?>
ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์แห่งภาคอีสาน
The Buddhist Art Conservation Club Of Esan (North Eastern Part Of Thailand)
08 พฤษภาคม 2567, 00:29:52 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  

กติกาในการ เช่า-แลกเปลี่ยนพระเครื่อง | พระเครื่องเมืองอุบลราชธานี | แจ้งปัญหาการใช้งาน
แจ้งเรื่องการยืนยันตัวตนสำหรับผู้ที่จะให้เช่าพระเครื่องฯ | วิธีสมัครสมาชิกเว็บ

  แสดงกระทู้
หน้า: 1 2 [3] 4
31  ห้องพระ / หลวงปู่ชา สุภัทโท / Re: วัตถุมงคล ของหลวงปู่ชา เมื่อ: 14 มกราคม 2555, 08:10:54

4. หลวงพ่อชาหลังเรียบ (พ.ศ. 2511)

หลังเรียบนี้ใช้บล็อกเดียวกับรุ่นหลังใบไม้ เนื้อหามวลสารก็เป็นอันเดียวกัน คือใช้ผงเดิมที่ยังเหลือค้างอยู่จากปีที่แล้ว (2510) ต่างกันเพียงด้านหลังเท่านั้นที่ทำเรียบ ๆ ไม่มีอะไร

ดังนั้นข้อสังเกตในการแยกรุ่นแรกกับรุ่นสองจึงอยู่ที่ด้านหลัง รุ่นแรกจะมีรอยใบไม้ทุกองค์ ทั้งที่โรยกากเพชรและไม่โรยกากเพชร หากมีรอยใบไม้แล้วถือเป็นรุ่นแรกทั้งหมด ส่วนรุ่นสองนี้แม้ว่าด้านหน้าจะเหมือนรุ่นแรกทุกประการเพราะใช้บล็อกเดียวกัน แต่ด้านหลังจะเรียบไม่มีรอยกดพิมพ์ด้วยใบไม้
32  ห้องพระ / หลวงปู่ชา สุภัทโท / Re: วัตถุมงคล ของหลวงปู่ชา เมื่อ: 14 มกราคม 2555, 08:08:49

3. หลวงพ่อชาหลังใบไม้ (พ.ศ. 2510)

3. หลวงพ่อชาหลังใบไม้ (พ.ศ. 2510)

สืบเนื่องจากบล็อกที่คุณกฤษณะและแม่ชีวิไลนำมาถวาย หลวงพ่อก็ได้อนุญาตให้มีการสร้างพระเครื่องเนื้อผงขึ้นเป็นครั้งแรกโดยใช้บล็อกดังกล่าว ผู้ที่ได้เข้าร่วมกดพิมพ์พระคนหนึ่งคือคุณชัยสิทธิ เตชะศิริชนะกุล ซึ่งได้เล่าว่าพิธีกดพระทำขึ้นที่ใต้ถุนกุฏิหลวงพ่อทำกันเองในหมู่ลูกศิษย์ใกล้ชิด

ระหว่างที่กำลังผสมผงพุทธคุณ หลวงพ่อได้บอกว่าให้ไปเอาจีวรมา ทกคนเข้าใจว่าหลวงพ่อจะเอาจีวรมาห่ม แต่ปรากฏว่าท่านจะเอามาผสมใส่ในเนื้อพระด้วย จึงเกิดการถกกันว่าจะเอาจีวรใส่ลงไปอย่างไร คุณชัยสิทธิแสดงความคิดเห็นว่าให้ตัดจีวรเป็นชิ้นเล็ก ๆ บรรจุไว้ในองค์พระทุกองค์ ภายหลังถ้าจะพิสูจน์ว่าพระแท้หรือไม่ให้หักพระออกดู ถ้าพบจีวรก็แปลว่าแท้ แต่หลวงพ่อไม่ยอมให้ทำเช่นนั้น ท่านว่าขืนทำอย่างนั้นพระก็หักหมด จึงให้เอาจีวรทั้งผืนเผาไฟ เอาขี้เถ้าจีวรมาผสมนอกจากนี้มีขี้เถ้าจีวรแล้ว ยังมีเส้นเกษาของหลวงพ่อผสมอยู่ด้วย รวมทั้งขี้ธูปจากกระถางธูปบูชาพระประธานในศาลาและผงดอกไม้บูชาพระประธานในศาลาผสมอยู่ด้วย

