- อย่าลืมครับว่า ไทยเสียดินแดนจำปาสักให้กับฝรั่งเศษ เมื่อ ๑๒ พ.ค. ๒๔๔๖ (รศ.๑๒๒) ในสมัยรัชกาลที่ ๕
- สำเร็จลุน ชาตะ ๒๓๙๖ มรณะ ๒๔๖๖ สิริอายุรวม ๗๐ ปี
- เมื่อครั้งไทยเสียดินแดนจำปาสัก สำเร็จลุนน่าจะมีอายุประมาณ ๕๐ ปีแล้ว
- แสดงว่าเมื่อท่านอายุเยาว์ จนถึง ๕๐ ปีนั้น ท่านจะจำพรรษาที่ใดบ้างไม่ทราบ แต่จำปาสักขึ้นกับประเทศไทย
ผิดถูกอย่างไรช่วยกันปรับปรุงครับ เห็นด้วยกับคุณคนโก้อย่างยิ่งครับ สมัยนั้น จำปาสัก ยังเป็นดินแดนของไทย การจะได้รับพัดยศของไทย ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ไม่เห็นด้วยครับ รูปนั้นนะสามารถเช็กได้นะครับว่าพระรูปไดได้รับพระราชทานพัดรองนั้นไปได้ครับ เพราะมันเป็นพิธีหลวงมีการบันทึกไว้ครับว่ามีพระราชาคณะรูปได้ได้รับอาราชทนาบ้าง สมเด็จลุนไม่ได้รับพัดยศไทยแน่นอนครับเพราะถ้าได้จะมีบันทึกแน่นอน และที่สำคัญพัดยศนั้นที่อยู่ข้างๆนะ ตำแหน่งใหญ่กว่าพระครูวิโรจรัตนโนบลเสียอีก(ที่นำมาเปรียบเทียบกับหลวงปู่รอด)เพราะหลวงปู่รอท่านเป็นเจ้าคณะมนฑณอุบลนะ สถานที่พำนักสมเด็จลุนนะครับก็พอจะคาดคเนได้นะครับ จากประวัติการเขาเรียนวิชาของศิษย์ท่านนะครับอย่างหลวงปู่ศรีทัตต์ หลวงพ่อชุน หลวงปู่ป้อ มหาสารคาม พระอาจารย์ตู้ กรรมฐานแพง หลวงปู่คำมี ก็น่าจะพ่อประมาณได้นะครับว่าท่านพำนักอยู่ไหน พระที่ได้รับพัดยศรูปหยดน้ำในกรณีพิเศษก็มีการบันทึกนะครับ อย่างกรณี หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง ภูเก๊ต นะครับ แค่นี้ผมว่าก็น่าจะชัดแล้วนะในกรณีรูปทีอ้างว่าเป็นสมเด็จลุนที่มีพัดยศและพัดรองนะว่าไม่ใช้สมเด็จลุนแน่นอน
สุดท้าย ฝากข้อคิดบางอย่าง ให้ดูกรณีรูปพระครูเทพโลกอุดร เป็นตัวอย่างครับว่าสรุปแน่ชัดแล้วมัวครับ ถ้ารักเคารพครูบาอาจารย์ส่ายนี้จริงๆนะอะไรทีรู่ว่าไม่ใช้เอาออกจากท่านชะนะครับ รูปเหมือนลักษณะนี้นะครับเห็นเยอะนะแต่จะออกมายุคหลังจากรูปถ่ายในเคลือโลกทิพย์ลงหนังสือแล้วทั้งนั้นหละครับ ตอนนี้น่าจะได้เห็นกันแล้วนะครับว่าเกจิรูปไหนหากินกับชื้อสมเด็จลุนบ้างใครของจริงใครของปลอมก็เรื่มชัดแล้วนะครับ