พอดีมีเว็บของพรรคพวกลงประวัติหลวงปู่พิบูลย์ไว้ 
ลองมาดูกันนะครับ

http://www.bannaksit.com/index.php?name=knowledge&file=readknowledge&id=28

ปู่ผมยาว

 หลวงปู่ชม ท่านเป็นคนบ้านแดง โดยกำเนิด จริงแล้วต้นตะกูลมาจาก บ้านท่ากันโท
บ้านแดงนี่เองเป็นที่ตั้งของวัดพระแท่น(เรียกตามชื่อโบราณ)ที่หลวงปุ่พิบูลย์มาบูรณะและโปรดยาติโยม
บ้านหลวงปู่ชม อยู่หน้าวัดนี่เอง ตอนเป็นเด็กท่านจึงวิ่งเล่นรับใช้ครูอาจารย์ ทั้งหลวงปุ่ผมยาว หลวงปู่พิบูลย์ หลวงปู่โชติ
โอกาสนี้ท่านได้เรียนมนต์รอดป่องของหลวงปู่ผมยาวอีกด้วย (มนต์รอดป่อ่ง มีหลายความหมาย ในที่นี้คือคาถาที่เขาสอนกัน และแอบได้ยินได้เรียนมาแบบครูพัก แต่ความเชื่ออีสานถือว่าขลัง เพราะ "ลอดป่องไ ป่องคือหัวใสหัวดีความจำเยี่ยม นั่นเอง)
   หลวงปู่ผมยาวท่านถือครองวัตรแบบฤาษี ท่านสำเร็จครูธรรมโดยการถือวิรัชไม่พูดเป้นเวลาสิบเอ็ดปี ที่ท่านผมยาวนั้นเพราะมีดตัดผมไม่อาจตัดผมท่านได้
 ท่านเหมือนคนบ้าบอทำอะไรแปลกๆ ท่านเคยทำตะกรุดผูกขานก จนพวกชอบยิงนกขยาดเพราะยิงนกไม่ได้ ท่านเมตตาปู่ชมมาก กาลต่อมาศพปู่ผมยาว เผาไม่ไหม้ไฟ
ต้องเป็นธุระหลวงปู่ชมแก้เคล้ดบางประการจึงเผาไฟได้(เคล็ดที่ว่าดูโหดร้ายทารุณมากจึงขอยกไว้ไม่เล่าแล้วกัน) ผมและกระดูกขากรรไกรนั้นหลวงปู่ชมเป้นคนรักาไว้เท่าทุกวันนี้
   ท่านบรรพชา และอุปสมบทที่วัดบ้านแท่นนี้ตามคำสั่งหลวงพ่อพิบูลย์ได้มีดอกาสรับใช้ครูบาอาจารย์อย่างใกล้ชิด ในการทำเหรียหลวงปู่พิบูลย์ รุ่รวัดคอกหมุ ท่านก็เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงทำ
   เมื่อหลวงปู่พิบูลย์ถูกกักบริเวณที่วัดโพธิ์สมภรณ์  ท่านก็ต้องไปไปมามา