ลักษณะของของพระเครื่องรุ่นแรกนี้ทำเป็นรูปหลวงพ่อนั่งสมาธิอยู่ในซุ้มระฆัง ฐานสองชั้น เนื้อขาวอย่างปูนปลาสเตอร์ เป็นพระไม่มีทน้ามีตา ด้านหลังเป็นรอยใบไม้.ทุกองค์ บางคนเข้าใจว่าเป็นใบโพธิ์แต่ความจริงเป็นใบไม้ธรรมดาทั่วไป ที่ทำเช่นนี้เพื่อความหมายว่าเป็นวัดป่าเท่านั้น ไม่มีเจตนาอื่น

ขนาดขององค์ไม่สามารถกำหนดมาตรฐานได้ เนื่องจากว่าผู้แกะพระออกจากบล็อกมีหลายคน บางคนหยิบพระโดยใช้นิ้วคีบด้านบนกับด้านล่างของพระ ก็จะทำให้พระดูสั้นลงหรือดูเตี้ยลงเล็กน้อย ถ้าใช้นิ้วคีบพระด้านข้างก็จะทำให้พระดูชะลูดขึ้นเล็กน้อย คงประมาณขนาดของพระได้ว่าอยู่ในราว ๆ ความกว้างประมาณ 2.4 ซ.ม. ยาว 3 ซ.ม. มีบางองค์กว้างถึง 2.6 ซ.ม. และยาว 3.5 ชม. ก็มี ที่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องจากการตัดปีกไม่เท่ากัน แต่ถ้าจะเอามาตรฐานโดยวัดจากขอบพระพิมพ์พระจริงวัดจากบนถึงล่าง โดยไม่นับส่วนปีกที่เกินออกมา ก็ควรจะอยู่ในราว 3.2 ซ.ม. ส่วนความหนาของพระยิ่งไม่แน่นอนใหญ่ มีทั้งหนามาก หนาพอดี และบางเกินไป

เนื้อพระโดยมากเป็นสีขาวอย่างปูนปลาสเตอร์ ที่เป็นสีเทาก็มี เทาอมเหลืองก็มี ทั้งนี้เป็นเพราะการผสมเนื้อพระแต่ละวันไม่เหมือนกัน ลักษณะพื้นผิวของพระดูหยาบและคล้ายจะแตกหักโดยง่าย แต่ถ้าดูด้วยแว่นขยายจะพบความแห้งและแกร่งไม่น้อย ในองค์ที่เนื้อผงออกสีขาว ผิวบางส่วนขึ้นเป็นเงามันคล้ายผิวของพระสมเด็จนาคปรกสุโขวิเวโก หลังตรายาง ของเจ้าคุณนรฯ สีของเนื้อพระก็ขาวเหมือนกัน

ข้อสังเกตพระรุ่นนี้ต้องดูที่ซุ้มระฆังด้านบน ซึ่งจะชิดขอบพระด้านบนมากเป็นพิเศษ และถ้าจะวัดความกว้างของซุ้มก็ดูจะได้มาตรฐานมากกว่า วัดขนาดองค์พระ คือความกว้างของซุ้มด้านล่างอยู่ในราว 2.2 ซ.ม. ความสูงของซุ้ม 2.9 - 3 ชม.

