?>
ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์แห่งภาคอีสาน
The Buddhist Art Conservation Club Of Esan (North Eastern Part Of Thailand)
06 พฤษภาคม 2567, 18:56:03 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  

กติกาในการ เช่า-แลกเปลี่ยนพระเครื่อง | พระเครื่องเมืองอุบลราชธานี | แจ้งปัญหาการใช้งาน
แจ้งเรื่องการยืนยันตัวตนสำหรับผู้ที่จะให้เช่าพระเครื่องฯ | วิธีสมัครสมาชิกเว็บ

  แสดงกระทู้
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 18
31  ชมรมสืบสานตำนานบูรพาจารย์สายสำเร็จลุน / หลวงปู่ญาถ่านซาคำแดง / Re: เหรียญปั๊มพระซาคำแดงรุ่นแรก (เนื้อทองแดง) เมื่อ: 24 กุมภาพันธ์ 2557, 16:31:48


ขออนุญาตนำฮูปพระอาจารย์มาปันกันบูชาครับ 

เครดิต ฮูปจากอ้ายแก้ว นครหลวงเวียงจันทร์
32  ชมรมสืบสานตำนานบูรพาจารย์สายสำเร็จลุน / ชมรมสืบสานตำนานบูรพาจารย์ศิษย์สายสำเร็จลุน / พระครูอะนาวิโร บุนทอง วิปะไซย์ (พระอาจารย์ ซาโงน) ศิษย์เอกพระอาจารย์ซาคำแดง เมื่อ: 20 กุมภาพันธ์ 2557, 01:08:48






พระครูอะนาวิโร บุนทอง วิปะไซย์ (พระอาจารย์ ซาโงน)

เกิดเมื่อวันอาทิตย์ ที่ 01/02/1940 เดือนยี่ ปีมะเส็ง พ.ศ. 2483 บ้านดอนช้างไพ (บ้านแก้ง) ตาแสงบ้านห้วย เมืองโขง แขวงสีพันดอน (ในสมัยก่อน)
ปัจจุบันแขวงจำปาสัก เป็นลูกของพ่อจานพา วิปะไซย์ แม่แก้ว วิปะไซย์ มีอ้ายน้องร่วมพ่อแม่เดียวกัน 3 คนคือ
1.จานคูเพ็ง วิปะไซย์ (เสียชีวิต)
2.พระครูอะนาวิโร บุนทอง วิปะไซย์ (ซาโงน)
3.นางวันคำ วิปะไซย์ (เสียชีวิต)

พระครูอะนาวิโร บุนทอง วิปะไชย์ เกิดในตระกูลครอบครัวชาวนา อยู่ชนบทเกาะดอนที่อ้อมไปด้วยแม่น้ำโขงทางภาคใต้ของลาว ชีวิตครอบครัว
อาชีพของพ่อแม่ถือเอาการปลูกฝังเลี้ยงสัตว์หาปลาเฮ็ดเป็นอาชีพทำมาหากินเลี้ยงชีวิต และเป็นการเพิ่มพูลชีวิตสร้างความดุ๋หมั่นขยันเพียร
หารายได้ให้แก่ครอบครัว เพื่อเลี้ยงดูลูกทุกคน นอกจากเฮ็ดนาหาเลี้ยงชีพคือคนชนบททั่วไป พ่อของพระอาจารย์ ยังได้เป็นหมอยาพื้นเมือง
เพื่อช่วยปัวความเจ็บไข้ได้ป่วยของชาวบ้านได้อีก

ชีวิตประถมวัย
ชีวิตของพระอาจารย์ในประถมวัย แต่อายุ 1 ปี ถึง 8 ปี ได้ดำรงชีวิตอยู่นำพ่อแม่ ตามถานะครอบครัว ที่อยู่ชนบทตามเกาะดอน ที่บ้านดอนซ้างไพ เมืองโขง แขวงจำปาสักในสมัยก่อน พระอาจารย์บุนทอง วิปะไซย์ (ซาโงน) เป็นลูกชายคนที่สองของครอบครัวพ่อจานพา แม่แก้ว วิปะไซย์ ในเมื่อยังอ่อนน้อย เป็นลูกชายคนหนึ่งที่แสนรักของพ่อแม่ ยามใด๋ที่พ่อแม่ผู้เป็นบิดามารดา ก็ได้ให้การเลี้ยงดู อบรมบ่มนิสัยสั่งสอนลูกของตน ให้รู้จักเคารพนบไหว้ต่อครูบาอาจารย์ และวัดวาพุทธศาสนา รู้จักฮีตสิบสองและครองสิบสี่ เป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ตลอดมา เมื่ออายุได้ 8 ปีก็ได้เข้าโรงเรียนประถมศึกษา ที่วัดโพนแสง บ้านดอนซ้างไพ เมืองโขง แขวงจำปาสัก พระอาจารย์เป็นเด็กน้อยเหมือนชาวบ้านธรรมดา ที่มีความอดทนดุหมั่นขยันเพียร ต่อการศึกษาร่ำเรียน และเฮ็ดเวียกในครอบครัวเฮือน ซานซ่อยพ่อแม่ เถิงแม่นจะพบอุปสรรคต่างๆพระอาจารย์ ก็ได้อดทนเหมือนคำพ่อแม่เคยบอกสอนมาตลอด มาฮอดปี 1956 พ.ศ 2499 พระอาจารย์ได้สำเร็จ การศึกษาชั้นประถม และสอบได้อันดับที่สามของนักเรียนทีเมืองโขง

