมื่อบวชเข้ามาแล้ว ก็ต้องการทำความเพียรเพื่อพ้นจากทุกข์จริงๆ สิกขาบทวินัยจึงไม่ต้องบัญญัติมากมาย เมื่อพระบวชมามากเข้า บวช เพื่อเจตนาหลายๆอย่างต่างๆกัน ไม่ได้บวชเพื่อความพ้นทุกข์อย่างเดียว จึงประพฤติผิดแผกแตกต่างจากทํานอง คลองธรรมเป็นอลัชชี อันเป็นเหตุทำความเดือดร้อนให้แก่พระที่มาปฏิบัติดี พระพุทธเจ้าจึงทรงบัญญัติพระวินัย มากขึ้น โดยลำดับ เพื่อปราบอลัชชีเหล่านั้น สิกขาบทวินัยจึงมีมากและผู้สำเร็จมรรคผลนิพพานจึงมีน้อย

ที่มา หนังสือ ปุจฉาวิสัชนา ในประเทศ โดย หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี

หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 10
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.19 | SMF © 2006-2009, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!