พระเครื่องรุ่นแรกนี้มีทั้งที่โรยกากเพชรไว้ด้านหน้า และไม่โรยกากเพชร

ที่มีการโรยกากเพชรนั้นเกิดจากผู้กดพิมพ์คิดเอากากเพชรมาโรยลงไปเอง เมื่อหลวงพ่อมาพบเข้าก็ตำหนิว่าเป็นพระลิเก จึงเลิกโรยกากเพชร แต่ว่ารุ่นหนึ่งนี้มีด้านหลังเป็นใบไม้ทุกองค์

พระเครื่องรุ่นนี้มีของปลอมออกมานานแล้ว ปลอมกันหลายหมู่หลายคณะ แต่ของปลอมไม่สามารถทำเนื้อได้เหมือน พิมพ์ก็ไม่เหมือน
33  ห้องพระ / หลวงปู่ชา สุภัทโท / Re: วัตถุมงคล ของหลวงปู่ชา เมื่อ: 14 มกราคม 2555, 08:05:55

2. รูปถ่ายและตะกรุด 3 กษัตริย์ (พ.ศ. 2510)

ปีเดียวกันกับที่มีพระเกษออกมา คุณกฤษณะและแม่ชีวิไลได้ถือวิสาสะสร้างรูปหลวงพ่อพร้อมกับตะกรุด 3 กษัตริย์เลี่ยมรวมกันในกรอบพลาสติกเป็นจำนวนประมาณ 500 อัน พร้อมกับทำบล็อคพระเครื่องรูปหลวงพ่อ นั่งในซุ้มระฆังอย่างพระสมเด็จฯ โดยว่าจ้างช่างในจังหวัดนครสวรรค์ทำให้ ฯ

บล็อกพระเครื่องได้นำมาถวายหลวงพ่อ ส่วนรูปถ่ายและตะกรุด 3 กษัตริย์ไม่ถวาย

ต่อมาหลวงพ่อทราบว่าได้มีการสร้างรูปถ่ายและตะกรุด3 กษัตริย์ด้วย ก็สั่งให้แม่ชีวิไลนำรูปถ่ายและตะกรุด 3 กษัตริย์มามอบให้ท่าน เพราะเกรงว่าจะเป็นการทำขึ้นเพื่อประโยชน์ตน (ความจริงเรียกว่ายึดมา) เมื่อแม่ชีวิไลนำรูปถ่ายและตะกรุด 3 กษัตริย์มาถวายหลวงพ่อแล้ว หลวงพ่อก็นำออกแจกจ่ายแก่ญาติโยมทั่วไปจนหมด

รูปถ่ายและตะกรุด 3 กษัตริย์ จึงถือว่าเป็นวัตถุมงคลรุ่น 2

34  ห้องพระ / หลวงปู่ชา สุภัทโท / Re: วัตถุมงคล ของหลวงปู่ชา เมื่อ: 14 มกราคม 2555, 08:04:19

1. พระเกษ (พ.ศ. 2510)

ลักษณะเป็นแผ่นตะกั่วม้วนหุ้มเป็นแท่ง ขนาดประมาณหัวลูกปืน ยาวบ้าง สั้นบ้างหัวกลมมนแบบลูกปืนบ้าง หัวตัดท้ายตัดบ้าง หัวแหลมเป็นทรงกรวยบ้าง

รุ่นแรกสุดทำเป็นหัวมนแบบลูกปืน ทำขึ้นในปี 2510 ส่วนแบบอื่น ๆ กำหนดรุ่นไม่ได้ว่าอย่างไหนก่อนหลัง คงแต่เพียงบอกได้ว่าได้มีการทำออกมาติดต่อกันหลายปี รูปทรงที่แตกต่างกันนั้นเกิดจากฝีมือผู้หุ้มห่อตะกั่วแต่ละคนไม่เหมือนกัน ห่อตามถนัด อย่างเช่นปี 2517 ท่านอาจารย์ผาเป็นผู้ห่อคนเดียว ลักษณะของพระเกษจึงเป็นรูปทรงกรวย ขนาดก็ไม่แน่นอน

ข้างในพระเกษบรรจุเส้นเกษาของหลวงพ่อชาและผงพุทธคุณ แต่รุ่นหลัง ๆ มีเพียงเส้นเกษาอย่างเดียว

พระเกษเป็นของเล่นยาก ดูยาก ถ้าไม่ใช่ผู้ได้รับจากหลวงพ่อแล้วจะไปหาเอาจากที่อื่นก็น่ากลัวว่าจะถูกของปลอม ได้ยินว่าแม้ตะกั่วถ่วงอวนหรือแหก็มีผู้เอามาอ้างว่าเป็นพระเกษและก็ยังขายได้