บรรพชาเป็นสามเณร
เมื่อชีวิตของพระอาจารย์ก้าวสู่วัยหนุ่ม หลังจากสอบเลื่อนชั้นได้แล้ว ก็ได้พักผ่อนการเรียน เพื่อเฮ็ดเวียกซ่อยครอบครัวในระยะหนึ่ง ด้วยบุญญาบารมีที่เคยสร้างสมมาในอดีตก็เป็นได้  และด้วยความเคารพนับถือ ต่อคำบอกสอนของพ่อแม่ ที่ให้เกิดมาตามฮีตคลองประเพณีของลาวเฮา ลูกผู้ชายทุกคนเมื่อพ่อแม่เลี้ยงใหญ่มาแล้วก็ต้องบวช เพื่อตอบแทนคุณของบิดามารดา ตามฮีตคลองประเพณีวัฒนธรรมของลาว พระอาจารย์บุนทอง วิปะไซย์ (ซาโงน) ในสมัยยังหนุ่มน้อย เมื่ออายุได้ 18 ปี ก็ได้อุทิศตนเข้าบวชบรรพชาเป็นสามเณรอยู่ที่วัดสร้างแก้วกำแพงเพชร บ้านดอนสร้างไพโพนก่าม เมืองโขง แขวงจำปาสัก โดยมีพระมหาฉลาย ปะถะมา เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อบวชเป็นสามเณรได้ 2 พรรรษา ก็ได้ศึกษาร่ำเรียนหนังสือสูตรเทศน์ ตามการสอนของครูบาอาจารย์ เมื่อได้เรียนสูตรเทศน์จบแล้ว ก็เริ่มเรียนหนังสือบาลี

อุปสมบทเป็นพระภิกษุ
ภายหลังได้บรรพชาเป็นสามเณร 3 ปีผ่านมาแล้ว พอตกมาปี 1960 ตรงกับ พ.ศ 2503 เมื่ออายุได้ 20 ปีบริบูรณ์ด้วยความเลื่อมใสในพุทธศาสนา พระอาจารย์ได้ตะเตรียมซื้อเครื่องบวชให้ตนเอง โดยบ่ให้พ่อแม่และญาติพี่น้องยุ่งยากนำ พระอาจารย์ก็ได้ตัดสินใจเข้าอุปสมบทบวชเป็นพระภิกษุ ในพุทธศาสนา เมื่อเดือน 7 ขึ้น 10 ค่ำ ตรงกับวันพุธ เดือนมิถุนายน ปี 1960 พ.ศ 2503 ที่พัทสีมาวัดส้างแก้วกำแพงเพชร บ้านดอนสร้างไพโพนก่าม เมือ งโขง แขวงจำปาสัก

โดยพระครูวิสุทธิโสดา คำตัน วัดนางควัดเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ครูคำ วัดหีนสิ่วเป็นกรรมวาจาจารย์ขวา พระอาจารย์มหาฉลวย วัดส้างแก้วกำแพงเพชร บ้านดอนสร้างไพโพนก่าม เป็นกรรมวาจาจารย์ซ้าย พร้อมด้วยคณะสงฆ์นั่งหัดถะบาดจำนวน 20 องค์ เมื่ออุปสมบทเป็นพระภิกษุสำเร็จแล้ว พระอุปัชฌาย์ได้ตั้ง นามฉายาว่า อะนาวิโรภิกขุ

ลำดับการศึกษาร่ำเรียน
ปี 1960 พ.ศ 2503 เข้าโรงเรียนนักธรรตรี ที่วัดอัมพาวัน บ้านลบปะดีกาง
ปี 1961 พ.ศ 2504 เข้าโรงเรียนนักธรรมโท ที่วัดสาแก้วประทุมทอง บ้านหาดขี้ควาย
ปี 1962 พ.ศ 2505 เข้าโรงเรียนนักธรรมเอก ที่วัดมะหันตะวิหาร วัดแสนใต้ สอบขึ้นชั้นที่โรงเรียนปริยัติธรรม นักธรรมเอกได้ที่ 9 ที่วัดพวงแก้วอะรุโนไท เมืองโขง แขวงจำปาสัก

ด้านการปฏิบัติศีลธรรม คลองวิปัสนากัมมัฏฐาน

พระอาจารย์มีความดุ๋หมั่นขยันพากเพียร ต่อการศึกษาร่ำเรียน ทางธรรมสามารถสอบบาลีไวยกรณ์ได้ประโยค 3 พร้อมเดียวกันนั้น ปี 1963 พ.ศ 2506 พระอาจารย์ ก็ได้ตัดสินใจ จำพรรษาอยู่ที่วัดท่าหมากเห็บเพื่อปฏิบัติธรรม พอฮอดมื้อขึ้น 10 ค่ำเดือน 8 ก่อนวันเข้าพรรษา พระอาจารย์มีความพากเพียรพยายามในทาง
พุทธศาสนา ได้ตัดสินใจไปเรียนคองวิปัสนากัมมัฎฐาน โดยการเข้าเรียนเป็นลูกศิษย์ ของพระอาจารย์ซาคำแดง ยามะวุดโท หัวหน้าศูนย์ปฏิบัตธรรมกัมมัฎฐาน
อยู่วัดสุทราราม บ้านท่าหมากเห็บ เมืองโขง แขวงจำปาสัก โดยใช้เวลาฝึกอบรมเป็นเวลา 9 เดือน ภายหลังที่ได้ตั้งใจเรียนอย่างเคร่งครัด รู้ละเอียดต่อการปฏิบัติ
คองกัมมัฎฐาน พระอาจารย์จึงได้ขอสมาทานเข้ากัมมัฎฐานได้ 37 วัน พระอาจารย์ได้เรียนจบ พระอภิธรรมเบื้องต้น นำพระอาจารย์ซาจูม ผู้เป็นศิษย์ของพระอาจารย์ใหญ่มหาปาน อานันโท สำนักวัดมหาพุทธวงศา โสกป่าหลวง นครหลวงเวียงจันทร์

หน้าที่การงาน
เมื่อบวชเข้ามาในพุทธศาสนาแล้ว ก็ได้ศีกษารำเรียนพระสูตรพระวินัย พระอภิธรรม ตามหลักคำสอนในทางพุทธศาสนา ที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติไว้ พระอาจารย์ได้สัญจรไปมาหลายวัดหลายที่ เพื่อได้ศึกษาร่ำเรียนนำครูบาอาจารย์ องค์ที่มีคุณธรรมด้านการปฏิบัติ ในคองวิปัสนา ในปี 1964 พ.ศ 2507 วัดส้างแก้วกำแพงเพชร ดอนส้างไพ เป็นวัดบ้านเกิดของพระอาจารย์ ขาดผู้บริหารการปกครองคือ เจ้าอธิการวัดนำพาออกตนญาติโยมทำบุญให้ทาน ชาวบ้านจึงได้นิมนต์พระอาจารย์ไปอยู่วัดส้างแก้วกำแพงเพชร บ้านดอนส้างไพโพนก่าม และได้ถูกแต่งตั้งเป็นเจ้าอธิการ อยู่วัดดอนส้างไพโพนก่ามเป็นเวลา 9 ปี

