[ท่านผู้ที่หายจากโรคอันเกิดจากใจได้แก่ผู้สิ้นกิเลสแล้วถึงแม้โรคในกายของท่าน จะยังปรากฏอยู่ ก็เป็นแต่อาการความรู้สึกหาได้ทำใจของท่านให้กำเริบไม่เพราะโรคใจของท่านไม่มีแล้วสมุฏฐาน คือ อุปาทานของท่านได้ถอนหมดแล้วฉะนั้นท่านจึงมีความสุขและได้ลาภอย่างยิ่งในความไม่มีโรค]

ท่านผู้ที่หายจากโรคอันเกิดจากใจได้แก่ผู้สิ้นกิเลสแล้ว
ถึงแม้โรคในกายของท่าน จะยังปรากฏอยู่ ก็เป็นแต่อาการความรู้สึก
หาได้ทำใจของท่านให้กำเริบไม่
เพราะโรคใจของท่านไม่มีแล้ว
สมุฏฐาน คือ อุปาทานของท่านได้ถอนหมดแล้ว
ฉะนั้นท่านจึงมีความสุขและได้ลาภอย่างยิ่งในความไม่มีโรค
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
ธรรมเทศนาเรื่อง โรค

[ความประมาทเป็นเหตุให้ทำชั่วต่างจิตมุ่งไปในทางที่ผิด คิดในทางที่ไม่ชอบวุ่นวายส่งส่าย มันก็เลยไม่แน่วแน่เสียที]

ความประมาทเป็นเหตุให้ทำชั่วต่าง
จิตมุ่งไปในทางที่ผิด คิดในทางที่ไม่ชอบ
วุ่นวายส่งส่าย มันก็เลยไม่แน่วแน่เสียที
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๖๗

[การที่จะเห็นธรรมรสได้รับรสธรรมรสนั้นอาศัยการทำจิตให้สงบ]

การที่จะเห็นธรรมรส
ได้รับรสธรรมรสนั้น
อาศัยการทำจิตให้สงบ
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๗๐

[#หาอุบายทำบุญด้วยบุญที่เกิดจากกุศลจิตเป็นการทำบุญภายใน ไม่ใช่การทำบุญภายนอกด้วยวัตถุสิ่งของแต่เราทำบุญโดยการสร้างกุศลจิตสร้างจิตที่ผ่องใสมีคุณงามความดี เป็นจิตไม่ตระหนี่เหนียวแน่นจิตไม่เกิดโทสะมานะทิฏฐิ จิตไม่ประกอบด้วยกิเลสจึงเป็นบุญมหาศาลหาค่ามิได้ เกิดจากจิตภายในถ้าเราทำอย่างนี้อยู่เสมอๆ ก็เป็นบุญอยู่ทุกอิริยาบถและเราก็เห็นบุญในตัวของเรา ชมเชยบุญของเราหรือการที่เราละความชั่วได้ เราไม่เก็บความชั่วไว้ในตัวของเราอันนั้นก็เป็นบุญกุศลเกิดขึ้นที่จิตเราเองก็รู้สึกชิ่นชมยินดีในตัวของเราจะพากันไปหาบุญที่ไหนอีกบุญไม่ได้นอกเหนือไปจากจิตนี้หรอกขอให้พากันสะสมบุญอย่างนี้ขึ้นภายใน " จิต " ของตนทุกๆคน]

#หาอุบายทำบุญ
ด้วยบุญที่เกิดจากกุศลจิต
เป็นการทำบุญภายใน ไม่ใช่การทำบุญภายนอกด้วยวัตถุสิ่งของ
แต่เราทำบุญโดยการสร้างกุศลจิต
สร้างจิตที่ผ่องใสมีคุณงามความดี เป็นจิตไม่ตระหนี่เหนียวแน่น
จิตไม่เกิดโทสะมานะทิฏฐิ จิตไม่ประกอบด้วยกิเลส
จึงเป็นบุญมหาศาลหาค่ามิได้ เกิดจากจิตภายใน
ถ้าเราทำอย่างนี้อยู่เสมอๆ ก็เป็นบุญอยู่ทุกอิริยาบถ
และเราก็เห็นบุญในตัวของเรา ชมเชยบุญของเรา
หรือการที่เราละความชั่วได้ เราไม่เก็บความชั่วไว้ในตัวของเรา
อันนั้นก็เป็นบุญกุศลเกิดขึ้นที่จิต
เราเองก็รู้สึกชิ่นชมยินดีในตัวของเรา
จะพากันไปหาบุญที่ไหนอีก
บุญไม่ได้นอกเหนือไปจากจิตนี้หรอก
ขอให้พากันสะสมบุญอย่างนี้ขึ้นภายใน " จิต " ของตนทุกๆคน

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคายหลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

[การทำทานที่จะให้ได้รับผล โดยสมบูรณ์ ต้องครบอาการ3คือมีศรัทธา มีวัตถุทาน และ มีผู้รับทาน ที่สมควรแก่ทาน]

การทำทานที่จะให้ได้รับผล โดยสมบูรณ์
ต้องครบอาการ3
คือมีศรัทธา มีวัตถุทาน และ มีผู้รับทาน ที่สมควรแก่ทาน
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๗๑