35  ห้องพระ / หลวงปู่ชา สุภัทโท / Re: อาจาริยบูชาแด่องค์พ่อแม่ชา สุภัทโท ประจำปี ๒๕๕๕ เมื่อ: 14 มกราคม 2555, 07:49:30
  เจอกันที่งานครับ(เอากระเพราะปลาไปแจก)
36  ห้องเวทย์วิทยาคมและสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ / เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน) / Re: สุดยอดทางคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดและเป็นมหาอุด เมื่อ: 12 มกราคม 2555, 17:41:21
เอ๋ บีทาเก้น 'มีบุญเพราะหลวงปู่บุญมี'
การประมูลพระเครื่อง ของวงการพระ จะแตกต่างจากวงการอื่นๆ คือ ประมูลก่อนจ่ายทีหลัง ทั้งนี้ รายได้ที่เกิดจากการประมูลพระเครื่องในคืนเลี้ยงรับรองคณะกรรมการนั้น ถือว่าเป็นการวัดบารมีของคนจัดงานว่า มีบารมีมากเพียงใดนั่นเอง

  ในการประมูลพระเครื่อง ของคืนวันเลี้ยงรับรองกรรมการนั้น ชื่อหนึ่งที่คนวงการพระได้ยินกันจนเป็นที่คุ้นหู ในการร่วมประมูลพระ คือ นายอภิชิต อาจจินดา หรือที่รู้จักกันในนาม ?เอ๋ บีทาเก้น? และส่วนที่มาของฉายา ?บีทาเก้น? เพราะเขาเป็นหนึ่งในผู้บริหาร บริษัท บีทาเก้น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าประเภท นมเปรี้ยวพร้อมดื่มพาสเจอร์ไรส์ และโยเกิร์ตพาสเจอร์ไรส์ ตรา บีทาเก้น นั่นเอง

 ?จริงๆ แล้ว ผมไม่ใช่เซียนพระ ผมเข้ามาสู่วงการพระเพราะพี่ต้อย เมืองนนท์ จากนานๆ ไปร่วมงานของวงการพระที แต่เดี๋ยวนี้ต้องไปทุกงาน จนกลายเป็นว่า อาทิตย์ไหนไม่ได้ไปร่วมงานประกวดพระ รวมทั้งอาทิตย์ไหนไม่ได้ไปเดินศูนย์พระเครื่อง ดูเหมือนว่า ชีวิตขาดอะไรไปอย่างหนึ่ง เพราะวงการพระเครื่องมีแต่เพื่อนที่มาจากคนทุกชั้น ทุกครั้งที่ผมประมูลพระเครื่อง ผมมองว่า ผู้จัดงานนั้น นำเงินที่ได้ไปทำอะไร มากกว่าที่จะคิดว่า พระที่ประมูลได้มานั้นมีราคาเท่าไร? นี่คือ เสน่ห์ของวงการพระเครื่อง จากคำบอกเล่าของ เอ๋ บีทาเก้น

 แม้ว่า เอ๋ บีทาเก้น จะมีพระเครื่องชุดหลักๆ ราคาแพงหลายองค์ ไม่ว่าจะเป็นพระหลวงปู่ทวด เหรียญเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรฯ แต่ใครเลยจะคิดว่า พระเครื่องที่เขาแขวน กลับเป็น เหรียญหลวงปู่บุญมี โชติปาโล (โชติปาโล แปลว่า ผู้มีแสงสว่างในธรรม) แห่งวัดสระประสานสุข (วัดบ้านนาเมือง) จ.อุบลราชธานี เนื้อทองแดง รุ่นแรก ปี ๒๕๓๐ ซึ่งเลี่ยมกรอบและแขวนอยู่บนสร้อยคอสเตนเลสธรรมดาเท่านั้น ไม่ใช่เป็นกรอบเลี่ยมทองล้อมเพชร และแขวนอยู่บนสายคอทองคำเส้นใหญ่ อย่างที่หลายคนคิดเอาเองไปก่อน