ความเคลื่อนไหวเวียกงานด้านการปกครอง
ปี 1973 คณะปกครองสงฆ์ เมืองโขง แขวงสีพันดอน ได้มีมติแต่งตั้งให้เป็น พระอาจารย์เผยแผ่ศีลธรรม ประจำแขวงสีพันดอน
ปี 1976 กองประชุมใหญ่คณะผู้แทนสงฆ์ แขวงจำปาสัก ได้แต่งตั้งพระอาจารย์เป็น คณะ อ.พ.ส. เมืองโขง มีหน้าที่เผยแผ่ศีลธรรม
ปี 1977 คณะศึกษาสงฆ์ แขวงจำปาสัก นิมนต์พระอาจารย์ไปเรียนวิชาบำรุงคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ
ปี 1979 พระอาจารย์ได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นอาจารย์สอนประจำโรงเรียนมัธยมสงฆ์ เมืองโขง เป็นเวลา 3 ปี และถูกแต่งตั้งให้เป็นกรรมการแนวลาวสร้างชาติ แขวงจำปาสัก รับผิดชอบเผยแผ่ ศีลธรรม อยู่เขตเมืองโขง และเมืองมูนละปะโมก ทั้งเป็นคณะกรรมการลบล้างการกึกหนังสือให้แก่ประชาชนเมืองโขง
ปี 1987 กองประชุมใหญ่ คณะผู้แทนสงฆ์ทั่วประเทศ ได้เลือกตั้งให้พระอาจารย์ เป็นคณะกรรมการศูนย์กลาง พุทธศาสนาสัมพันธ์แห่งประเทศลาว รับผิดชอบเผยแผ่ ศีลธรรม พุทธศาสนา
ปี 1999 - 2006 กองประชุมใหญ่คณะสงฆ์ ครั้งที่ 4 เลือกตั้งให้พระอาจารย์เป็นคณะประจำ อ.พ.ส แขวงจำปาสัก และเป็นปนะธาน อ.พ.ส. เมืองโขง ทั้งเป็นคณะกรรมการ องค์การพุทธศาสนาสัมพันธ์ลาว
ปี 2006 มาฮอดปัจจุบัน ด้วยสุขภาพร่างกายของพระอาจารย์บ่สมบูรณ์ ก็ได้ลาพักผ่อนปิ่นปัวตนเอง และยังได้ถืกแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษา อ.พ.ส แขวงจำปาสัก



พระอาจารย์ใหญ่มหาผ่อง (ผู้เขียนประวัติสมเด็จลุน) วัดองค์ตื้อ เล่าเรื่องพระอาจารย์ซาโงน
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=Gc6b13_j4sA" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=Gc6b13_j4sA</a>




การเคลื่อนไหวเผยแผ่พุทธศาสนาและเยี่ยมยามต่างประเทศ
การเคลื่อนไหวภารกิจเผยแผ่พุทธศาสนา เพื่อให้ออกตนญาติโยมรู้ตามหลักคำสอน และรู้ลึกซึ้งถึงศีลธรรมอันแท้จริง ก็ล้วนแล้วแต่หน้าที่อันสำคัญของพระสงฆ์และเป็นกิจวัตรที่ควรปฏิบัติ พระอาจารย์ใหญ่พระครูอนาวิโร บุนทอง วิปะไซย์ (ซาโงน) ได้ถูกนิมนต์ไปทัศนะต่างประเทศ เช่น เวียดนาม, จีน, ญี่ปุ่น, ฝรั่งเศส, สเปน, เยอรมัน, อเมริกา, ใต้หวัน, อิตาลี

การสร้างสาพัฒนา
พระครูอะนาวิโร บุนทอง วิปะไซย์

เริ่มแต่ชีวิตอยู่ภายใต้ร่มกาสาวพัสตร์ ได้พยายามศึกษาร่ำเรียนตามฮีตคองพุทธศาสนา และเต้ารวมความสามัคคีนำพาพระสงฆ์สามเณร และออกตนญาติโยมสร้างสาวัดวาพุทธศาสนา ให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้ามาตลอด ในปี 1972 พ.ศ 2515 พระอาจารย์ครูหลักคำแก้ว สับปุนโย (แก้ว สิงหาราช) เจ้าคณะสงฆ์ แขวงสีพันดอน พระครูหลักคำธรรมะธะโรทอง แก้ววิจิตร เจ้าคณะสงฆ์ เมืองโขง แขวงสีพันดอน พระยาเพ็งสุวรรณราษี พระยากิแก้วกิตติคุณ เจ้าแขวงสีพันดอน พระยาหลวงแหวนอะไพ เจ้าเมืองโขง พระยาหลวงเคือบ สีสุราช ได้พร้อมกันอาราธนานิมนต์พระอาจารย์ บุนทอง วิปะไซย์ มาสร้างวัดใหม่อยู่ข้างเดิ่นยนต์ และได้ตั้งชื่อวัดว่า วัดพุทธมีเจดีย์ ศรีมหาโพธิ์ (เคือบ สีสุราช) หรือเอิ้นว่าวัดเดิ่นยนต์เมืองโขง

ผลงานการสร้างวัดในทั่วเมืองโขง แขวงจำปาสัก
1. บูรณะวัดสร้างแก้ว กำแพงเพชร ดอนสร้างไพโพนก่าม บ้านแก้ง
2. สร้างวัดพุทธมีเจดีย์ ศรีมหาโพธิ์ (เคือบ สีสุราช) วัดเดิ่นยนต์เมืองโขง
3. วัดพวงแก้วอรุโณทัย บ้านกลางโขง (วัดกลางเมืองโขง)
4. วัดภูกิ่งแก้วกองมณี บ้านหาดทรายคูณ เมืองโขง
5. วัดโพนสีแก้ว บ้านลบปะดีจิก เมืองโขง
6. วัดสีมุงคุณบุ่งแก้ว บ้านเวินขาว เมืองโขง
7. วัดมหินธราราม บ้านคอนใต้ เมืองโขง
8. สร้างโรงเรียนสอนศีลธรรม
9. สร้างโรงหมอยาพื้นเมือง เพื่อปัวคนเจ็บไข้ได้ป่วย
10. สร้างวัดภูสะเหล่า ศูนย์ปฏิบัตธรรม และเที่ยวชมธรรมชาติ

