ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์แห่งภาคอีสาน

ห้องพระ => พระคณาจารย์อริยสงฆ์ทั่วประเทศ => ข้อความที่เริ่มโดย: PN3 ที่ 20 เมษายน 2554, 12:42:18



หัวข้อ: เหรียญไข่ปลาใหญ่ หลวงพ่อมุม รุ่น 3 ปี 2509
เริ่มหัวข้อโดย: PN3 ที่ 20 เมษายน 2554, 12:42:18

เหรียญไข่ปลาใหญ่  หลวงพ่อมุม  รุ่น 3  เนื้อทองแดง  ปี 2509





หัวข้อ: Re: เหรียญไข่ปลาใหญ่ หลวงพ่อมุม รุ่น 3 ปี 2509
เริ่มหัวข้อโดย: PN3 ที่ 20 เมษายน 2554, 13:33:35

เหรียญไข่ปลาใหญ่  หลวงพ่อมุม  รุ่น 3  เนื้ออัลปาก้า  ปี 2509



                                                      
                  


หัวข้อ: Re: เหรียญไข่ปลาใหญ่ หลวงพ่อมุม รุ่น 3 ปี 2509
เริ่มหัวข้อโดย: PN3 ที่ 22 เมษายน 2554, 20:50:45
 
ประวัติหลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอร์

         ศรีสะเกษ เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคอีสานตอนล่างที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน เคยเป็นชุมชนที่มีอารยธรรมรุ่งเรืองมานับพันปี นับตั้งแต่สมัยขอมเรืองอำนาจ และมีชนเผ่าต่างๆ อพยพมาตั้งรกรากในบริเวณนี้ ได้แก่ พวกส่วย ลาว เขมร และเยอ ศรีสะเกษเดิมเรียกกันว่า"เมืองขุขันธ์" เมืองเก่าตั้งอยู่ที่บริเวณบ้านปราสาทสี่เหลี่ยมดงลำดวน ตำบลดวนใหญ่ อำเภอวังหิน ในปัจจุบันได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นเมืองเมื่อปีพ.ศ.2302 สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยมีหลวงแก้วสุวรรณซึ่งได้รับบรรดาศักดิ์เป็นพระยาไกรภักดีเป็นเจ้าเมืองคนแรก ถึงสมัยรัชกาลที่ 5 ได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านเมืองเก่า ต.เมืองเหนือ อ.เมืองศรีสะเกษ ในปัจจุบัน แต่ยังคงใช้ชื่อว่าเมืองขุขันธ์จนถึงปีพ.ศ.2481จึงเปลี่ยนเป็น "จังหวัดศรีสะเกษ"

สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดนี้ นอกจากวัดวาเก่าแก่แล้ว ยังเต็มไปด้วยปราสาทที่สวยงามหลายแห่ง เช่น ปราสาทพระวิหาร ที่กลายเป็นข่าวเด่นประเด็นร้อน

ส่วนพระสงฆ์ที่ได้ชื่อว่าเป็นเกจิอาจารย์ดังของศรีสะเกษในอดีตนั้น มีอยู่หลายท่านด้วยกัน อันดับหนึ่งคือหลวงพ่อฉิม ธัมมรัตโน วัดทุ่งไชย เจ้าของเหรียญเก่าราคาแพง ปี 2482 รองลงมาคือ หลวงพ่อศรี ฐิตธัมโม วัดหลวงสุมังคลาราม มีเหรียญดังสร้างปี 2484 ทรงหยดน้ำหรือทรงพัดยศ ชาวบ้านเรียกว่า "หลวงพ่อศรีผีย่าน"