 สำหรับที่มาของเหรียญหลวงปู่บุญมีนั้น เอ๋ บีทาเก้น บอกว่า เป็นพระของ นายชิดชัย วรรณสถิตย์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งท่านมอบให้มาเป็นของประมูลในงานประกวดพระเครื่อง

 ในครั้งนั้น ได้ประมูลมาในราคา ๑.๒ แสนบาท แม้ว่าจะดูว่าราคาสูงเกินจริง เพราะราคาจากวัด และราคาตลาดอยู่ในหลักร้อยปลายๆ เท่านั้น แต่ถ้ามองในแง่ทำบุญ ช่วยการกุศลแล้ว เรื่องราคาค่างวดไม่ใช่สิ่งสำคัญ

 จากนั้นก็นิมนต์เหรียญหลวงปู่บุญมีขึ้นคอ ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมากว่า ชีวิตมีความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น โดยมีความเชื่อว่า ชื่อของหลวงปู่บุญมีเป็นมงคล

 ทั้งนี้อาจจะพูดได้ว่า แขวนหลวงปู่บุญมีทำให้เป็นคนมีบุญ ก่อนหน้านี้ ไม่เคยสัมผัสปาฏิหาริย์อะไร เกี่ยวกับพระเครื่องเลย แต่เมื่อมีหลวงปู่บุญมี ทุกครั้งที่ตั้งจิตอธิษฐานของอะไร มักประสบความสำเร็จทุกครั้ง

  หลังจากนั้น ก็ศึกษาประวัติของหลวงปู่บุญมี พร้อมกับเดินทางไปกราบไหว้ท่าน ยิ่งทำให้มีความศรัทธามากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ชาวบ้านทั่วไปจะเรียกขานท่านว่าหลวงปู่ หรือหลวงตาบุญมี แต่ท่านจะเรียกตัวท่านเองเสมอว่า พระบ้านนอก

 ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๔๕๒ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๕ ค่ำ ปีระกา ตรงกับวันมาฆบูชา ท่านมรณภาพเมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๔๗ รวมสิริอายุ ๙๕ ปี ๓ เดือน ๙ วัน อายุพรรษา ๗๔ ปี รุ่นแรก ปี ๒๕๓๐

 ส่วนสถาปัตยกรรมของวัดสระประสานสุขนั้น ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น และต่างจากวัดอื่นๆ เช่น ประตูทางเข้าวัดจะเป็นรูปพระอินทร์ทรงช้าง ๓ เศียร อุโบสถบนเรือสุวรรณหงส์ หอระฆัง ๕ ชั้น วิหารรูปเรือนาคราช ซึ่งตั้งอยู่กลางน้ำ อีกทั้งศาลาการเปรียญ ยังเป็นที่ประดิษฐานของพระประธานปางนาคปรก ขนาดใหญ่ อีกทั้งรูปเหมือนพระเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกหลายองค์ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้มากราบไหว้สักการะ

 ภายในวัดนั้น มีความเงียบสงบร่มเย็น มีบริเวณที่กว้างขวาง โดยพุทธศาสนิกชน ได้เลื่อมใสและศรัทธาเดินทางมาทำบุญและเยี่ยมชมวัด ไม่ว่าทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ เป็นจำนวนมาก

 พร้อมกันนี้ เอ๋ บีทาเก้น ได้ยกบางส่วน คำสอนของหลวงปู่ ที่นำมายึดปฏิบัติในชีวิต เช่น "ดีชั่วก็ตัวเรา จงเอาอยู่ที่ใจ สวรรค์อยู่ที่ใจ อย่าสงสัย เอาใจเถิด เดินทางเดียวกัน อย่าเหยียบรอยกัน ทำสมาธิให้ภาวนา ตาย ตาย ตาย ทุกลมหายใจ"

 "ละชั่วประพฤติดี ละทิฐิไม่เป็นพาล หวังเพื่อพระนิพพาน บำเพ็ญญาณสนองคุณ"
 หลวงปู่จะสอนเสมอว่า พระแก้วสององค์ คือ บิดามารดา ให้ระลึกถึงบุญคุณอยู่เสมอๆ ความกตัญญูคือสิ่งที่ล้ำค่า