 ต่อมาท่านก็เป็นผู้นำชาวบ้านในการขอศพหลวงปู่คืนสู่วัดบ้านแดง
วัยหนุ่มหลวงปู่ได้ธุดงค์ไปตามที่ต่างๆในลาว ดูท่านจะชอบเมืองลาวมากกว่าไทย
 ครั้งหนึ่งข้าพเจ้าไปพบหลวงปู่คำตันที่เมืองลาว(วัดดงป่าลาน)เพื่อขอเรียนวิชาธาตุจากท่าน ท่านว่าท่านสนิทกับปู่ชมมาก สมัยนั้นปู่ชมไม่กลัวใคร อ้ายน้องเขายิงปืนใหญ่ใส่กัน หลวงปู่เดินนำหน้าไม่กลัวปืนใหญ่เลย เป็นที่โจทย์กันในเมืองลาว
   ข้าฯตามศึกษาวิชากับอ.หลายท่านในลาว นั้นส่วนหนึ่งก็รู้จักกิติศัพท์ของปู่ชมดี และบ้างก้ป็นสหะรรมมิกกับท่าน  บางรูปเล่าเรื่องการลองวิชากันอย่างพิศดาร (ผมขอละไว้ เพราะผู้ไม่มีประสบการณืทางนี้ฟังแล้วก็ยากจะเชื่อ)
      ระหว่างบวชมีช่วงหนึ่งบิดามารดาให้ท่านสึกออกมามีครอบครัว ท่านได้ลุกสาวคนหนึ่ง แต่ได้สูญเสียภรรยาไป ท่านซึ้งสัจจะรรมขอให้พี่น้องเลี้ยงลูกให้ และออกบวชอีกครั้ง
  ท่านธุดงค์มาอยุ่วัดธาตุ (หนองคาย)และปลีกวิเวกมาทำสมาธิที่ดอนแห่งหนึ่งไม่ใกลจากวัด ที่นี่มีสถูปเจดีย์เก่าเห็นว่ารุ่งเรืองในอดีต ท่านจึงสร้างวัดณ.ที่นี้คือ วัดสามัคคี นี่เอง
 หลังลาวแตกลูกศิษย์จากลาวอพยพมาหาท่านมากมาย แม้แต่ผู้นำลาวและม้งบางกลุ่ม แสดงว่าท่านมีชื่อในลาวนานแล้ว(ถ้าวิชชาท่านไม่แนจริงคนลาวคงไม่นับถือขนาดนี้เพราะลาวยุคนั้นเป็นยุคขมังเวทย์เช่นกัน
  น่าสนใจอีกเรื่องคือ ท่านเป็นคนบวชให้ฤาษีตนหนึ่ง และต่อมาเมื่อถึงยุคที่ฤาษีมีครือข่ายกัน  ยังสรุปไม่ได้ว่าประเพณีการบวชฤาษีเป็นเช่นใด วงการฤาษี เลยเอาวิธีของหลวงปู่ มาใช้กันคือ การยกเทียนพันน้ำมันหมื่น ดังฤาษีบางท่านกล่าวออกรายการทีวี จะว่าประเพณีการบวชฤาษีที่ใช้กันในปัจจุบัน  ......มาจาก
..........หลวงปู่ชม วัดสามัคคี ก็มิผิด....
     