ไล่เรียงลงมาอีกยุคหนึ่งก็มี หลวงพ่อมุม อินทปัญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดปราสาทเยอเหนือ พระเกจิอาคมขลังที่มีเหรียญและพระเครื่องศักดิ์สิทธิ์มาก มีอภินิหารในด้านต่างๆ เป็นที่นับถือยกย่องของชาวบ้านมาช้านาน และเป็นหนึ่งในจำนวนพระเกจิอาจารย์นับพันที่ร่วมปลุกเสกและจารแผ่นโลหะในการสร้างพระเครื่องของวัดกัลยาณ์ เมื่อปีพ.ศ.2497

"วัดปราสาทเยอ" ตั้งอยู่ในกิ่งอ.ไพรบึง มีด้วยกัน 2 วัดคือ วัดเหนือและวัดใต้ อายุประมาณ 200 กว่าปี สร้างขึ้นโดยชาวบ้านที่นับถือศาสนาพุทธซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเยอที่ได้รับอารยธรรมทางขอมมา ดังนั้น สิ่งก่อสร้างในวัดจึงคล้ายคลึงศิลปะแบบขอมโบราณผสมสมัยใหม่ วัดมีความเจริญมากในสมัยที่หลวงพ่อมุมปกครองดูแล เพราะศรัทธาในวัตรปฏิบัติที่เรียบง่าย มักน้อย สันโดษ พูดน้อย แต่มีเมตตาสูงมาก แม้ว่าการเดินทางไปวัดปราสาทเยอเหนือจะยากลำบากเพียงใด แต่ผู้คนต่างไม่หวั่นไหวหวาดกลัว เพราะรู้ว่าท่านสามารถช่วยปัดเป่าทุกข์โศกโรคภัยได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ ในสมัยที่สหรัฐมาตั้งฐานทัพแถบอีสานใต้ กิตติศัพท์ของท่านร่ำลือไปถึงหมู่ทหารจีไอ จนต้องเดินทางมาฝากตัวเป็นศิษย์และรับวัตถุมงคลจากท่านไปคุ้มครองป้องกันภัย โดยต่างเรียกท่านว่า "Dad" และในคอส่วนใหญ่ห้อยเหรียญของท่าน ท่านเกิดในตระกูล "บุญโญ" ตรงกับวันพฤหัสบดีขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ปีพ.ศ.2429 บิดามารดาเป็นชาวนาชาวไร่ ชีวิตวัยเด็กคลุกคลีอยู่ที่วัดเป็นส่วนใหญ่ โดยได้เรียนหนังสือไทย ขอมไทย ขอมลาว และเขมรกับพระอาจารย์พิมพ์ จนอายุ 12 ขวบ จึงบรรพชาเป็นสามเณร ได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนหนังสือ สวดมนต์จนคล่อง ทั้งเช้าและเย็นต้องทำวัตรไม่ขาด เป็นสามเณรที่ขยันมาก ไม่เคยถูกดุด่าว่ากล่าวแม้แต่ครั้งเดียว