การสร้างในแขวงอื่นๆ
1. ในนครหลวงเวียงจันทร์ พระอาจารย์ได้สร้างหอมณฑป หรือที่พักอาศัยของพระอาจารย์เอง อยู่วัดศิริวัฒนาราม วัดหนองด้วง (บ้านหนองด้วง)
2. สร้างหอพระ อยู่วัดภูปากกระดิง แขวงบริคำไซ
3. สร้าง กุฏิ หอพระ อ่างเก็บน้ำ ศาลารับแขกหนึ่งหลัง โรงเรียนสอนศีลธรรมหนึ่งหลัง จำนวน 7 ห้อง กว้าง 18 เมตร ยาว 45 เมตร ที่วัดป่านาคูณน้อย เมืองนาทรายทอง นครหลวงเวียงจันทร์

พระอาจารย์ใหญ่พระครูอนาวิโร บุนทอง วิปะไซย์ (ซาโงน) ตลอดชีวิตอยู่ภายใต้ร่มกาสาวพัสตร์ ได้นำพาพระสงฆ์สามเณรและออกตนญาติโยมสร้างวัดใหม่ และบูรณะวัดเก่า เป็นจำนวนหลวงหลาย บ่เฉพาะในแขวงจำปาสัก หรือ แขวงอื่นๆ นอกจากการสร้างสาวัดวาพุทธศาสนาแล้ว พระอาจารย์ก็ยังเห็นความสำคัญเป็นห่วงต่อสังคมอีก เคยได้ช่วยเหลือพ่อแม่ประชาชน ที่ถูกภัยพิบัติ น้ำท่วม ไฟไหม้หลายครั้งหลายหมู่บ้าน ในทั่วประเทศ

นิพพาน

...................
......โปรดติดตาม
จันดี สีเวินไซย์ผู้แปล
ขอขอบคุณปึ้มประวัติพระอาจารย์ซาโงน จากอาจารย์บุญเนื่อง เมืองมุนละปาโมก จำปาสัก
33  หมวดทั่วไป / ข่าวสารของทางชมรมฯและพูดคุยเรื่องทั่วไปสัพเพเหระ / แจ้งข่าว! หลวงปู่คำบุ คุตตจิตโต วัดกุดชมภู จ.อุบลราชธานี ท่านได้ละสังขารแล้ว เมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2557, 23:02:29
สมาชิกทุกๆท่านค่ะ แจ้งข่าวสุดอาลัย หลวงปู่คำบุ คุตตจิตโต วัดกุดชมภู จ.อุบลราชธานี

ท่านได้ละสังขารแล้วเมื่อเวลา14.51น.ณ.ห้อง rcu โรงพยาบาลศิริราช ด้วยอาการสงบ

(น้อมกราบส่งหลวงปู่สู่พระนิพาน กรรมอันใดที่ลูกเคยได้ล่วงเกิน ทั้งทาง กาย วาจา ใจ ขอให้หลวงปู่อโหสิกรรมให้ลูกด้วย)




34  ชมรมสืบสานตำนานบูรพาจารย์สายสำเร็จลุน / หลวงปู่ญาถ่านซาคำแดง / Re: เหรียญปั๊มพระซาคำแดงรุ่นแรก (เนื้อทองแดง) เมื่อ: 31 มกราคม 2557, 00:46:40


(อันนี้เล่าประสบการณ์ให้ฟัง บ่ได้มีจุดประสงค์ให้เกิดความเชื่อ หรืองมงาย)


เหรียญพระอาจารย์ข้าพเจ้าจะเอาไว้กระเป๋าใส่เครื่องห้อยติดถงไปใสมาใสนำ หากเดินทางไกล
จนมาฮอดวันที่ 29 ธันวาคม 2007- 2 มกราคม 2008 มีเพื่อนมาจากอิตาลี พาเขาไปเที่ยวเมืองหลวงพระบาง
เวลากลับมาปรากฎว่าเหรียญพระอาจารย์นั้นหายไปเสียแล้ว

เหตุการณ์ตอนไปหลวงพระบาง จากเส้นทางระหว่างศาลาภูคูน-กิ่วกะจำ ที่นั้นเป็นค้อยชัน
ปรากฏว่าถนนเปียก โชว์เฟ่อเหยียบเบรค รถของพวกเฮา ตีหลังกลับ ไปแปะกับของทางใกล้เหว
เฮ็ดให้เกิดอัศจรรย์ ก็คือในเวลารถตีหลังกลับนั้น รถบ่ตีงหยังเลย คนที่อยู่ในรถทุกคนเห็นนำกัน
แต่คนที่อยู่กระบะรถ บ่รู้เลยว่ารถนั้นตีหลังกลับ เนื่องจากเวลาเกิดเหตุประมาณ 8 โมงกลางคืน
บ่มีรถอื่นสวนมา อ้ายของข้าพเจ้านอนหลับตื่นขึ้นมาหลังจากรถจอดแล้ว ไปส่องเบิ่งเขาเห็นเขานอน
ก็เลยปลุกเขา

ถามเขาว่าปวดถ่ายเบาบ่?
เขาก็ลุกขึ้นมาแล้วถามว่า คนเมือเหมิดแล้วบ้อ?
ก็เลยถามเขากลับไปว่าคนอยู่ใส?
เขาบอกว่าคนมาซ่อยยู้รถ เพราะรถเฮาสิตกเหว
บอกเขาไปว่าบ่มีคนดอก ปลุกมาถ่ายเบาซื่อๆ
เขากะเลยอุทานขึ้นมาค่อยๆว่า "ฝันติซั่นน่า"

