ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์แห่งภาคอีสาน

ห้องพระ => พระครูชิโนวาทสาทร => ข้อความที่เริ่มโดย: คนโก้ ที่ 20 ธันวาคม 2553, 11:50:12



หัวข้อ: พระครูชิโนวาทสาทร (อุทัย ปภัสสโร) หลวงพ่อวัดไชย
เริ่มหัวข้อโดย: คนโก้ ที่ 20 ธันวาคม 2553, 11:50:12
ประวัติพระครูชิโนวาทสาทร (อุทัย  ปภัสสโร)  อดีตเจ้าอาวาสวัดไชยมงคล
ชาติภูมิ
  พระครูชิโนวาทสาทร  ฉายา  ปภัสสโร  มีนามเดิมว่า  อุทัย  มีแก้ว  เกิดเมื่อวันที่  8  กรกฎาคม  2460  ที่บ้านหนองคู  ตำบลหนองคู  อำเภอเมือง  จังหวัดยโสธร  (เดิมขึ้นกับอุบลราชธานี)  มีโยมบิดาชื่อ  นายไพ  มีแก้ว  โยมมารดาชื่อนางเพ็ง  มีแก้ว
การศึกษาสายสามัญ
   การศึกษาของท่าน  จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4  ที่โรงเรียนบ้านหนองคู  ตำบลหนองคู  อำเภอเมือง  จังหวัดยโสธร  ในปีพุทธศักราช 2472
ชีวิตเมื่อเป็นฆราวาส
  เมื่อเรียนจบชั้นประถมปีที่ 4 แล้ว  โยมบิดามารดาของท่านก็พากันอพยพครอบครัวมาอยู่ที่บ้านหนองแสง  ตำบลสิงห์  อำเภอเมือง  จังหวัดยโสธร  ประกอบอาชีพทำไร่ไถนามาโดยตลอด  ท่านมีพี่น้องร่วมท้อง 9  คนด้วยกัน  โดยท่านเป็นบุตรคนโต  เพราะฉะนั้นหน้าที่การงานต่างๆจึงตกอยู่ที่ท่านทุกอย่าง  ไม่ว่าจะเป็นหักร้างถางพงเพื่อพลิกผืนดินทำมาหากิน  ทำเป็นผืนไร่  ผืนนา  เพื่อประกอบอาชีพในการเกษตร  ซึ่งเป็นอาชีพหลักของชาวบ้านในขณะนั้น  ด้วยอุปนิสัยของท่านเป็นคนขยันหมั่นเพียรเป็นหลักใหญ่  จึงทำให้ท่านมีผืนดินทำกินจำนวนนับร้อยไร่  ในขณะที่หนุ่มๆรุ่นเดียวกับท่านพากันเที่ยวเตร่หาความสำราญไปวันๆ  แต่ชีวิตของท่านกลับอยู่กับการทำไร่ทำนามาโดยตลอด  ไม่มีเวลาที่จะไปหาความสำราญดังเช่นหนุ่มรุ่นเดียวกัน  แม้แต่เรื่องผู้หญิงท่านก็ไม่เคยให้ความสนใจเลย  โดยอุปนิสัยของท่านแล้วเป็นผู้ที่มีจิตใจห้าวหาญไม่กลัวใคร  จึงทำให้ท่านรักการชกมวยเป็นชีวิตจิตใจ  ไม่ว่าไกลแค่ไหนท่านก็บากบั่นไปให้ได้   นั้นคือชีวิตฆราวาสจนเมื่ออายุ 23 ปี
การอุปสมบท
   เมื่อปีพุทธศักราช  2483  ทางหมู่บ้านหาผู้ที่จะอุปสมบทก่อนเข้าพรรษาไม่ได้  ตัวท่านเองเห็นว่าอายุก็มากแล้ว  จึงรับอาสาอุปสมบทพร้อมเพื่อนอีก 3 คน  โดยอุปสมบทตามประเพณีที่วัดบ้านหนองแสง  ซึ่งเดิมเป็นวัดทางมหานิกาย  ในขณะที่ท่านบวชนั้นท่านมีมานะในการศึกษาพระธรรมวินัยจนแตกฉาน  สามารถสอบนักธรรมชั้นตรี  ชั้นโทได้ภายใน 2 ปีติดต่อกัน  โดยการเรียนรู้จากหนังสือแล้วก็ไปสอบ  ต่อมาปีพุทธศักราช  2485  ท่านได้ย้ายจากวัดบ้านหนองแสงไปศึกษาต่อที่วัดบ้านบุ่งหวาย  ตำบลสงเปลือย  อำเภอคำเขื่อนแก้ว  จังหวัดยโสธร  ในปัจจุบัน  ซึ่งเป็นสำนักเรียนที่ขึ้นชื่อในสมัยนั้น  สาเหตุที่ท่านยังไม่ศึกษาลาเพศหลังจากที่ท่านอยู่ครบพรรษาแล้ว  เพราะโยมบิดาพูดกับท่านบ่อยๆว่า ?