พออายุครบ 20 ปี ได้บวชเป็นพระที่วัดปราสาทเยอเหนือ ได้ฉายาว่า "อินทปัญโญ" โดยมีหลวงพ่อปริม เป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งท่านมีความรอบรู้เชี่ยวชาญในพระคัมภีร์ทั้งทาง
ด้านกรรมฐานภาวนาและคาถาอาคมขลังทางลงเลขยันต์ ลงนะต่างๆ โดยวิชาเหล่านี้ท่านได้รับการถ่ายทอดไว้จนหมดสิ้น จากนั้นได้ออกธุดงค์ไปปฏิบัติธรรมภาวนาตามสถานที่ต่างๆ เริ่มจากเมืองขุขันธ์เรื่อยไปจนถึง จ.ปราจีนบุรี เข้าฝากตัวกับพระอุปัชฌาย์โท วัดโคกมอญ และอยู่ช่วยก่อสร้างศาลาการเปรียญจนสำเร็จใช้เวลาที่อยู่วัดนี้ 3 ปี แล้วเดินทางกลับวัดปราสาทเยอ 2ปี  ต่อมา "หลวงพ่อมุม อินทปัญโญ" อดีตเจ้าอาวาสวัดปราสาทเยอเหนือ จ.ศรีสะเกษ จึงออกธุดงค์ไปทางเมืองลังเก จ.พระตะบองฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิชากับพระมหาบัวทองพระสงฆ์ชาวเขมร และติดตามเข้าไปจนถึงเมืองพนมเปญ ก่อนจะผ่านมาทางกบินทร์บุรีข้ามภูเขาสองพี่น้องอันเป็นทิวเขาดงพญาไฟ (ปัจจุบันคือดงพญาเย็น) จนกระทั่งมาถึงบ้านหวาย อยู่ศึกษาวิชาอาคมกับ "หลวงพ่อโฮม" ซึ่งเก่งทางว่านยาสมุนไพร แก้อาถรรพณ์ แก้คุณไสยต่างๆ ต่อจากนั้น จึงเดินทางไปยังจ.สระบุรีเพื่อกราบสักการะรอยพระพุทธบาท พระพุทธฉาย แล้วล่องมาจนถึงจ.พระนครศรีอยุธยา เข้าจำพรรษาอยู่หลายวัด แล้วต่อไปยังจ.สุพรรณบุรี เข้าสู่อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ผ่านไปทาง จ.เพชรบูรณ์ เข้าจ.เลย เมืองลานช้าง เวียงจันทน์ ท่าแขก สุวรรณเขต และนครจำปาศักดิ์ เพื่อไปหา "สมเด็จลุน" แต่ต้องผิดหวัง เพราะสมเด็จลุนเดินทางไป จ.อุบลราชธานี แต่ท่านก็ได้ตามไปจนพบและฝากตัวเป็นศิษย์ติดตามเข้าไปถึงนครจำปาศักดิ์ ได้ศึกษาหาความรู้ทางอาคมขลัง เลขยันต์ต่างๆ ก่อนจะกลับเข้ามาหาพระอาจารย์ดีๆ ในตัวเมืองอุบลระยะหนึ่ง แล้วเดินทางไปยังเมืองขุขันธ์กลับไปวัดปราสาทเยอ ขณะที่ท่านอยู่วัดนั้นสิ่งที่ปฏิบัติเป็นนิจคือการเดินจงกรม ปฏิบัติกรรมฐานภาวนาและทบทวนวิชาต่างๆ ในยามว่างจากผู้คน พระยาขุขันธ์ได้นำเอาคัมภีร์สมุดข่อยไปถวาย ซึ่งเป็นคัมภีร์ที่บรรจุวิชาอาคมไสยศาสตร์, โหราศาสตร์ และตำราต่างๆ ไว้อย่างครบถ้วน โดยพระยาขุขันธ์ได้มาจากใต้ฐานพระพุทธรูปในเมืองพิษณุโลก คาดว่าเป็นของสมเด็จเจ้าพระฝาง ปีพ.ศ.2464 หม่อมหลวงช่วง ทำงานอยู่กระทรวงธรรมการไปตรวจราชการที่เมืองขุขันธ์ เห็นว่าการศึกษาที่นั่นยังด้อยอยู่มาก ประชาชนส่วนมากยังขาดการศึกษา จึงเดินทางไปนิมนต์ให้ท่านช่วยสอนหนังสือพระ โดยท่านได้สอนอยู่นานถึง 15 ปี เมื่อหลวงพ่อปริม มรณภาพท่านจึงได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสสืบแทนตั้งแต่ปีพ.ศ.2492 ทำให้ต้องหยุดสอนหนังสือเพราะมีภาระธุระทางงานพระศาสนามากขึ้น และเป็นช่วงที่มีพระสงฆ์ที่มีความรู้หลายองค์สามารถเป็นครูสอนแทนได้

