?>
ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์แห่งภาคอีสาน
The Buddhist Art Conservation Club Of Esan (North Eastern Part Of Thailand)
25 ตุลาคม 2568, 01:14:05 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  

กติกาในการ เช่า-แลกเปลี่ยนพระเครื่อง | พระเครื่องเมืองอุบลราชธานี | แจ้งปัญหาการใช้งาน
แจ้งเรื่องการยืนยันตัวตนสำหรับผู้ที่จะให้เช่าพระเครื่องฯ | วิธีสมัครสมาชิกเว็บ

หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 10
 51 
 เมื่อ: 07 กันยายน 2568, 07:09:04 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า
คนเรานั้นร้อนตั้งแต่ต้น จนกระทั่งถึงที่สุด
ร้อนเพราะราคะ เพราะโทสะ เพราะโมหะ
ร้อนที่ตัวของเรานี่เอง
ร้อนจนไปทำความเดือดร้อนให้คนอื่น

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๔

 52 
 เมื่อ: 06 กันยายน 2568, 06:50:26 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
#ทำดีได้ดี
เราทำดีแล้วความดีของเราย่อมไม่หนีไปไหน
เราเป็นตัวของเองอยู่ดีๆ นั่นแหละ
คนอื่นให้ก็เป็นการส่งเสริมความดีอย่างหนึ่ง
เขาไม่ให้ ความดีนั้นก็เป็นเราอยู่ดีๆ นั่นเอง
ถ้าพิจารณาได้อย่างนี้ ก็จะเป็นความดีของเราขึ้นอีกขั้นหนึ่ง
ถ้าไปคิดว่า เราทำดีแล้วเขาไม่ให้ความดีแก่เรา
เลยโกรธ คิดน้อยใจ เกิดอิจฉาริษยาอาฆาตพยาบาทแก่เขา
เลยสร้างกิเลสขึ้นมาใหญ่โต กิเลสสร้างกิเลสขึ้นมาอีกชั้นหนึ่ง
แทนที่จะชำระ เลยสะสมให้พอกพูนขึ้นมา
กิเลสคือความเศร้าหมองของใจ

เราเห็นง่าย
ความเศร้าหมองที่เห็นง่ายๆ คือ ความโกรธ กลุ้มใจ
ทำให้มืดมิดปิดไม่ให้เห็นความดีของตนและคนอื่น
เขาจะดีสักเท่าไหร่ก็ไม่ยอมเห็น ไม่ยอมรู้ อันนั้นกิเลสปกปิดไว้
คือ ปิดใจของเรา หุ้มห่อใจของเรา ปัญญาของเรา
ไม่ให้เห็นเรื่องความดีของคนอื่นและสิ่งอื่น
จากพระธรรมเทศนาเรื่อง กิเลส
โดยหลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
วันที่ 17 กุมภาพันธุ์ 2520
ณ วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

 53 
 เมื่อ: 05 กันยายน 2568, 06:01:00 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
ทำทานภายใน คือ
จาคะอารมณ์
ที่มันขุ่นมัวอยู่ในใจ
จาคะให้หมด
แล้วไม่มีกังวลเกี่ยวข้อง

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๑๗

 54 
 เมื่อ: 04 กันยายน 2568, 06:15:06 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
.... อยู่ด้วยกันมากๆ หลายผู้หลายคน ถ้าหากว่าอยู่ด้วยความสงบ มันก็เย็น
อยู่ด้วยความไม่สงบ ตาก็เป็นไฟ หูก็เป็นไฟ จมูก ลิ้น กาย และใจก็เป็นไฟ
เป็นไฟด้วยกันทั้งหมด ไฟไหม้เจ้าของแล้วจึงค่อยไหม้คนอื่น
เพราะเหตุว่าไฟไหม้ไม้แห้งหมดแล้วนั่นแหละ มันจึงค่อยลุกลามไปไหม้ไม้สด
ฉันใดก็ฉันนั้น มันต้องไหม้ตัวเราเสียก่อน
ให้เห็นโทษของมัน ถ้าหากไม่เห็นโทษ มันก็ไม่มีเวลาสงบได้
ในใจของเรามันมุ่งพุ่งเห็นโทษคนอื่น ไม่เห็นโทษตัวเอง
ก็เลยเป็นไฟเผาผลาญซึ่งกันและกัน อย่างที่ท่านว่า ตาเป็นไฟ
ถ้าหากว่าเห็นโทษเกิดขึ้นที่ใจของเราแล้วว่า ไฟมันเกิดในที่นี้ของใครของมัน
คนอื่นก็ของคนอื่น ก็หมดเรื่องกันระงับตัวเองแล้วก็แล้วกัน
พระพุทธเจ้าทรงเทศนาว่า ราคัคฺคินา โทสัคฺคินา โมหัคฺคินา
ความหมายว่า ราคะ โทสะ โมหะ เป็นไฟ
ราคะ โมหะ โทสะ เกิดขึ้นก็ร้อนตั้งแต่ทีแรกนั่น
ที่ตัวของเราเกิดความร้อนขึ้นแล้ว มันค่อยลุกลามไปหาคนอื่น
ให้เห็นใจของตนทุกๆ คน เพ่งพิจารณาตัวของเรา
ที่มันเกิดวับแวบขึ้นมาครั้งแรกนั้น
มันเกิดราคะ มันเกิดโทสะ มันเกิดโมหะ ขึ้นมาตั้งแต่ทีแรก ให้ระงับเสียในเบื้องต้น
ถ้าต่างคนต่างระงับ อยู่มากคนก็เป็นสุข กี่ร้อยกี่พันคนก็เป็นสุข
ถ้าหากไม่ระงับ อยู่คนเดียวก็เป็นทุกข์ ไม่ต้องหาเพื่อนถึงสองคนละ
ของทั้งหลายเหล่านี้มันเป็นของร้อน เผาตัวของเราอยู่ทั้งกลางวันและกลางคืน
แต่ไม่ยอมสละปล่อยทุกข์หรอก เรียกว่าตกนรกทั้งกลางวันและกลางคืน เพราะไม่เห็น
ถ้าเห็นเช่นนี้แล้ว พึงปล่อยวางเสีย เอานรกนั่นมาเปลี่ยนแปลงให้เป็นสวรรค์
เมื่อเกิดราคะขึ้น สิ่งที่มันเกิดขึ้นก็ให้รู้จักรู้เรื่องของมัน จะระงับดับมันไป
โทสะเกิดขึ้น ก็พิจารณาเหตุผลของมัน จนระงับดับไป
โมหะเกิดขึ้นก็ให้ระงับ ให้พิจารณาเหตุผล แล้วก็ระงับดับไป