เรียนไปเถอะลูกอย่าออกมายุ่งกับทางโลกอีกเลย ผู้อยู่ทางนี้จะทำมาหากินไม่ต้องห่วงหรอก? ซึ่งตัวท่านเองพูดเสมอว่าโยมบิดาของท่านเป็นนักปราชญ์อย่างแท้จริง  ต่อมาเมื่อปีพุทธศักราช  2486  ท่านได้ญัติเป็นธรรมยุตินิกาย  พร้อมทั้งสอบได้นักธรรมชั้นเอกในปีเดียวกัน  ด้วยความที่เป็นผู้มีความสนใจไฝ่ในการศึกษาเล่าเรียนทำให้เป็นที่รักของครูบาอาจารย์  ต่อมาปีพุทธศักราช  2487  อาจารย์ของท่านได้นำมาฝากเพื่อศึกษาด้านเปรียญธรรมที่วัดสุทัศนาราม  ตำบลในเมือง  อำเภอเมือง  จังหวัดอุบลราชธานี  พร้อมกันนั้นท่านได้ศึกษาเปรียญธรรมที่สำนักเรียนวัดสุปัฏนารามวรวิหารไปด้วย  ท่านพักอยู่ที่วัดสุทัศนารามเป็นเวลา 3 ปี  ในปีพุทธศักราช 2490  ท่านได้ย้ายมาพักที่วัดไชยมงคล  ด้วยอุปนิสัยที่เป็นคนจริงทำอะไรก็ต้องทำให้สำเร็จ  จึงทำให้ท่านสอบได้เปรียญธรรมถึง  4  ประโยค  ในปีพุทธศักราช  2495  ถึงท่านจะได้เปรียญธรรมถึง  4  ประโยค  แต่ท่านก็ไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น  ท่านยังคงศึกษาเล่าเรียนต่อไป  พร้อมกับการทำหน้าที่เป็นครูสอนเปรียญธรรมแก่พระสงฆ์องค์เณรควบคู่กันไปด้วย  โดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยจนได้รับการยกย่องจากครูบาอาจารย์โดยทั่วกัน  ต่อมาในปีพุทธศักราช  2499  ท่านพระอาจารย์กอง  ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสอยู่ในขณะนั้นได้ย้ายกลับไปนครจำปาศักดิ์  ฝั่งประเทศลาวซึ่งเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของท่าน  หน้าที่การทำนุบำรุงวัดไชยมงคลจึงตกอยู่กับท่าน  ตั้งแต่นั้นมา
การพัฒนาวัดไชยมงคล
  จากการกลับไปบ้านเกิดของเจ้าอาวาสองค์ก่อน  ซึ่งขณะนั้นวัดไชยมงคลเป็นวัดเล็กๆ  มีโบสถ์วิหารหลังเล็กๆ  เก่าๆ  พอประกอบศาสนกิจได้บ้าง  ยังเป็นวัดบ้านนอกมีแต่ป่าไผ่  ป่าบักต้อง  มีกุฏิหลังเก่าๆเล็กๆไม่กี่หลัง  ตอนที่ท่านเจ้าอาวาสองค์เดิมลากลับบ้านเหลือปัจจัยไว้ให้ท่านเป็นเงิน  200  บาท  ซึ่งรายได้เข้าวัดช่วงนั้นมีเพียงการขายหมากขายมะพร้าว เท่านั้น  แต่ด้วยท่านมีจิตใจแน่วแน่ในการทำนุบำรุงศาสนาสืบต่อไป  ท่านได้เริ่มเข้าป่าเลื่อยไม้  ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่สามารถทำได้  โดยท่านมีคู่หูในการบุกป่าฝ่าดงผจญภัยต่างๆ คือคุณตาน้อย  ณรงค์แสง  จนได้ไม้พอสมควรแล้วท่านก็เริ่มลงมือสร้างกุฏิทีละหลัง  จนกระทั่งมีครบสมบูรณ์ในปัจจุบัน  ในปีพุทธศักราช  2508  ท่านได้เริ่มก่อสร้างศาลาการเปรียญหลังปัจจุบันด้วยความมุ่งมั่นจนเสร็จอย่างรวดเร็ว  ต่อมาปีพุทธศักราช  2515  ท่านได้เริ่มลงมือก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่แทนหลังเก่าที่ชำรุดทรุดโทรมมาก  แล้วมาเสร็จสิ้นพร้อมฉลองในปีพุทธศักราช  2521  สิ่งเหล่านี้คือผลงานชิ้นใหญ่ๆที่ท่านได้ก่อสร้างไว้  นอกจากนี้ยังมีเมรุเผาศพ  ศาลาพักศพ  ถนนคอนกรีตรอบวัด  วัดไชยมงคลเป็นวัดที่ก่อตั้งมาได้ร้อยกว่าปีเศษ  จึงมาถึงเวลาที่เจริญรุ่งเรืองสูงสุดในสมัยที่ท่านเป็นเจ้าอาวาส  มีเสนาสนะพร้อมทุกอย่างที่จะทำให้พระเณรอยู่อย่างสบาย  รองรับญาติโยมที่จะมาปฏิบัติธรรมได้อย่างสะดวก  ท่านเคยปรารภเสมอว่าท่านมีความสุขกับการได้สร้าง  ได้ทำทุกอย่างเพื่อพระศาสนา  ท่านไม่มีความเหน็ดเหนื่อยเลยกับการทำเพื่อพระศาสนา  แม้กาลที่ท่านชราภาพมากแล้วก็ตาม