ปีพ.ศ.2494 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2499 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูที่ "พระครูประสาธน์ขันธคุณ" ก่อนจะเลื่อนเป็นชั้นตรี, ชั้นโท และชั้นเอกในราชทินนามเดิมตามลำดับ  ท่านเป็นพระที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ได้ให้การสนับสนุนด้านการบริหารและการเงินแก่โรงเรียนต่างๆ ตลอดมา ด้วยคุณงามความดีในปี พ.ศ. 2515 จึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ มาถวายพระกฐินต้นที่วัด และทรงสร้างศาลา ภปร.ถวายแก่หลวงพ่อมุมด้วย ซึ่งนับว่าเป็นวัดแรกของภาคอีสาน "หลวงพ่อมุม" มรณภาพเมื่อปี พ.ศ.2522 สิริอายุได้ 93 ปี พรรษา 73

วัตถุมงคลและเครื่องรางของขลัง หลวงพ่อมุม  

พระครูประสาธน์ขันธคุณหรือหลวงพ่อมุมนั้น ท่านมีความรู้ทาง ด้านการศึกษาและความรู้วิชาต่างๆ วิชาอักษรขอม หนังสือธรรม และไทยน้อยไทยใหญ่ตลอดทั้งทางด้านไสยศาสตร์ เวชศาสตร์ และโหราศาสตร์ในการดูฤกษ์งามยามดีช่วยอนุเคราะห์แก่ ประชาชาชน ตลอดจนท่านได้สร้างเหรียญวัตถุมงคลมากมาย เพื่อแจกญาติโยมให้ช่วยสมทบทุนก่อสร้างถาวรวัตถุในพระพุทธศาสนา และเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจแก่ชาวบ้าน บรรดาคณะศิษยานุศิษย์ผู้ศรัทธาทั้งหลาย

วัตถุมงคลและเครื่องรางของขลัง ของหลวงพ่อมุม อินทฺปญฺโญ ที่ท่านได้จัดสร้างขึ้นนั้นมีหลายรุ่นด้วยกัน ท่านปลุกเสกจะทำตามพิธีกรรมแบบเขมรโบราณ และจะลงเหล็กจารอักขระยันต์ คาถาต่างๆ ลงบนวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังแทบจะทุกชิ้น ก่อนจะนำเข้าพิธีพุทธาภิเษก เพื่อแจกจ่ายให้กับญาติโยม ลูกศิษย์และประชาชนทั่วไป เพื่อนำติดตัวไว้บูชา อีกหลวงพ่อมุมยังได้รับการนิมนต์ไปร่วมพิธีพุทธาภิเษก ปลุกเสกวัตถุมงคลของวัดต่างๆ ทั่วทุกภาคของประเทศไทย

วัตถุมงคลและเครื่องรางของขลัง มีการจัดสร้างขึ้นดังนี้

ปี2507 ทางคณะกรรมการวัดโดยคุณวรวัฒน์ รุ่งแสงและศิษยานุศิษย์ได้จัดสร้างเหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อมุมขึ้น โดยมีเหรียญที่เรียกกันว่า ส.หางสั้น และส.หางยาว

ปี2508 ทางวัดได้จัดสร้างเหรียญกลม ถือว่าเป็นเหรียญรุ่นที่ 2 ออกมาเพื่อแจกจ่ายให้กับญาติโยม และชาวบ้านทั่วไป

ปี2509 ทางวัดและลูกศิษย์ได้ขออนุญาต หลวงพ่อมุมจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นเป็นรุ่นที่ 3 โดยจัดพิธีขึ้นในโบสถ์ไม้หลังเก่าในวัดปราสาทเยอเหนือ มีทั้งเหรียญหลายแบบด้วยกัน พระกริ่งศก. รุ่นแรก , แหวนรุ่นแรก , ภาพถ่าย , รูปหล่อโบราณ , รวมทั้งตะกรุดรุ่นแรก ซึ่งได้มีเกจิอาจารย์ในยุคนั้นมาร่วมกันปลุกเสกหลายรูป อีกทั้งในปีนั้นยังได้จัดสร้างเหรียญหลวงพ่อบุญมา วัดปราสาทเยอใต้ ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อมุมอีกองค์หนึ่งด้วย

ปี 2510 ได้มีการจัดสร้างเหรียญ สองอาจารย์ ด้านหน้าเป็นรูปครึ่งองค์ของหลวงพ่อบุญมาและหลวงพ่อมุม , ผ้ายันต์ ฯลฯ

ปี 2512 ได้มีการจัดสร้างพระชัยวัฒน์หลวงพ่อมุม แท้จริงแล้วถือเป็นพระกริ่งรุ่น 2 ภายหลังจากที่ออกพระกริ่งศ.ก. ได้ 3 ปี , เหรียญรูปอาร์ม , แหวนรุ่น3

ปี 2514 - 2515 ได้มีการจัดสร้างเหรียญเตารีด , เหรียญโลห์ ภปร. , สมเด็จลายเสือ , เหรียญเปิดที่ทำการ สภอ.เมือง ศรีสะเกษ , เหรียญอาร์มหลัง ภ.ป.ร.เหรียญศาลาการเปรียญหรือเหรียญหน้าบัน , เหรียญกลมรุ่นพิเศษ , ล็อกเก็ต ,รวมทั้งแหวน ภปร. และอีกหลายๆแบบด้วยกัน

ปี 2516 ได้มีการจัดสร้างพระผงมีทั้งออกวัดปราสาทเยอเหนือและออกที่วัดมหาพุทธาราม วัดพระโต เช่น หลวงพ่อมุม พิมพ์สมเด็จ หลังรูปเหมือน , พิมพ์สมเด็จ หลังหันข้าง , พิมพ์สมเด็จจัมโบ้ , พิมพ์สมเด็จประทานพร , รูปเหมือนเนื้อว่าน ก็จะมีหลายๆ พิมพ์อีกเหมือนกัน , พระผงรูปเหมือน, รูปหล่อ และในปีนี้ได้มี ทหารนาวิกโยธินสหรัฐอมเริกา(GI.) มาตั้งฐานทัพต่อสู้สงครามเวียดนาม อยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานีขอจัดสร้าง เนื่องจากได้นำวัตถุมงคลที่หลวงพ่อมุม ปลุกเสกไปทดลองยิง แต่ปรากฎว่ายิงไม่ออกจึงเกิดความศรัทธาในตัวหลวงพ่อมุม จึงได้ขอจัดสร้างรุ่นนี้ขึ้น มีทั้งเหรียญภาษาอังกฤษ PAPAMUM , สมเด็จภาษาอังกฤษ และเนื้อผงพิมพ์จันทร์ลอยภาษาอังกฤษ

ปี 2517 ในปีนี้ถือว่ามีพิธีการจัดสร้างยิ่งใหญ่พอสมควร จัดสร้างโดยพระอาจารย์ฟื้น ธมฺมวโร(สุพัฒนิยกุล) วัดอินทรวิหาร กรุงเทพมหานคร ร่วมกับทุนนิธิประสาธน์ขันธคุณ วัตถุประสงค์เพื่อบูรณะวัดปราสาทเยอเหนือและจัดสร้างหอระฆัง อีกส่วนหนึ่งจะจัดสร้างกำแพงรอบอุโบสถที่วัดสามัคคีพัฒนาราม ต.วังชมพู อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ โดยหลวงพ่อได้อธิษฐานจิตแล้วนำไปให้บูชาที่วัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม กทม. ซึ่งวัตถุมงคลที่จัดสร้างขึ้นนั้น มีทั้งเหรียญพิมพ์นักกล้าม ( มีบล็อกวัดอินทรวิหารและวัดปราสาทเยอเหนือ ) เหรียญช้างสามเศียร, พระผงรูปเหมือน , เนื้อผงผสมเส้นเกศาหลวงพ่อมุม, พระปิดตาเนื้อว่าน 108 , รูปหล่อ ,รูปเหมือน, ล็อกเก็ต , ผ้ายันต์ , แหวน , ตะกรุดโทนเนื้อเงิน, สีผึ้ง,ลูกอม เป็นต้น