 

สำหรับคนอำเภอเมืองจ.หนองคายแล้ว รู้จักหลวงปู่ชมเป็นอย่างดี
แต่ท่านค่อนข้างเก็บตัว ไม่ปรากฎตัวต่อหน้าสื่อ
ผมเป็นศิษย์คนหนึ่งที่ไปมาหาสู่ท่านบ่อย และเป็นเพียงคนไม่กี่คนที่มีโอกาสขึ้นครูธรรมใหญ่จากท่าน
ผมจะนำเสนอเรื่องของท่านตามโอกาสจะอำนวยนะครับ
รุปคณะศิย์สิงคโปร์และศิษย์ไทยถวาย ไม้เท้าครู(หอก)แก่ท่านครับ

รูปแรก เป็นแร่ตามตำราหลวงปู่นะครับ Z(เฉพาะเม็ดสีแดงนะครับ)
รูปสองคือรัฎฎาสิทธิ์ตามตำราหลวงปู่
ส่วนของที่หลวงปู่ทำผมจะถ่ายรูปมาให้ดูทีหลังครับ

   ใช่แล้วครับ  ท่านเรียนกับหลวงปู่ด่อน
             ผมเองยังสงสัยว่า ทำไมท่านตั้งชื่อวัดที่ท่าไร่ไทยเจริญว่า " สิงหารินทราราม " แม้ว่าท่านจะชื่อ "คำสิงห์"
  แต่ถ้าไม่พูดเรื่องสมาสสนธิ จะเห็นว่า คือ  "สิงหาร.. ซึ่งศิย์สายสำเร็จลุน มักใช้name after ให้เห็นหลายที่
     ท่านเรียนวิชาแปรธาตุขนานหนึ่งจากหลวงปู่ด่อนด้วย ตัวนี้ทางภาคกลางเรียกว่า รัฎฎาสิทธิ์
หลวงปู่คำสิงห์ท่านว่า "อยู่ป่าดงให้ใช้ปรอท อยูนา อยู่บ้าน ให้ใช้สิ่งนี้ มันเป็นของหลื่นหมู่ ทำนาได้ผลดีกว่าเขา ค้าขายดีกว่าเขา"
  จริงๆผมไม่อยากจะเล่าเท่าใดนัก เพราะของสิ่งนี้มีไม่เกิน ๖๖ ชิ้นหาเก็บยากสักหน่อย ศิษย์มักเก็บเป็นความลับ ตามอุปสงค์ อุปทานครับ คนรู้มากของก็ยิ่งหายาก
    และของเด็ดจริงๆของหลวงปู่ไม่ใช่พระเครื่องหรอกครับ แต่เป็นโลหะจากการแปรธาตุบางอย่าง เป็น แร่เมตตา แร่ปัญญา แร่อิทธิฤทธิ์
   นี่ผมบอกแบบบังๆแล้วนะครับ เดี๋ยวพรรคพวกผมเขาเขม่นเอา หาว่าผมปากสว่าง
   แร่ปัญญาเอาไว้อมท่องหนังสือ  แร่อิทธิริด ท่ายาสั่ง ผีสางคางแดงครับ แร่พวกนี้มีไม่เกิน ๗๐๐ ชิ้นครับที่ทันหลวงปู่
          ถ้าโอกาสดีผมจะเอารูปบางส่วนมาให้ชมครับ

  หลวงปู่ ทำน้ำมันตาทิพย์
ครั้งหนึ่งญาติโยมอยากได้น้ำมันตาทิพย์ นัยว่าจะเอาไปเล่นพนัน
กลุ่มนี้มีเจ็ดคน แต่ละคนจึงแบ่งกันไปหามวลสารตามตำรา เท่าที่จำได้มี ขมิ้นขาวปัดตลอด ไพลดำ ไม้แหย่แย้
 หลวงปู่ต้องเข้าไปปลุกเสกในที่สงัด
ในระหวางนั้นเจ้าของมวลสารก็โต้เถียงกันว่าใครควร จะได้ส่วนแบ่งน้ำมันกันอย่างไร
คืนที่สามหลวงปู่ถือขวดน้ำมันโยนให้กลางวง และพุดว่า "ยังเฮ็ดบ่อแล้ว มาเถียงกันเรื่องแบ่งพูดเสียแล้ว" และท่านก็เดินจากไป
ผมจำเรื่องไม่ได้ว่าเขาแบ่งกันอย่างไรต่อไป
ลุงxx ได้ส่วนแบ่งมาเล้กน้อย แก่ไม่ใช่ผีพนันจึงไม่ได้ใช้เก็บไว้เสียเนิ่นนาน
 ตอมาเมียของลุงล้มป่วยต้องการเงินสองหมื่น  แกไม่รู้ทำอย่างไร จึงอาราธนาไปเล่นไฮโล โดยตั้งสัจจะไว้ว่าขอแค่สองหมื่น

  แกจำได้ว่า หลวงปู่ว่าตอนเดินไปเล่นห้ามสนใจผู้คนห้ามหัวเราะ แกพึ่งจะรู้ว่าที่ไม่ให้หัวเราะเพราะ  เดินออกมามีแต่คนแก้ผ้า
บ้างดกดำ บ้างหรอมแหรม

