หลวงปู่ชม ท่านเป็นคนบ้านแดง โดยกำเนิด จริงแล้วต้นตะกูลมาจาก บ้านท่ากันโท
บ้านแดงนี่เองเป็นที่ตั้งของวัดพระแท่น(เรียกตามชื่อโบราณ)ที่หลวงปุ่พิบูลย์มาบูรณะและโปรดยาติโยม
บ้านหลวงปู่ชม อยู่หน้าวัดนี่เอง ตอนเป็นเด็กท่านจึงวิ่งเล่นรับใช้ครูอาจารย์ ทั้งหลวงปุ่ผมยาว หลวงปู่พิบูลย์ หลวงปู่โชติ
โอกาสนี้ท่านได้เรียนมนต์รอดป่องของหลวงปู่ผมยาวอีกด้วย (มนต์รอดป่อ่ง มีหลายความหมาย ในที่นี้คือคาถาที่เขาสอนกัน และแอบได้ยินได้เรียนมาแบบครูพัก แต่ความเชื่ออีสานถือว่าขลัง เพราะ "ลอดป่องไ ป่องคือหัวใสหัวดีความจำเยี่ยม นั่นเอง)
หลวงปู่ผมยาวท่านถือครองวัตรแบบฤาษี ท่านสำเร็จครูธรรมโดยการถือวิรัชไม่พูดเป้นเวลาสิบเอ็ดปี ที่ท่านผมยาวนั้นเพราะมีดตัดผมไม่อาจตัดผมท่านได้
ท่านเหมือนคนบ้าบอทำอะไรแปลกๆ ท่านเคยทำตะกรุดผูกขานก จนพวกชอบยิงนกขยาดเพราะยิงนกไม่ได้ ท่านเมตตาปู่ชมมาก กาลต่อมาศพปู่ผมยาว เผาไม่ไหม้ไฟ
ต้องเป็นธุระหลวงปู่ชมแก้เคล้ดบางประการจึงเผาไฟได้(เคล็ดที่ว่าดูโหดร้ายทารุณมากจึงขอยกไว้ไม่เล่าแล้วกัน) ผมและกระดูกขากรรไกรนั้นหลวงปู่ชมเป้นคนรักาไว้เท่าทุกวันนี้
ท่านบรรพชา และอุปสมบทที่วัดบ้านแท่นนี้ตามคำสั่งหลวงพ่อพิบูลย์ได้มีดอกาสรับใช้ครูบาอาจารย์อย่างใกล้ชิด ในการทำเหรียหลวงปู่พิบูลย์ รุ่รวัดคอกหมุ ท่านก็เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงทำ
เมื่อหลวงปู่พิบูลย์ถูกกักบริเวณที่วัดโพธิ์สมภรณ์ ท่านก็ต้องไปไปมามา
ต่อมาท่านก็เป็นผู้นำชาวบ้านในการขอศพหลวงปู่คืนสู่วัดบ้านแดง
วัยหนุ่มหลวงปู่ได้ธุดงค์ไปตามที่ต่างๆในลาว ดูท่านจะชอบเมืองลาวมากกว่าไทย
ครั้งหนึ่งข้าพเจ้าไปพบหลวงปู่คำตันที่เมืองลาว(วัดดงป่าลาน)เพื่อขอเรียนวิชาธาตุจากท่าน ท่านว่าท่านสนิทกับปู่ชมมาก สมัยนั้นปู่ชมไม่กลัวใคร อ้ายน้องเขายิงปืนใหญ่ใส่กัน หลวงปู่เดินนำหน้าไม่กลัวปืนใหญ่เลย เป็นที่โจทย์กันในเมืองลาว
ข้าฯตามศึกษาวิชากับอ.หลายท่านในลาว นั้นส่วนหนึ่งก็รู้จักกิติศัพท์ของปู่ชมดี และบ้างก้ป็นสหะรรมมิกกับท่าน บางรูปเล่าเรื่องการลองวิชากันอย่างพิศดาร (ผมขอละไว้ เพราะผู้ไม่มีประสบการณืทางนี้ฟังแล้วก็ยากจะเชื่อ)
ระหว่างบวชมีช่วงหนึ่งบิดามารดาให้ท่านสึกออกมามีครอบครัว ท่านได้ลุกสาวคนหนึ่ง แต่ได้สูญเสียภรรยาไป ท่านซึ้งสัจจะรรมขอให้พี่น้องเลี้ยงลูกให้ และออกบวชอีกครั้ง
ท่านธุดงค์มาอยุ่วัดธาตุ (หนองคาย)และปลีกวิเวกมาทำสมาธิที่ดอนแห่งหนึ่งไม่ใกลจากวัด ที่นี่มีสถูปเจดีย์เก่าเห็นว่ารุ่งเรืองในอดีต ท่านจึงสร้างวัดณ.ที่นี้คือ วัดสามัคคี นี่เอง
หลังลาวแตกลูกศิษย์จากลาวอพยพมาหาท่านมากมาย แม้แต่ผู้นำลาวและม้งบางกลุ่ม แสดงว่าท่านมีชื่อในลาวนานแล้ว(ถ้าวิชชาท่านไม่แนจริงคนลาวคงไม่นับถือขนาดนี้เพราะลาวยุคนั้นเป็นยุคขมังเวทย์เช่นกัน
น่าสนใจอีกเรื่องคือ ท่านเป็นคนบวชให้ฤาษีตนหนึ่ง และต่อมาเมื่อถึงยุคที่ฤาษีมีครือข่ายกัน ยังสรุปไม่ได้ว่าประเพณีการบวชฤาษีเป็นเช่นใด วงการฤาษี เลยเอาวิธีของหลวงปู่ มาใช้กันคือ การยกเทียนพันน้ำมันหมื่น ดังฤาษีบางท่านกล่าวออกรายการทีวี จะว่าประเพณีการบวชฤาษีที่ใช้กันในปัจจุบัน ......มาจาก
..........หลวงปู่ชม วัดสามัคคี ก็มิผิด....