สำหรับข้าพเจ้าเอง ตอนออกมาจากเวียงจันทร์นั่งกาบิน (อยู่ทางหน้ารถหม่องกระปุกเกียร์)
หลังออกจากภูคูนนั้นเปลี่ยนมานั่งเบาะหลังข้างซ้าย เวลารถตีหลังกากลับหลังนั้น มันไวหลาย
เท่าอึดใจเดียว ข้าพเจ้าได้แต่ฮ้องออกมาจากคอค่อยๆ เอาะ เหลียวออกนอกหน้าต่าง
รถผ่านแวบทางซ้ายมือ เห็นรถไปแปะกับภูน้อยๆข้างทาง รถจั่งหยุดแบบบ่ตีง
แต่บาดลงจากรถไปเอาไฟฉายไปส่องเบิ่งที่มีภูน้อยๆตันรถไว้นั้น กลับบ่มีภูน้อยแล้ว
ตรงกันข้ามที่นั้นเป็นเหวสูงชันขอบถนนเพียงหากแม่นรถตกลงไปนั้น บ่รู้สิเป็นจั่งใด๋มันสูงเหลือเกิน
นี่คือเหตุการณ์หนึ่ง ตอนไปหลวงพระบาง ปี 2007-2008



เครดิต ข้อมูลจากพระอาจารย์ใหญ่
เครดิต ฮูปภาพจากอ้ายเต้ก นครหลวงเวียงจันทร์

ปล.กรุณาอ่านออกเสียงเป็นภาษาอีสานหรือภาษาลาว

จันดี ผู้แปล wan-e042
35  ชมรมสืบสานตำนานบูรพาจารย์สายสำเร็จลุน / หลวงปู่ญาถ่านซาคำแดง / Re: เหรียญปั๊มพระซาคำแดงรุ่นแรก (เนื้อทองแดง) เมื่อ: 27 มกราคม 2557, 16:00:39




พระอาจารย์ในใจขะน้อย  wan-e042

ขอขอบคุณเครดิตรูปและมนต์จากพระอาจารย์ใหญ่      
36  มุมนักอ่าน ลานนักเขียน / เเนะนำหนังสือน่าอ่าน / Re: ปรากฏตัวแล้ว...หนังสือพระเครื่องยอดนิยมภาคอีสาน ชุด เพชรน้ำงาม นครอุบลฯ เมื่อ: 23 มกราคม 2557, 11:10:31
โอ..เอามาให้ยืมอ่านศึกษาจักเล่มแหน่เป็นหยัง  wan-e042
37  ชมรมสืบสานตำนานบูรพาจารย์สายสำเร็จลุน / หลวงปู่เพ็ชร ปทีโป / Re: หลวงปู่เพชร ปทีโป วัดภูพระพาน อ.สังคม จ.หนองคาย เมื่อ: 22 มกราคม 2557, 01:19:33
พระอาจารย์ใหญ่มหาผ่อง ผู้เขียนประวัติสมเด็ดลุนกะมาตัวนี่ สุดยอดครับอ้ายเด็กน้อย
ขอบคุณหลายๆครับอ้ายสำหรับรูปครูบาอาจารย์ บ่ได้ไปกะอนุโมทนาบุญนำเด้ออยู่อ้าย
38  ชมรมสืบสานตำนานบูรพาจารย์สายสำเร็จลุน / หลวงปู่ญาถ่านซาคำแดง / Re: เหรียญปั๊มพระซาคำแดงรุ่นแรก (เนื้อทองแดง) เมื่อ: 21 มกราคม 2557, 11:03:34
พระอาจารย์มหาปาน อานันโท ผู้เป็นอาจารย์ใหญ่สอนกัมมัฏฐาน




พระอาจารย์ใหญ่ซาลี กันตสีโล เจ้าสำนักกรรมฐาน วัดโสกป่าหลวง
สำนักนี้แม่นพระอาจารย์ซาคำแดงเพิ่นเคยไปเข้าคองวิปัสนามาก่อน





พระอาจารย์บุญทอง วิปะไชย (ซาโงน) ผู้เป็นศิษย์เบื้องขวาพระอาจารย์ซาคำแดง รูปสมัยยังหนุ่ม



พระอาจารย์ใหญ่ซาโงน ผู้ปฏิบัติตามคองอาจารย์พระอาจารย์ซาคำแดง



ว่ากันว่าเหตุที่เหรียญพระอาจารย์ซาคำแดงรมดำกะคือว่า สมัยนั้นฝั่งลาวก่อนมีการปลดปล่อย มีการฆ่าฟันกัน
ชาวบ้านต่างคนกะต่างบ่อยากตาย อยากหนังเหนียว ไปหาเรียนวิชาอาคม นำอาจารย์นั้นอาจารย์นี้แล้วรักษาของบ่กุ้ม
เลยเฮ้ดให้เป็นปอปกันหลาย เพิ่นกะเลยเอาหัวว่านไฟใจดำนี่ล่ะ เป็นส่วนหนึ่งของการรมดำกันปอป
ผีปอบว่าแม่นแ่ต่ใช้ยินชื่อพระอาจารย์ซาคำแดง แม่นย้าน  


เหตุที่ประวัติของพระอาจารย์บ่ชัดเจน คนฮู้บ่หลายนั้นกะเพราะว่าเป็นเรื่องภายในของพี่น้องทางลาว
และสำคัญเกี่ยวกับความมั่นคง สมัยก่อนที่ลาวจะปลดปล่อย เลยบ่มีไผกล้าเว้าถึงพระอาจารย์ซาคำแดง
นับมื้อเรื่องราวของเพิ่นยิ่งลบเลือนหายไป เพราะว่าคนส่วนใหญ่ที่พอฮู้ประวัติเพิ่นกะเฒ่าลงเรื่อยๆตายแล้วกะมี
ที่เอาประวัติคร่าวๆของเพิ่นมาลงให้อ่านก็เพื่อ อยากให้คนรุ่นหลั่งได้ฮู้ว่าพระอาจารย์เพิ่นศักดิ์สิทธิ์จั่งได๋คนจึ่งนับถือเพิ่น  wan-e042