 "ให้เชื่อความดีที่เราทำ ให้เชื่อกรรมที่เราสร้าง"
 "คนยากจน เพราะความตระหนี่ คนเป็นเศรษฐี เพราะบริจาคทาน"
 เมื่อถามถึงหลักธรรม ที่นำมาใช้ในการบริหารธุรกิจนมเปรี้ยว จนประสบความสำเร็จ เอ๋ บีทาเก้น บอกว่า ใช้ทุกข้อ

 แต่ข้อที่ใช้มากกว่าปกติ คือ ?ความละอายและเกรงกลัวต่อบาป? ซึ่งมีธรรมอยู่ ๒ ข้อ คือ หิริ (อ่านว่า หิ-ริ, หิ-หริ) แปลว่า ความละอายแก่ใจ ความละอายต่อบาป หิริ หมายถึงความละอายใจตัวเองต่อการทำความชั่วความผิด ต่อการประพฤติทุจริตทั้งหลาย และความละอายใจตัวเอง ที่จะละเว้นไม่ทำความดีซึ่งควรจะทำให้เกิดมีในตน เช่น บิดามารดามีความละอายใจที่จะไม่ดูแลบุตรของตน เป็นต้น

 และ ๒.โอตตัปปะ เป็นอาการของจิตที่หวั่นไหว เมื่อจะทำความชั่ว เพราะกลัวความผิดที่จะตามให้ผลในภายหลังเกิดขึ้นได้ เพราะคิดถึงโทษหรือความทุกข์ที่จะเกิดขึ้นจากการทำชั่ว จากการประพฤติทุจริตของตน เช่น ตัวเองต้องเดือดร้อน เกิดความเสียหาย เสียทรัพย์สินเงินทอง เสียอิสรภาพ หรือถูกคนอื่นตำหนิติเตียน ถูกสังคมรังเกียจ เป็นต้น

 ทั้งหิริ และโอตตัปปะ เป็นธรรมรักษาคุ้มครองโลก ทำให้โลกเกิดสันติ ทำให้คนเราอยู่กันอย่างสงบสุข เพราะคนที่มีหิริจะเกลียดความชั่ว และละอายที่จะทำความชั่ว ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทำให้ไม่ก่อความเดือดร้อนให้แก่โลกและสรรพสัตว์ทั้งปวง

 อย่างไรก็ตาม ในวันอาทิตย์ที่ ๖ กันยายน ๒๕๕๒ สมาคมนักเรียนเก่าอำนวยศิลป์ โดย พล.ท.รังสฤษดิ์ แจ้งเจนกิจ นายกสมาคม ร่วมกับสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย จัดงานประกวด พระบูชา พระเครื่องและเหรียญคณาจารย์ ณ ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า งามวงศ์วาน จ.นนทบุรี

 ในฐานะที่เป็นหนึ่งในศิษย์เก่าโรงเรียนอำนวยศิลป์ และเคยเป็นประธานรุ่นหญ้าแพรก เอ๋ บีทาเก้น ฝากบอกว่า อยากเชิญชวนศิษย์เก่าโรงเรียนอำนวยทุกรุ่น ร่วมงานเลี้ยงรับรองคณะกรรมการประกวดพระ ในเย็นวันเสาร์ ที่ ๕ กันยายน ณ ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์

 โดยอยากให้ศิษย์เก่าทุกรุ่นทุกท่าน ที่มีอยู่กว่า ๘ หมื่นคน กระจายอยู่ในทุกกลุ่มอาชีพ มาช่วยงานในครั้งนี้ ทั้งในส่วนของการร่วมงานเลี้ยง และส่งพระเข้าประกวด

 ?ก่อนหน้านี้ไม่เคยสัมผัสปาฏิหาริย์อะไรเกี่ยวกับพระเครื่องเลย แต่เมื่อมีหลวงปู่บุญมี ทุกครั้งที่ตั้งจิตอธิษฐาน ขออะไรมักประสบความสำเร็จทุกครั้ง?