ในวาระสุดท้าย  
 นอกจากที่ท่านเป็นพระนักพัฒนาแล้วยังเป็นที่พึ่งทางใจของญาติโยมอีกด้วย  ทั้งการรักษาผู้ถูกคุณไสย  การรักษาผู้ถูกภูตผีกระทำ  จนท่านมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย  ถือเป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังในระดับประเทศองค์หนึ่งทีเดียว  แต่ด้วยท่านมีอุปนิสัยสมถะ  ไม่พูดมาก  ไม่เคยขออะไรใคร  ไม่เคยออกซองเรี่ยไรชาวบ้านให้เดือดร้อน  ท่านจะเคร่งในพระธรรมวินัยมาก  จนบางครั้งคิดว่าท่านเป็นพระที่ดุ  แต่ความจริงแล้วอุปนิสัยของท่านเป็นอย่างนี้มานานแล้ว  ตรงไปตรงมา  ไม่อ้อมค้อม  ในชีวิตส่วนตัวของท่านไม่เคยเจ็บป่วยเลย  แต่อาจจะเป็นการทำงานตรากตรำในการพัฒนาวัดอย่างไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย  และช่วยปลดทุกข์ให้ญาติโยมที่มาหาท่านอย่างไม่ขาดสาย  ทำให้ท่านไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ  และอาการของโรคต่างๆก็ปรากฏ  เมื่อประมาณเดือนกันยายน  ปีพุทธศักราช  2537  ท่านเริ่มมีอาการหายใจติดขัด  คณะศิษย์จึงนำท่านส่งโรงพยาบาลประจำจังหวัดสรรพสิทธิประสงค์  ผลการตรวจปรากฏว่าท่านเป็นโรคหัวใจ  กล้ามเนื้อหัวใจไม่มีกำลัง  พร้อมกับหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจตีบ  จึงได้ทำการรักษาจนอาการดีขึ้นเป็นบางครั้ง  แต่บางครั้งก็ทรุดลง  ช่วงเดือนธันวาคม  2537  คณะศิษย์และญาติโยมได้พาท่านไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลพญาไท 2  ที่กรุงเทพพระมหานคร  ประมาร  20  วันท่านก็กลับมาพักผ่อนที่วัดบ้านหนองแสง  บ้านเดิมของท่าน  แต่ไม่นานด้วยความเป็นห่วงวัดวาอารามท่านก็ย้ายมารักษาต่อที่วัดไชยมงคล  ช่วงนี้อาการของท่านดีขึ้นมากท่านก็รับแขกรับญาติโยมตามปกติ  ท่านไม่ค่อยฉันยาตามแพทย์สั่ง  จึงทำให้สุขภาพเริ่มทรุดลงอีก  เทียวเข้าโรงพยาบาลอยู่เป็นประจำ  จนกระทั่งวันที่  24  เมษายน  พุทธศักราช  2538  อาการของท่านทรุดลงมาก  คณะศิษย์จึงนำท่านเข้ารักษาที่โรงพยาบาลร่มเกล้า  จนวันที่  10  พฤษภาคม พุทธศักราช  2538  ท่านต้องการกลับมาพักที่วัด  จึงนำท่านกลับมาพักที่วัด โดยทางโรงพยาบาลร่มเกล้าได้จัดแพทย์พยาบาลมาดูแลท่านที่วัด  พอวันรุ่งขึ้น  ท่านเรือตรีดนัย  เกตุสิริ  โยมอุปถัมภ์วัดไชยมงคลมาพบสภาพหลวงปู่  จึงประสานงานไปทางนายแพทย์นภา   สิงห์คุณา  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ให้จัดคณะแพทย์มารับท่านไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลอีกครั้ง  และทางคณะแพทย์ได้ทำการรักษาท่านอย่างเต็มความสามารถ  จนกระทั่งวันที่  15  พฤษภาคม  2538  เวลาประมาณ  23.30  น.  ท่านก็ถึงแก่มรณภาพด้วยอาการอันสงบ  ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์
 017 017 017


หัวข้อ: Re: พระครูชิโนวาทสาทร (อุทัย ปภัสสโร)
เริ่มหัวข้อโดย: บ่หัวซาผีบ้าเดินดิน ที่ 20 ธันวาคม 2553, 13:00:10
ขอบคุณคุณโก้สำหรับข้อูลดีๆครับ หลวงปู่อุทัย หรือชาวอุบลมักเรียกท่านว่า หลวงพ่อวัดไชย ในอดีตท่านโด่งดังมากๆในเรื่องปราบผี ถอนคุณไสย มาหาท่านโดนท่านปราบเรียบ เหรียญรุ่นแรกของท่านมาโด่งดังเป็นพลุแตก ช่วงที่แก๊สระเบิดบนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ผมจำปี พ.ศ. ไม่ได้ รถยต์และผู้คนเป็นร้อยๆต้องถูกเผาไหม่เกรียม ยกเว้นผู้ที่แขวนเหรียญของท่านอยู่กลับไม่ระคายผิวแม้แต่น้อย


หัวข้อ: Re: พระครูชิโนวาทสาทร (อุทัย ปภัสสโร) หลวงพ่อวัดไชย
เริ่มหัวข้อโดย: คนโก้ ที่ 16 สิงหาคม 2555, 19:34:33
หนึ่งในวัตถุมงคลของหลวงปู่


หัวข้อ: Re: พระครูชิโนวาทสาทร (อุทัย ปภัสสโร) หลวงพ่อวัดไชย
เริ่มหัวข้อโดย: chanatip ที่ 26 สิงหาคม 2555, 07:16:23
ไม่อาจขาดเหรียญรุ่นแรกได้



(http://upic.me/i/rm/682334-180c7.jpg) (http://upic.me/show/38580509)
(http://upic.me/i/q7/682334-2d7f1.jpg) (http://upic.me/show/38580510)


หัวข้อ: Re: พระครูชิโนวาทสาทร (อุทัย ปภัสสโร) หลวงพ่อวัดไชย
เริ่มหัวข้อโดย: หนึ่งอ้วนวาริน ที่ 28 สิงหาคม 2555, 13:21:08
ผมไปเช่าพระมา จากแผง แถวบ้าน ได้ปิดตามา ใช่ของหลวงปู่วัดไชยมงคล ไหมครับ รบกวนท่านผู้รู้ บอกด้วยนะครับ(http://upic.me/i/0l/0img_2387.jpg) (http://upic.me/show/38648436)
(http://upic.me/i/gx/img_2388.jpg) (http://upic.me/show/38648457)
(http://upic.me/i/y1/img_2389.jpg) (http://upic.me/show/38648473)


หัวข้อ: Re: พระครูชิโนวาทสาทร (อุทัย ปภัสสโร) หลวงพ่อวัดไชย
เริ่มหัวข้อโดย: phasuka ที่ 28 สิงหาคม 2555, 19:06:15
พระปิดตาเนื้ออะไรครับ เคยเห็นแต่เนื้อตะกั่วเด้อ


หัวข้อ: Re: พระครูชิโนวาทสาทร (อุทัย ปภัสสโร) หลวงพ่อวัดไชย
เริ่มหัวข้อโดย: หนึ่งอ้วนวาริน ที่ 28 สิงหาคม 2555, 23:37:31
ไม่ใช่เนื้อตะกั่วครับ แล้วพระปิดตาของท่านมี่เนื้อครับ สร้างกี่รุ่น ท่านใดที่รู้ ขอความเมตตรา บอกเป็นวิทยาทาน ด้วยครับ


หัวข้อ: Re: พระครูชิโนวาทสาทร (อุทัย ปภัสสโร) หลวงพ่อวัดไชย
เริ่มหัวข้อโดย: หนึ่งอ้วนวาริน ที่ 02 กันยายน 2555, 20:56:50
ไม่ทราบพระปิดตาของท่าน มีปลอมแล้วเหรอครับ


หัวข้อ: Re: พระครูชิโนวาทสาทร (อุทัย ปภัสสโร) หลวงพ่อวัดไชย
เริ่มหัวข้อโดย: chanatip ที่ 08 มีนาคม 2556, 21:48:36
ลองศึกษาดูครับ !!

หวังว่าคงเสริมความรู้ให้เพิ่มขึ้น


หัวข้อ: Re: พระครูชิโนวาทสาทร (อุทัย ปภัสสโร) หลวงพ่อวัดไชย
เริ่มหัวข้อโดย: chanatip ที่ 09 มีนาคม 2556, 08:39:42
(http://upic.me/i/t1/rimg0866copycopy.jpg) (http://upic.me/show/43642550)
(http://upic.me/i/ih/rimg0867copycopy.jpg) (http://upic.me/show/43642552)
(http://upic.me/i/mv/rimg0868copycopy.jpg) (http://upic.me/show/43642554)
(http://upic.me/i/07/rimg0869copycopy.jpg) (http://upic.me/show/43642555)


หัวข้อ: Re: พระครูชิโนวาทสาทร (อุทัย ปภัสสโร) หลวงพ่อวัดไชย
เริ่มหัวข้อโดย: chanatip ที่ 09 มีนาคม 2556, 08:44:42
(http://upic.me/i/y0/rimg0870copycopy.jpg) (http://upic.me/show/43642559)
(http://upic.me/i/4i/rimg0871copycopy.jpg) (http://upic.me/show/43642560)
(http://upic.me/i/hr/rimg0872copycopy.jpg) (http://upic.me/show/43642561)


หัวข้อ: Re: พระครูชิโนวาทสาทร (อุทัย ปภัสสโร) หลวงพ่อวัดไชย
เริ่มหัวข้อโดย: chanatip ที่ 03 เมษายน 2556, 15:01:08
ใครมีข้อมูล ดีๆ ลพ.  ช่วยเสริมด้วยนะครับ


หัวข้อ: Re: พระครูชิโนวาทสาทร (อุทัย ปภัสสโร) หลวงพ่อวัดไชย
เริ่มหัวข้อโดย: kreethawut13 ที่ 20 ธันวาคม 2557, 14:54:34
พระครูชิโนวาทสาทร (อุทัย  ปภัสสโร) หลวงพ่อวัดไชย

เหรียญรุ่นแรก ปี20

พอมีกะเค้าบ้างครับ......


หัวข้อ: Re: พระครูชิโนวาทสาทร (อุทัย ปภัสสโร) หลวงพ่อวัดไชย
เริ่มหัวข้อโดย: kreethawut13 ที่ 20 ธันวาคม 2557, 14:59:43
ปิดตา รุ่นแรก ของหลวงปู่ครับ


หัวข้อ: Re: พระครูชิโนวาทสาทร (อุทัย ปภัสสโร) หลวงพ่อวัดไชย
เริ่มหัวข้อโดย: ส่องสนามเมืองนักปราชญ์ ที่ 04 มีนาคม 2560, 22:29:36
update ล่าสุด ปัจจุบัน 04/03/60 สามเณรไพบูลยังมีชีวิตอยู่  ที่ อ.เดชอุดม ร้านไพบูลย์สังฆภัณฑ์