ปี 2519 ในปีนี้ถือว่าหลวงพ่อมุมอายุครบ 90 ปี ทางลูกศิษย์จึงได้จัดสร้างเหรียญฉีดซุ้มกนก โดยมีแบบมีหูและไม่มีหู , รูปหล่อ , แหวน ทปค. ฯลฯ

ปี 2520 ทางธนาคารกรุงเทพ จำกัด ได้ขออนุญาตจัดสร้างเหรียญดอกบัวพิมพ์หนาและพิมพ์บาง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของธนาคารกรุงเทพ และทางวัดปราสาทเยอเหนือยังได้จัดสร้างพระผงนาคปรก ,รูปเหมือนขนาดบูชา , ผ้ายันต์ฯลฯ

แหนบของท่านที่จัดสร้างขึ้นก็มีหลายช่วง พ.ศ. ด้วยกัน มีทั้งแหนบพัดยศ แหนบรูปเสมา , แหนบสกรีนลงยา , แหนบรูปอาร์มรวมทั้งเข็มกลัดอีกด้วย

ส่วนเครื่องรางของขลังของหลวงพ่อมุมนั้นลักษณะการสร้างจะแตกต่างกัน เช่น ผ้ายันต์ , รูปถ่าย , เหรียญร.5 , กะลาตาเดียว , หวายลูกนิมิตร , ไม้ไผ่ตัน , มีดหมอลงเหล็กจาร , งาแกะหลายพิมพ์หลายแบบ , ตะกรุดหลายรูปแบบ ฯลฯ โดยส่วนใหญ่แล้วเครื่องรางของขลังของท่านจะไม่มีแบบเฉพาะ เนื่องจากลูกศิษย์และชาวบ้านจะนำแผ่นโลหะ , งาแกะ หรือวัตถุมงคลอื่นๆ มาให้หลวงพ่อลงเหล็กจารคาถาอาคมแล้วปลุกเสก โดยท่านจะสั่งให้มารับตามกำหนดการที่ท่านปลุกเสกเสร็จ บางอย่างอาจต้องรอหลายเดือนก็มี เพราะท่านปลุกเสกตามพิธีตำราโบราณ ลายมือที่ท่านลงเหล็กจารในวัตถุมงคลหรือเครื่องรางของขลังนั้น ถือว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของหลวงพ่อมุม

ข้อห้ามเฉพาะในวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังของหลวงพ่อมุม
1 . ห้ามลอดไม้ค้ำต้นกล้วย
2 . ห้ามใช้มือทั้งสองกอบน้ำในบึง หนอง คลอง ที่ตนลงเล่นมาดื่มกิน

นี่คือข้อห้ามเฉพาะของท่านที่จะต้องถือให้ได้ นอกจากนั้นก็แล้วแต่ข้อห้ามในแต่ละส่วนของวัตถุมงคล เช่น ตะกรุดของท่านบางชนิดจะมีข้อห้าม คือ ห้ามกินมะขามป้อม , ห้ามกินน้ำเต้า , ห้ามด่าบุพการี


ขอขอบคุณข้อมูลจาก คอลัมน์ มุมพระเก่า อภิญญา
นสพ.ข่าวสดออนไลน์
 


หัวข้อ: Re: เหรียญไข่ปลาใหญ่ หลวงพ่อมุม รุ่น 3 ปี 2509
เริ่มหัวข้อโดย: mickey ที่ 23 เมษายน 2554, 10:25:07
 023 023


หัวข้อ: Re: เหรียญไข่ปลาใหญ่ หลวงพ่อมุม รุ่น 3 ปี 2509
เริ่มหัวข้อโดย: PN3 ที่ 28 เมษายน 2554, 07:07:48
มหัศจรรย์เหรียญไข่ปลาใหญ่  เนื้อทองแดง รุ่น 3 หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอร์