เรื่อง - ภาพ... "ไตรเทพ ไกรงู"


37  ชมรมสืบสานตำนานบูรพาจารย์สายสำเร็จลุน / หลวงปู่ญาถ่านฤทธิ์ โสภิโต / Re: ท่านสมาชิกทุกท่านทีมีพระเครื่องหลวงปู่ญาท่านฤทธิ์ โสภิโต โปรดนำเสนอครับ เมื่อ: 10 มกราคม 2555, 17:46:37
อยากทราบท่านพี่ ว่าบล็อกเสริมทันท่านรึมั้ย ใครปลุกเสกครับพอดีมีอยู่องค์
38  หมวดทั่วไป / ข่าวสารของทางชมรมฯและพูดคุยเรื่องทั่วไปสัพเพเหระ / Re: **เรียนสมาชิกทุกท่าน รายงานตัวกันหน่อยดีมั้ยครับ** เมื่อ: 09 มกราคม 2555, 12:39:45
สวัสดีพี่ทุกท่าน ผม สยาม ครับ เป็นคนอุบลโดยกำเนิด
ตอนนี้เป็นนักดนตรีอยู่ในอุบล ว่างๆแวะมาท่านข้าวกันที่ หญิง ริมมูล(ใต้สะพานมูล)
39  พระเครื่องและวัตถุมงคล / วิชาการ ถาม-ตอบ เกี่ยวกับพระเครื่องและวัตถุมงคล / Re: อยากทราบประวัติการสร้างเหรียญหลวงปู่สวนรุ่นแรก(พิมพ์แจกแม่ครัว)หน่อยครับ เมื่อ: 03 มกราคม 2555, 13:44:24
  เค้าว่าสร้างพร้อมเหรียญรุ่นแรกจริงรึป่าวครับ
40  พระเครื่องและวัตถุมงคล / วิชาการ ถาม-ตอบ เกี่ยวกับพระเครื่องและวัตถุมงคล / อยากทราบประวัติการสร้างเหรียญหลวงปู่สวนรุ่นแรก(พิมพ์แจกแม่ครัว)หน่อยครับ เมื่อ: 03 มกราคม 2555, 13:41:47
 

ห้อยติดตัวประจำ
41  ห้องพระ / หลวงปู่มั่น ทัตโต / Re: เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่มั่นทัตโต เมื่อ: 03 มกราคม 2555, 13:37:09
กราบสาธุหลวงปู่
42  พระเครื่องและวัตถุมงคล / ให้เช่า-รับเช่า-แลกเปลี่ยนพระเครื่องและวัตถุมงคล / หลวงปู่ชา พิมพ์สี่เลี่ยมปี13 เมื่อ: 03 มกราคม 2555, 12:15:51
สวัสดีปีใหม่ครับ



43  พระเครื่องและวัตถุมงคล / วิชาการ ถาม-ตอบ เกี่ยวกับพระเครื่องและวัตถุมงคล / งานเซอร์ เมื่อ: 12 ธันวาคม 2554, 18:30:44
ทราบมั้ยครับใบประกาศงานเซอร์พระที่อุบลจะออกวันไหน ผมเขียนที่อยู่ไม่ชัดเจนถ้าจะไปรับเองที่ไหนหนอ
44  พระเครื่องและวัตถุมงคล / วิชาการ ถาม-ตอบ เกี่ยวกับพระเครื่องและวัตถุมงคล / Re: ล็อกเก็ตหลวงปู่ชา ฝากพิจารณาด้วยครับ เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2554, 15:56:41
 
45  พระเครื่องและวัตถุมงคล / วิชาการ ถาม-ตอบ เกี่ยวกับพระเครื่องและวัตถุมงคล / Re: เหรียญหลวงปู่มุม ส หางยาว ช่วยพิจารณาด้วยแท้มั้ยครับ เมื่อ: 07 พฤศจิกายน 2554, 19:32:14
ขอบคุณทุกๆท่านน่ะครับ
หน้า: 1 2 [3] 4
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.19 | SMF © 2006-2009, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!