[แนวทางที่จะสร้างคุณงามความดีมีหลักอยู่สามประการคือ ทาน ศีล ภาวนา]

แนวทางที่จะสร้างคุณงามความดี
มีหลักอยู่สามประการ
คือ ทาน ศีล ภาวนา
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือเทสรังสีรำลึก

[หลักสำคัญ อย่าไปลืม ตัวกลาง คือใจเดิมเวลาอะไรมากระทบวุ่นวายส่งส่ายก็เข้าหาตัวกลางนั้น ก็สงบได้อันนั้นแหละ เป็นการละวางอุปาทาน]

หลักสำคัญ อย่าไปลืม ตัวกลาง คือใจเดิม
เวลาอะไรมากระทบวุ่นวายส่งส่าย
ก็เข้าหาตัวกลางนั้น ก็สงบได้
อันนั้นแหละ เป็นการละวางอุปาทาน
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๓๐

[ถ้าผู้ใดเห็นผิด รู้จักผิด แล้วละผิด ละชั่วเสียได้ผู้นั้นถึงซึ่งพระธรรมแท้ นี่คือ การสร้างพระในพุทธศาสนาที่แท้จริง]

ถ้าผู้ใดเห็นผิด รู้จักผิด แล้วละผิด ละชั่วเสียได้
ผู้นั้นถึงซึ่งพระธรรมแท้ นี่คือ
การสร้างพระในพุทธศาสนาที่แท้จริง
จากหนังสือธรรมเล่มที่๗

[ธรรมะ ให้ละความอยากธรรมะ ไม่ใช่ ของเอาธรรมะ เป็นของสละถ้าสะสมแล้วไม่ใช่ธรรมเป็นอกุศลธรรม]

ธรรมะ ให้ละความอยาก
ธรรมะ ไม่ใช่ ของเอา
ธรรมะ เป็นของสละ
ถ้าสะสมแล้วไม่ใช่ธรรม
เป็นอกุศลธรรม
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
วัดหินหมากเป้ง
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๗๓

[กิเลส เป็นอาการของ จิตใจผ่องใสสะอาดแล้ว กิเลสจะแสดงอาการใดๆออกมาใจย่อมทราบชัดด้วยตนเองแล้วก็กำจัดด้วยปัญญาอันบริสุทธิ์ซึ่งมีความสงบเป็นรากฐาน(สติปัฏฐานภาวนา รหัส 5 หน้า 42)]

กิเลส เป็นอาการของ จิต
ใจผ่องใสสะอาดแล้ว
กิเลสจะแสดงอาการใดๆออกมา
ใจย่อมทราบชัดด้วยตนเอง
แล้วก็กำจัดด้วยปัญญาอันบริสุทธิ์
ซึ่งมีความสงบเป็นรากฐาน
(สติปัฏฐานภาวนา รหัส 5 หน้า 42)

[จิตหลงเข้าใจผิด เข้าไปยึดถือเอาด้วยอาการต่างๆเรียกว่า “ อัตตานุทิฏฐิ “ เลยกลายเป็นกิเลส(กัณฑ์ที่ 6 รหัส 1 หน้า 156)]

จิตหลงเข้าใจผิด
เข้าไปยึดถือเอาด้วยอาการต่างๆ
เรียกว่า “ อัตตานุทิฏฐิ “
เลยกลายเป็นกิเลส
(กัณฑ์ที่ 6 รหัส 1 หน้า 156)

จรรยาชองคนดี

[เราโกรธเขา เราไปยินดีกับความโกรธ พอใจกับความโกรธอันนั้นอยากโกรธเขา นั่นแหละเรียกว่า ยินดีพอใจในวิสัยของมารจากหนังสือธรรมะเล่มที่๓๖]

เราโกรธเขา
เราไปยินดีกับความโกรธ
พอใจกับความโกรธอันนั้น
อยากโกรธเขา
นั่นแหละเรียกว่า
ยินดีพอใจในวิสัยของมาร
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๓๖

[เรามาแก้ตัวของเราอย่างเดียวเขาจะโกรธจะเกลียดเราหรือเขาจะชอบอกชอบใจเราอันนั้นเป็นเรื่องของโลกเราไม่ได้เอาอันนั้นมาเกี่ยวเกาะไว้กับจิตกับใจของเรามันก็สบายเลยจากหนังสือธรรมะเล่มที่๖๕]

เรามาแก้ตัวของเราอย่างเดียว
เขาจะโกรธจะเกลียดเรา
หรือเขาจะชอบอกชอบใจเรา
อันนั้นเป็นเรื่องของโลก
เราไม่ได้เอาอันนั้นมาเกี่ยวเกาะ
ไว้กับจิตกับใจของเรามันก็สบายเลย
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๖๕

[พระครูปัญญาวิสุทธิ์ (หลวงปู่บัวพา ปัญญาภาโส) วัดปาพระสถิตย์ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย]

พระครูปัญญาวิสุทธิ์ (หลวงปู่บัวพา ปัญญาภาโส) วัดปาพระสถิตย์ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย