แสดงกระทู้
|
หน้า: [1] 2 3 ... 69
|
3
|
ห้องพระ / พระคณาจารย์อริยสงฆ์ทั่วประเทศ / Re: พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ ( หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี )
|
เมื่อ: 30 มิถุนายน 2568, 06:33:50
|
ธรรมะของพระพุทธเจ้า สอนไม่ใช่ของตื้นๆต่ำๆ มีความลึกซึ้งที่สุด เข้าถึงหัวใจของบุคคล ถ้าปฏิบัติเป็นธรรมแล้วจะอยู่เย็นเป็นสุขด้วยกันหมดทุกคนนั้น ให้ฟังธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ถ้าฟังไม่เข้าใจ ฟังก็หายไปเลย ไม่สนใจถึงเรื่องธรรมนั้นๆ บางทีเข้าใจว่าธรรมอันนี้เป็นของตื้นต่ำ เลยไม่อยากฟังซ้ำ แท้ที่จริงเราน่ะเป็นคนตื้น ฟังไม่ลึกซึ้งถึงธรรมนั้นต่างหาก จึงไม่ซาบซึ้งถึงอรรถธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
จริงแล้วมันไม่ใช่เพียงแค่นั้น มันซึ้งเข้าไปอีกจนเหลือที่จะพูดให้คนฟัง ท่านตรัสให้คนอื่นฟังแต่เพียงตื้นๆ
แต่ความลึกซึ้งของพระธรรมจริงๆ ในใจของผู้เห็นธรรมปฏิบัติธรรมนั้น ไม่สามารถพูดออกมาได้
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
|
|
|
7
|
ห้องพระ / พระคณาจารย์อริยสงฆ์ทั่วประเทศ / Re: พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ ( หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี )
|
เมื่อ: 27 มิถุนายน 2568, 05:04:25
|
ผู้มาเห็นโทษของความชั่ว มีการฆ่าสัตว์เป็นต้น ด้วยใจด้วยปัญญาของตนเองแล้ว เกิดความละอายต่อบาปกรรมทั้งที่ได้ทำมาแล้วและจะพึงกระทำต่อไป ตั้งใจมั่นแลเลื่อมใสในกุศลกรรม งดเว้นกรรมชั่วเห็นเป็นของน่าภาคภูมิใจ รักษาศีลจะเป็นศีลประเภทใดๆ ก็ตาม ยิ่งรักษาศีลมากเข้าเท่าใดก็จะเห็นเป็นการช่วยป้องกันความชั่วของตนให้หนาแน่นยิ่งขึ้น เหมือนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาใจใส่รักษาภัยอันตรายให้แก่ตน ฉะนั้น รักษาศีลแบบนี้ได้ชื่อว่ารักษาศีลเป็นไท ไม่เป็นทาส ถูกต้องตามจุดประสงค์ของพุทธศาสนา สมกับที่ชื่อว่าพุทธศาสนาสอนให้คนปฏิบัติโดยเสรีภาพ
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
|
|
|
8
|
ห้องพระ / พระคณาจารย์อริยสงฆ์ทั่วประเทศ / Re: พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ ( หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี )
|
เมื่อ: 26 มิถุนายน 2568, 05:39:01
|
#สังขารที่ใจเป็นวิญญาณครอง "พูดตามข้อเท็จจริงแล้ว เราคือธาตุทั้งสี่ ดิน น้ำ ไฟ ลม ประสมกัน เป็นก้อนขึ้นมาแล้วแตกสลายดับไปเท่านั้น ไม่มีสาระอะไรเลย ใจเป็นผู้เข้ามาครองรูปอันนี้ จึงทำให้เคลื่อนไหวได้ เมื่อก้อนอันนี้แตกดับไปแล้ว ใจก็ไม่สามารถจะใช้ก้อนอันนี้ได้ กรรม คือ สิ่งที่ใจใช้ให้ก้อนอันนี้กระทำทั้งดีและทั้งชั่วนั้น เมื่อก้อนอันนี้แตกดับแล้ว ใจย่อมรับผลกรรมนั้นแต่ผู้เดียว" คติธรรม หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
|
|
|
10
|
ห้องพระ / พระคณาจารย์อริยสงฆ์ทั่วประเทศ / Re: พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ ( หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี )
|
เมื่อ: 24 มิถุนายน 2568, 05:33:58
|
#ให้รู้เท่ารู้ทันความคิดความปรุงแต่ง ลองพิจารณาให้ถี่ถ้วนดูว่า พุทธศาสนานั้นที่ได้หัดสมาธิ ก็เข้าถึงจิตเป็นหนึ่ง ฌาณก็เข้าถึงจิตเป็นหนึ่ง มัคคสมังคี คือ มรรคผลนิพพานก็เป็นหนึ่งเหมือนกัน จิตเป็นเอกัคคตารวมเป็นหนึ่งเหมือนกัน แต่สิ่งเหล่านี้มีผิดแปลกกันตอนที่ว่า มีปัญญามากมีปัญญาน้อย รอบรู้มากรอบรู้น้อย พระพุทธเจ้าของเราท่านทรงรอบรู้ทั่วหมดทุกสิ่งทุกประการ ทรงรู้สิ่งทั้งปวงหมด ทรงรู้เหตุรู้ผล รู้เรื่องราวต่างๆ รู้ความเกิด-ดับ ท่านจึงทรงอยู่เหนือความคิดความอ่าน อยู่เหนือความเป็นไปสารพัดทุกอย่าง จึงเรียกว่าเหนือโลก อันเรื่องของโลกทั้งหลายนั้น มันอยู่ใน จิต นี่แหละ คิดนึกปรุงแต่ง แต่งไม่รู้แล้วรู้รอดกันสักที พระพุทธเจ้าจึงทรงอยู่เหนือ คือ เหนือเรื่องเหล่านั้น คือ ทรงรู้เท่ารู้เรื่อง “รู้เท่า” นี้หมายความว่ารู้เท่ากับความคิดนั่นแหละ รู้เท่าความปรุงความแต่ง มันปรุงมันแต่งก็รู้ รู้พร้อมๆ กันเลย ไม่เกิน ไม่ขาด ไม่เหลือ จึงเรียกว่า “รู้เท่า” ไม่ใช่รู้ตาม รู้ตามนั่นมันตามไป รู้แล้วค่อยตาม รู้แล้วค่อยเห็น รู้แล้วค่อยรู้ตัว อันนั้นมันตาม เหมือนตามรอยวัวรอยควาย อันนั้นไม่เห็นตัวมันหรอก ครั้น “รู้เท่า” นั้น รู้เท่าตัวมันเลย รู้ในทันท่วงทีมันเลย “รู้เท่า” มันเป็นอย่างนี้ มันต่างกับความรู้ตาม เหตุนั้น คําที่ว่า “รู้ตาม” นั้น ไม่มีทางที่จะทันตัวมันหรอก พอ “รู้เท่า” เท่านั้น เลยทันตัว พระพุทธเจ้าท่านทรงรู้เท่าสิ่งสารพัดทั้งปวงหมด จึงเรียกว่าทรงรู้สภาวะความเป็นอยู่ของมันทุกสิ่งทุกประการ จึงหมดเรื่องหมดราว แต่พวกเราฝึกหัดปฏิบัติฝึกอบรมเดี๋ยวนี้ เรื่องตัวของเรานี้แหละ ยังไม่รู้เท่ารู้เรื่องมันหมดทุกสิ่งทุกอย่าง จึงต้องฝึกหัดอบรมกันต่อไปอีก หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
|
|
|
|