ในขณะแกแทงไฮโล ก็ว่าแปลก เขาไม่ปิดฝาไฮโล 

   มีดอกาดจะเว้าให้ฟังอีก  คำว่า หลวงปู่เป็นเทพเจ้าผมว่าบ่อผิดไปจากควมเป้นจิงดอก เหวย

แก่ได้เงินครบจำนวนแก่ก็ออกมารักษาเมีย  ปัจจุบันตาแกบวชแล้ว  น้ำมันก็แห้งเหือดหมด  บางส่วนหลวงปู่เอาบันจุเจดีในวัดเสียแล้ว
    เพื่อนผมว่าถ้าได้มามันจะไม่เล่นไฮโลให้โง่ดอก  มันจะไปดูเขาประกวดนางนพมาส

ท่านเป็นพระจากเมืองลาว อยูแถวแก่งหลี่ผี
ท่านมาเมืองไทย เรียนมูลกัจจาย แพทย์แผนโบราณ
และเรียนการตีมีด และนี่เองทำให้ท่านมีความรู้พิเศษคือการเล่นแร่แปรธาตุ ท่านทำได้พิศดารมาก


ท่านเดินทางมาจ.หนองคายและพบกับท่านมหาปาน ปาลธัมโม พระลาวที่เป็นอ.ใหญ่กรรมฐาน(สายสีสยาดอ)ของจ.หนองคาย
ท่านจึงขอศึกษากรรมฐาน
ท่านปฎิบัติอย่างเคร่งพูดน้อยเก็บตัว ท่านจึงเป็นอ.บอกกรรมฐานได้ตามจารีต ไม่ใช่อ่านหนังสือสอบได้แล้วมาเป็นอ.สอบกรรมฐานเหมือนสมัยนี้
 ท่านดูแลลูกศิษย์กรรมฐานอย่างละเอียด ดึกๆท่านจะลงมาตรวจตราลูกศิษท่านจะสอนอย่างลึกซึ้งเพราะท่านรู้วาระจิตได้
ท่านมาสร้างวัดที่ท่าไร่ไทยเจริญ เดิมที่แห่งนี้ชาวบ้านอยู่กันไม่สุขเพราะผีปีศาจกลางวันยังเหมือนกลางคืน
ชาวบ้านสงบสุขเพราะท่าน  และท่านเป็นที่ยึดเหนียวเสมอ ไปรถไปเรือไม่มีเหรียญท่านก็ยกมือท่วมหัวอยู่รอดปลอดภัย
 เร็วนี้เอง เสื้อแดงหนองคาย โดนกระสุนยิงใส่ไม่ระคายผิว เพราะมีพระเครื่องท่านครับ  รุ่นไหนหรือ?? ขอเป็นความลับก่อนครับ  เดี๋ยวตื่นกันไป  ผมเองจะหายากเก็บเป็นส่วนตัวสักยี่สิบเหรียญแล้วจะเฉลยให้ฟัง.....อิ
ปล.ภาคปาติหานมิโอกาดจะนำมาเร่าอีก ครับ

เซกา เหรอครับ พวกพยาบาล หลายคนเป็นศิษย์ อ.ยอด ศิษย์เอก ของท่านนะ  มีอะไรที่คุณอยากได้อยู่บ้างกระมัง
     เซกา เอง ก็มี อ.เทพา วัดบ้านเซกา ผมบอกว่าไม่ธรรมดานะครับ

ผมเป็นคนหนองคาย แต่ไปเรียนขอนแก่นครับ
ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับสายนี้
   หลวงปู่ไม่ธรรมดาครับ  เป็นครูกรรมฐานที่หาที่เปรียบไม่ได้
   ส่วนวิชาไสยศาสตร์ของท่าน มีเอกลักษณ์และลึกล้ำที่สุด
     ขอบอกว่าสุดบรรยาย
   ผมมีโอกาสจะเล่าให้ฟังนะ