ขออนุญาตยืมรูปมาจากเว็บเพื่อนบ้าน


39  ชมรมสืบสานตำนานบูรพาจารย์สายสำเร็จลุน / หลวงปู่ญาถ่านซาคำแดง / Re: เหรียญปั๊มพระซาคำแดงรุ่นแรก (เนื้อทองแดง) เมื่อ: 20 มกราคม 2557, 18:05:19



 wan-e042

เครดิตรูปจาก อ้ายแก้ว เวียงจันทร์
40  ชมรมสืบสานตำนานบูรพาจารย์สายสำเร็จลุน / หลวงปู่ญาถ่านซาคำแดง / Re: เหรียญปั๊มพระซาคำแดงรุ่นแรก (เนื้อทองแดง) เมื่อ: 17 มกราคม 2557, 20:26:49
พระอาจารย์ชาคำแดง นั่งสมาธิอยู่เทิงภูเขาควาย


พระอาจารย์ซาคำแดง สอนวิชาให้พระอาจารย์ซาสุด

พระอาจารย์ซาสุดนั้น เกิดที่บ้านดอนส้มโฮง เมืองนาคะบุรี แขวงสีทันดอน (เมืองโขง แขวงสำปาสัก ในปัจจุบัน)
ท่านอาจารย์เล่าให้ผู้เขียนฟังปี 2008 ที่วัดเทพนิมิตธาตุฝุ่น นครหลวงเวียงจัน คราวที่ท่านอาจารย์มาเยี่ยมยามลูกศิษย์
ลูกหาของเพิ่นที่นครหลวงเวียงจันทร์

วันนั้นผู้เขียนได้มีโอกาสไปเยี่ยมยามและศึกษาธรรมนำเพิ่น และได้มีโอกาสได้อยู่สองต่อสองและได้ศึกษาธรรมนำเพิ่น
เป็นวันที่ 3 เวลา 10โมงกลางคืน จึงได้ถามประวัติการศึกษาธรรมนำเพิ่น ความจริง เพิ่นก็บ่ายเบี่ยงบ่อยากเว้า
มีแต่บอกว่าบ่เหิงจะฮู้เอง และแล้วผู้เขียนฟังเพิ่นเว้าไปเรื่อยๆ โดยส่วนหลายแล้วเพิ่นจะเว้าแนวทางปฏิบัติธรรมเป็นส่วนใหญ่
ผู้เขียนก็นั่งฟังด้วยความเคารพ ในที่สุดเวลาประมาณ 11 โมงกลางคืน ในการเว้าของเพิ่นก็ได้เข้าสู่ ชีวิตการศึกษาธรรมของเพิ่น

เพิ่นจะกล่าวเถิงพระอาจารย์ซาคำแดงว่า อาจารย์เสมอ ดังนี้

การเริ่มเรียนวิชาวิปัสนากัมมัฎฐานนั้น เป็นวิชาที่ประเสิรฐ และบรรลุธรรมได้ช้าหรือไวแม่นเป็นไปด้วยอำนาจบารมี
และบุพกรรมในชาติอดีตและในชาตินี้ หรือวิสัยของไผของมัน  อาจารย์(หมายถึงพระอาจารย์ซาคำแดง) สอนวิชาสมถะ
และวิปัสนาควบคู่กันไป อาจารย์นั้นรู้สึกว่าเพิ่นเป็นผู้ที่ได้สร้างให้ข้าน้อย(หมายถึงอาจารย์ซาสุดเอง) ได้เดินตามเส้นทางแห่ง
วิปัสนากัมมัฏฐาน

อาจารย์ถ่ายทอดวิชาวิปัสนาให้ข้าน้อย แต่ข้าน้อยบ่รู้ว่าข้าน้อยได้วิชา สิ่งที่ข้าน้อยได้ คือความ อิ่มเอิบใจ เช่นนั้น โดยเฉพาะตอน
อยู่ตามถ้ำ ตามป่าที่ภูเขาควายนั้น

ปีนั้น ข้อน้อยได้ขึ้นมาตามหาเพิ่นอยู่เวียงจันทร์ โดยเพิ่นเองบอกให้คนไปรับมาฮอดเวียงจันทร์ พักอยู่ที่วัดพระธาตุหลวงเหนือ
นำสมเด็จสังฆนายก และพระอาจารย์ใหญ่ทองคูณ อนันตสุนธร ตามคำแนะนำของอาจารย์ซา อยู่ได้จนวันเข้าพรรษาก็ยังบ่ทัน
เห็นอาจารย์ ตามหาเพิ่นพักอยู่วัดโพนป่าเป้า (ขณะนั้นพระอาจารย์ซาคำแดงเป็นเจ้าอธิการวันโพนป่าเป้า) ขะน้อยไปหาเพิ่น
อยู่วัดโพนป่าเป้า เขาบอกว่าเพิ่นอยู่วัดโพนทัน ไปนำพาญาติโยมสร้างวัดโพนทัน ข้าน้อยตามไปหาที่วัดโพนทัน เขาบอกว่า
เพิ่นไปที่วัดพระธาตุผฝุ่น ข้าน้อยไปหาที่วัดธาตุฝุ่น เขาบอกว่าเพิ่นไปวัดพระธาตุหลวง การเดินทางแม่นสมัยนั้นแม่นเดินตลอด
มีแต่ตามกับตามบ่มีวันเจอ ในขณะที่ไปตามหาแต่ละวัดนั้น ใช้เวลา3วัน แต่ละคืนใน3วันนั้น ฝันเห็นอาจารย์สอนวิชานั่งวิปัสนา
กัมมัฎฐานตามเข้าอารมออกอารมกัมมัฎฐาน บอดวิธีเข้าฌานและวิธีอฐิษฐานเข้ากัมมัฎฐาน ในฝันก็ยังมีความุ่งมั่นในยามฝัน
แต่ยามกลางวันที่ตามหาอาจารย์นั้นแม่นใจออก เพราะไปที่วัดใด๋ก็บ่เห็น นึกแล้วนึกอีกว่าสิกลับเมือ (หมายถึงกลับสีทันดอน)