        เพียบพร้อมด้วย  "ความสุดยอด" นานับประการ ดังนี้

1.สุดยอดพระเกจิ      
       ปลุกเสกโดยสุดยอดพระเกจิดังแห่งอีสานใต้  ผู้เข้มขลังด้วยเวทมนต์คาถา  และสูงส่งด้วยบุญญาบารมี

 2.สุดยอดพิธีปลุกเสก
       ปี2509 หลวงพ่อได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์หลายรูปเข้าร่วมปลุกเสก เป็นพิธีปลุกเสกที่ยิ่งใหญ่สุดๆ

3.สุดยอดประสบการณ์
       เป็นที่กล่าวขานกันมาช้านานว่าเป็นเหรียญที่มีประสบการณ์มากที่สุดตลอดกาลในบรรดาพระเครื่องทั้งหมด
ของหลวงพ่อมุม

4.สุดยอดศิลปะการออกแบบ
       มีศิลปะอันงดงาม  ทุกเส้นสายคม ชัด ลึก พริ้วไหว มีชีวิตชีวา ราวกับหูตากระพริบ ด้านหลังมีรอยจารที่เข้มขลังสวยงาม บ่งบอกเอกลักษณ์ พระเครื่องหลวงพ่อมุม  เมื่อลงกล้องยิ่งมองเห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่งดงาม  ยิ่งดูยิ่งซึ้ง  เพลิดเพลินเจริญใจ  สุด classic
 
5.สุดยอดนิยม
       เป็นที่เสาะแสวงหากันอย่างกว้างขวางสำหรับบรรดานักสะสมพระเครื่องหลวงพ่อมุม  ส่งผลให้ราคาเช่าสูงลิ่วในปัจจุบัน

6.สุดยอดขนาด      
       เป็นเหรียญที่มีขนาดกะทัดรัด พอเหมาะ  ไม่เล็ก  ไม่โต  ไม่หนักจนเกินไป  เลี่ยมเงิน  ทอง ไม่เปลืองมาก
(พอดี...พองาม)

                                                                               (ทัศนะเชิงวิชาการจาก PN3)


                                    


หัวข้อ: Re: เหรียญไข่ปลาใหญ่ หลวงพ่อมุม รุ่น 3 ปี 2509
เริ่มหัวข้อโดย: jiantsuphan ที่ 28 เมษายน 2554, 22:26:19
 001ยอดเยี่ยมในข้อมูลมากเลยครับท่านอาจารย์


หัวข้อ: Re: เหรียญไข่ปลาใหญ่ หลวงพ่อมุม รุ่น 3 ปี 2509
เริ่มหัวข้อโดย: kaiwadpa ที่ 07 พฤษภาคม 2554, 17:29:08
อาจารย์ครับ ไปสรรหามาจากไหนครับ แต่ละเหรียญสวยเด็ดขาดบาดใจ แค่ได้ชมก็วาสนาเหลือเกินแล้วครับท่าน


หัวข้อ: Re: เหรียญไข่ปลาใหญ่ หลวงพ่อมุม รุ่น 3 ปี 2509
เริ่มหัวข้อโดย: noi_vintage ที่ 25 พฤษภาคม 2554, 16:07:53
มีแต่เหรียญสวยๆ.........แบ่งมาทางนี้ได้บ่ครับ............. 007


หัวข้อ: Re: เหรียญไข่ปลาใหญ่ หลวงพ่อมุม รุ่น 3 ปี 2509
เริ่มหัวข้อโดย: bermhuarua ที่ 16 ตุลาคม 2554, 21:11:41
สุดยอดครับ เหรียญสวยมากเลยครับ


หัวข้อ: Re: เหรียญไข่ปลาใหญ่ หลวงพ่อมุม รุ่น 3 ปี 2509
เริ่มหัวข้อโดย: warleas ที่ 17 ตุลาคม 2554, 21:36:44
แท้ไม่มีที่ติเลยครับ