โอวาทธรรม
"หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี"
วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

 55 
 เมื่อ: 03 กันยายน 2568, 05:57:48 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
พระพุทธเจ้าทรงสอนเบื้องต้นให้รู้จักยอมสละ
จาคะสิ่งของที่มี จาคะต่อๆไปคือ การสละความชั่ว
จาคะละเอียดไปกว่านั้นคือให้สละอารมณ์ที่พัวพัน
เกี่ยวข้อง กระทั่งลงในปัจจุบัน อดีต อนาคต ก็ไม่ให้มี

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๕๔

 56 
 เมื่อ: 01 กันยายน 2568, 07:05:24 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
พุทธศาสนาสอนให้เข้าถึงใจ
เห็นใจ รู้จักใจของตน ชำระที่ใจของตน
ไม่ต้องไปวิ่งวุ่นมากมาย
การที่จะชำระให้สะอาดหมดจด
ต้องเอาตรงนี้ ชำระตรงนี้

พระธรรมเทศนาของ
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี

 57 
 เมื่อ: 31 สิงหาคม 2568, 07:00:00 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
การรักษาความดี ไม่ให้ความชั่วรั่วไหลเข้ามา เป็นการรักษาเบื้องต้น
เมื่อจิตหมุนไปทางความเสื่อม เราก็เฉยๆเสีย ปล่อยวางเสีย เราจะสงบ
เป็นการรักษาอย่างสูง

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๗๒

 58 
 เมื่อ: 30 สิงหาคม 2568, 05:56:13 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
เมื่อมีสติแล้ว อะไรจะมาผูกมัดไม่ได้
ถ้ามีสติอยู่ทุกเมื่อ มันก็ไม่หลงใหล นั่นแหละมารไม่สามารถจะมองเห็นได้
ตัวมาร คือ ไม่มีสติ
ตัวมาร คือ ความลุ่มหลง คือ ความประมาท เพลิดเพลินในกามคุณทั้งห้า อันมี รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ (สัมผัสกาย) เป็นดอกไม้ของมาร

เมื่อไปชมดอกไม้ มันก็ดักเอาตรงนั้นน่ะซี ตาเห็นรูป มารก็ไปดักเอาตรงนั้น มีความยินดีพอใจ หลงมัวเมาประมาท ตรงนั้นแหละไปถูกบ่วงมารแล้ว หูได้ยินเสียง มันก็ดักเอาตรงนั้น ที่ชอบใจไม่ชอบใจอะไรต่างๆ ถูกบ่วงหมด กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ทั้งหมดทั้งดีและชั่ว เรียกว่าถูกบ่วงมารทั้งนั้น

เราทุกคนไม่มี “สติ” ได้ชื่อว่า ถูกบ่วงของมารแล้ว

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
ชีวิตเป็นของน้อย

 59 
 เมื่อ: 29 สิงหาคม 2568, 11:01:16 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
" เราไม่ควรอ้างกาลเวลา
เราต้องตั้งสติให้มันเคร่งครัดลงไป
ไม่ว่ายืน เดิน นั่ง นอน ทุกอิริยาบถ
ให้มันมีสติอยู่เสมอทุกลมหายใจเข้าออก
เราแก่อยู่เจ็บอยู่ ตายอยู่ทุกเวลานาที.."

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

 60 
 เมื่อ: 28 สิงหาคม 2568, 07:05:06 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
อะไรมันจะศักดิ์สิทธิ์เท่าตัวของเราไม่มีหรอก
ตัวเรานั่นเป็นของศักดิ์สิทธิ์
กรรมดีของเราทำมาตั้งแต่ก่อน
ชาตินี้ก็ทำเพิ่มเติมใหม่
นั่นแหละ เป็นของดีของเราแท้

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๕๐

หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 10
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.19 | SMF © 2006-2009, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!