คืนที่4ในความฝันเห็นอาจารย์มาบอกให้ข้าน้อยไปวัดโสกป่าหลวง ไปไหว้พระอาจารย์ใหญ่มหาปาน อนันโท เพราะเขา
จะเข้าคองกัมมัฎฐานในมื้ออื่นให้เข้าปฏิบัติกัมมัฎฐานกับพระอาจารย์ใหญ่ ตื่นเซ้าก็ไปวัดโสกป่าหลวง ไปไหว้
พระอาจารย์ใหญ่มหาปาน อนันโท เพิ่นก็บอกว่าอาจารย์เจ้าได้มาฝากไว้กับอาตมาแล้ววานนี้
(เป็นเรื่องแปลกในใจขั้นแรกที่มาเวียงจันทร์ ยังบ่ทันพบหน้าอาจารย์ซ้ำแต่ทุกอย่างคล้ายกับเป็นชีวิตจริง)

วันเข้าพรรษาก็ได้เข้าพรรษาที่วัดโสกป่าหลวง และวันหลังมาก็อธิษฐานจิตเข้าคองวิปัสนานำคณะพระสงฆ์สามเณร
หลายองค์ ในกลางพรรษานั้นจึงเห็นอาจารย์ (อาจารย์ซาคำแดง) ได้มาสอนวิปัสนาในสำนัก เพิ่นสอนแบบรวม
คือสอนให้พระสงฆ์สามเณร ที่เข้าคองกัมมัฎฐาน ส่วนหลายเพิ่นจะมา วันอื่นๆจะมีพระวิปัสนาจารย์หลายองค์
อยู่จำพรรษาและเข้าคองวิปัสนาอยู่วัดโสกป่าหลวงจนออกพรรษาแล้ว อาจารย์ได้พาข้าน้อยมาวัดโพนป่าเป้า
ได้3วันก็ได้พาข้าน้อยไปวัดพระธาตุหลวงเหนืออยู่นำพระอาจารย์คูณ อนันตสุนธร บอกว่าให้อยู่นี้ก่อน



- กะอยู่นั้น เพิ่นให้พักที่มหากุฏิ วัดพระธาตุหลวงเหนือ อยู่ที่นั้นจนเป็นเดือน วันนั้นเห็นรถGMCมายังวัดธาตุหลวง
อาจารย์เดินลงจากรถ หย่างขึ้นมายังที่ห้องข้าน้อยอยู่ บอกให้เตรียมตัวสิพาไป ให้ไปรอที่รถ คำว่าสิพาไปบ่ฮู้จัก
สิพาไปไส จึงเตรียมตัวทุกอย่างมีบาตร กรด เพิ่นบอกแล้วเพิ่นกะไปยังห้องสมเด็จพระสังฆนายก
และพระอาจารย์ทองคูณ อนันตสุนธร เหิงเติบอาจารย์ก็ลงมา ขึ้นรถแล้วรถก็ออก เดินทางไปยังเดิ่นบินวัดไตย
สนามบินทหาร มีเจ้านายหลายคนอยู่ที่นั้น ได้เวลาก็ขึ้นเฮือบิน เฮือบินได้ทะยานขึ้นจากสนามบินทหาร
ไปทางทิศตะวันออกเหลียวหลังมาเห็นน้ำงึมบ่พอคราวยนต์ก็ลงอยู่จอมภูรู้ว่าแม่นภูเขาควาย มีค่ายทหารอยู่นั้น
พระอาจารย์บอกว่าให้อยู่นี้เด้อ แล้วสิไปรับดอกมีทหารประมาณกองร้อยหนึ่งอยู่ที่นั้น ส่วนพระอาจารย์ไปเว้า
กับท่านนายพล ฉันเพลแล้วทั้งนายพลพร้อมคณะก็กลับไป

-เมื่อไปอยู่จอมภูเขาควาย ที่ถ้ำแห่งหนึ่งไกลจากค่ายทหารประมาณ 1 หลักกิโล ก็ได้ปฏิบัติธรรมตามหน้าที่
และที่เคยทำมาโดยมีทหารอุปถัมถ์อาหาร วันละ 1 คาบอยู่ได้ 1 เดือนก็เลยลาทหารออกเดินทางไปเรื่อยๆ
พักตามถ้ำต่างๆ บางวันก็ได้ฉันเข้า บางวันก็บ่ได้ฉันเข้า ได้แต่อธิฐานจิต บิณฑบาตรไปตามป่าดง
แล้วได้เอาน้ำล้างบาตรฉันน้ำล้างบาตรนั้นก็อิ่มคือฉันเข้า กลางวันเดินทางแหน่ปฏิบัติธรรมแหน่ 4-5วัน จึงได้พบบ้านคน
ชาวบ้านก็ได้เอาเข้าแห้งเป็นก้อนเท่าหัวโป้มือถวาย อันนี้กะเป็นเรื่องแปลกอีกเหมือนกับชาวบ้านรู้ไว้ล่วงหน้า
ว่าเฮาจะมาที่นี่จึงได้เฮ็ดข้าวเหนียวเป็นก้อนๆไว้ถวาย การเดินทางไปตามป่าพบอุปสรรค และสิ่งต่างๆนาๆ เวลาฉันข้าว
ก็เอาข้าวก้อนนั้นมาอมก็อิ่ม เวลาเช้าก็บิณฑบาตร อธิษฐาน ตามตั้นไม้ต้นตอก ก็อิ่มไป ทั้งเดินทาง ทั้งปฏิบัตธรรมไป
พร้อมเห็นว่ามีความสุขจิตใจกล้าแข็ง และมีสมาธิ ก็ทำเป็นกัมมัฎฐานไปตลอด จากเดือน3จนฮอดเดือน8เพ็งก็อธิษฐาน
เข้าพรรษาที่ถ้ำแห่งหนึ่ง หลังจากเดือน 11 เพ็งแล้วก็เดือนทางไปฮอดบ้านหนึ่งในแขวงบอริคำ พอไปตกบ้านนั้น
ก้าวหย่างขาเข้าบ้านก็เห็นรถ แลนโรเวอร์ แล่นเข้ามา อยู่ในรถแม่นอาจารย์(หมายถึงพระอาจารย์ซาคำแดง)
อาจารย์ซาสุดบอกว่า อันนี้กะเป็นเรื่องอัศจรรย์อีก เหมือนกับเพิ่นรู้ว่าเฮาจะมาที่นี่ เพิ่นก็ไปหาเฮาที่บ้านนั้นโลด


-เมื่อขึ้นรถแล้ว เพิ่นก็พาเฮาไปยังค่ายทหาร แล้วก็พาขึ้นยนต์ บอกว่ากลับเวียงจันทร์ แต่แล้วยนต์ก็กลายเวียงจันทร์
ไปลงวังเวียง ให้ไปอยู่วัดหนึ่งที่นั้น (ชื่อวัดผู้เขียนลืมแล้ว จะสืบหามาใส่ให้สมบูรณ์ในโอกาสต่อไป เพิ่นก็บอกว่า
จะให้ไปอยู่วัดนี้ในกลางพรรษานี้ ที่วัดนี้อาจารย์ได้อยู่นำ 3วัน แต่ละวันอาจารย์ได้สอนกัมมัฎฐานหลายอย่าง)
จนฮอดวันที่ 3 ยนต์ก็มารับ อาจารย์กลับเวียงจันทร์

ยังมีต่อ จะเว้าเถิงการเดินทางวิปัสนาของพระอาจารย์ซาสุด จากเวียงจันทร์เถิงภูแหลม สายเซลำเพา ไปทดสอบ
วิปัสนาที่ภูสาระแพดินเขมร ไปจนฮอดวันที่พระอาจารย์ซาสุดลาสึก ในปี 1976 ที่วัดดอนส้มโฮง
โปรดติดตามอ่านตอนต่อไป

 wan-e042
41  ชมรมสืบสานตำนานบูรพาจารย์สายสำเร็จลุน / หลวงปู่ญาถ่านซาคำแดง / Re: เหรียญปั๊มพระซาคำแดงรุ่นแรก (เนื้อทองแดง) เมื่อ: 13 มกราคม 2557, 20:17:35
กงนี้ เรียงแก้ว8ชั้น กำแพงเพัด7ชั้น หรือว่าอิติปิโส8ด้าน





**ยืมภาพจากเว็บเพื่อนบ้านครับ
42  ชมรมสืบสานตำนานบูรพาจารย์สายสำเร็จลุน / หลวงปู่ญาถ่านซาคำแดง / Re: เหรียญปั๊มพระซาคำแดงรุ่นแรก (เนื้อทองแดง) เมื่อ: 08 มกราคม 2557, 07:33:52

พระอาจารย์ซาคำแดง เดิมทีเพิ่นอยู่ที่วัดแก้งกุ่ม เมืองโขง เพิ่นเป็นหลานสมเด็จลุนเมืองโพนทองแขวงจำปาสัก
เพิ่นมีชื่อเสียงแม่นตอนที่ คนหลายหมู่บ้านเป็นโรคระบาดตายและเพิ่นกะได้เฮ็ดพิธีสูตรบ้าน
ซ่อยให้คนบ่ตายและในหมู่บ้านแถวหม่องเพิ่นอยู่บางปีกะแล้งเพิ่นกะเฮ็ดพิธีขอฝนให้ซาวบ้านได้ดำนา
และยังบ่พอท่อนั้นมียนต์โดยสาร มีผู้คนเต็มยนต์และได้เกิดอุบัติเหตุกำลังสิตกเพิ่นกะสามารถ
รับยนต์บ่ให้ตกได้อย่างเหลือเซื่อ แต่เป็นเรื่องจริง

และสาเหตุที่เพิ่นบ่ได้อยู่ลาวหญ้อนเพิ่นไปซ่อยเหลือฝ่ายที่รัฐบาลลาวจะลบล้าง ระบอบทางฝ่ายลาวกะคิด
หาวิธี กะเลยนิมนต์เพิ่นไปเพื่อที่จะฆ่าเพิ่น แต่เพิ่นกะรู้แต่พอไปฮอดบ้านห้วยแม่สังกะเลยสังหารเพิ่นอยู่
ที่นั่น อยู่ที่นั้นกะมีธาตุเพิ่นแต่รู้บ่ว่าร่างกายเพิ่นนั้นเป็นเพียงต้นกล้วยที่เอาไปฝัง เพราะคนที่เพิ่นไปฆ่ากะคึดว่า
ได้ฆ่าเพิ่นกับมือแล้ว กะเป็นอภินิหารของเพิ่น

เดี๋ยวนี้เพิ่นมีอายุร้อยกว่าปีแล้วและเพิ่นกะมีหลายร่าง แต่ที่เพิ่นใช้แม่นเป็นจัวน้อย ถ้าเจ้าอยากเห็นเพิ่นแม่นอยู่เขมร
ไปทางซายแดนเวียดนาม ยังมีอีกหลายประวัติเพิ่นเจ้าได้ส่ำนี้กะไปบอกคนบ่รู้ได้แล้วให้ได้บุญนำกันเด้อ


**ความจริงเป็นเช่นไรผมกะบ่ฮู้ดอกเด้อครับเขาเล่ามาแบบนี้ ใช้วิจารณญาณในการอ่านละกันเด้อพี่น้อง
**จันดี สีเวินไซ 
43  ชมรมสืบสานตำนานบูรพาจารย์สายสำเร็จลุน / หลวงปู่ญาถ่านซาคำแดง / Re: เหรียญปั๊มพระซาคำแดงรุ่นแรก (เนื้อทองแดง) เมื่อ: 26 ธันวาคม 2556, 09:58:15
รูปต้นแบบเหรียญ








44  ชมรมสืบสานตำนานบูรพาจารย์สายสำเร็จลุน / หลวงปู่ใหญ่สำเร็จลุน / Re: เหรียญหล่อโบราณญาท่านสมเด็จลุน(จีไอ) เมื่อ: 25 ธันวาคม 2556, 20:00:11
เรื่องเล่าหลวงปู่สมเด็จลุน โดยพระอาจารย์มหาผ่อง ผู้เขียนประวัติญาท่าน

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=vI1lmULVkMc" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=vI1lmULVkMc</a>

เพิ่นเป็นพระคือสิบ่ตั๋วเฺฮาติ๊เบาะ 
45  ชมรมสืบสานตำนานบูรพาจารย์สายสำเร็จลุน / หลวงปู่ญาถ่านซาคำแดง / Re: เหรียญปั๊มพระซาคำแดงรุ่นแรก (เนื้อทองแดง) เมื่อ: 25 ธันวาคม 2556, 19:20:51


Great Monks of Laos 
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 18
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.19 | SMF © 2006-2009, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!