เอ๋ บีทาเก้น 'มีบุญเพราะหลวงปู่บุญมี'
การประมูลพระเครื่อง ของวงการพระ จะแตกต่างจากวงการอื่นๆ คือ ประมูลก่อนจ่ายทีหลัง ทั้งนี้ รายได้ที่เกิดจากการประมูลพระเครื่องในคืนเลี้ยงรับรองคณะกรรมการนั้น ถือว่าเป็นการวัดบารมีของคนจัดงานว่า มีบารมีมากเพียงใดนั่นเอง
ในการประมูลพระเครื่อง ของคืนวันเลี้ยงรับรองกรรมการนั้น ชื่อหนึ่งที่คนวงการพระได้ยินกันจนเป็นที่คุ้นหู ในการร่วมประมูลพระ คือ นายอภิชิต อาจจินดา หรือที่รู้จักกันในนาม ?เอ๋ บีทาเก้น? และส่วนที่มาของฉายา ?บีทาเก้น? เพราะเขาเป็นหนึ่งในผู้บริหาร บริษัท บีทาเก้น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าประเภท นมเปรี้ยวพร้อมดื่มพาสเจอร์ไรส์ และโยเกิร์ตพาสเจอร์ไรส์ ตรา บีทาเก้น นั่นเอง
?จริงๆ แล้ว ผมไม่ใช่เซียนพระ ผมเข้ามาสู่วงการพระเพราะพี่ต้อย เมืองนนท์ จากนานๆ ไปร่วมงานของวงการพระที แต่เดี๋ยวนี้ต้องไปทุกงาน จนกลายเป็นว่า อาทิตย์ไหนไม่ได้ไปร่วมงานประกวดพระ รวมทั้งอาทิตย์ไหนไม่ได้ไปเดินศูนย์พระเครื่อง ดูเหมือนว่า ชีวิตขาดอะไรไปอย่างหนึ่ง เพราะวงการพระเครื่องมีแต่เพื่อนที่มาจากคนทุกชั้น ทุกครั้งที่ผมประมูลพระเครื่อง ผมมองว่า ผู้จัดงานนั้น นำเงินที่ได้ไปทำอะไร มากกว่าที่จะคิดว่า พระที่ประมูลได้มานั้นมีราคาเท่าไร? นี่คือ เสน่ห์ของวงการพระเครื่อง จากคำบอกเล่าของ เอ๋ บีทาเก้น
แม้ว่า เอ๋ บีทาเก้น จะมีพระเครื่องชุดหลักๆ ราคาแพงหลายองค์ ไม่ว่าจะเป็นพระหลวงปู่ทวด เหรียญเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรฯ แต่ใครเลยจะคิดว่า พระเครื่องที่เขาแขวน กลับเป็น เหรียญหลวงปู่บุญมี โชติปาโล (โชติปาโล แปลว่า ผู้มีแสงสว่างในธรรม) แห่งวัดสระประสานสุข (วัดบ้านนาเมือง) จ.อุบลราชธานี เนื้อทองแดง รุ่นแรก ปี ๒๕๓๐ ซึ่งเลี่ยมกรอบและแขวนอยู่บนสร้อยคอสเตนเลสธรรมดาเท่านั้น ไม่ใช่เป็นกรอบเลี่ยมทองล้อมเพชร และแขวนอยู่บนสายคอทองคำเส้นใหญ่ อย่างที่หลายคนคิดเอาเองไปก่อน
สำหรับที่มาของเหรียญหลวงปู่บุญมีนั้น เอ๋ บีทาเก้น บอกว่า เป็นพระของ นายชิดชัย วรรณสถิตย์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งท่านมอบให้มาเป็นของประมูลในงานประกวดพระเครื่อง
ในครั้งนั้น ได้ประมูลมาในราคา ๑.๒ แสนบาท แม้ว่าจะดูว่าราคาสูงเกินจริง เพราะราคาจากวัด และราคาตลาดอยู่ในหลักร้อยปลายๆ เท่านั้น แต่ถ้ามองในแง่ทำบุญ ช่วยการกุศลแล้ว เรื่องราคาค่างวดไม่ใช่สิ่งสำคัญ
จากนั้นก็นิมนต์เหรียญหลวงปู่บุญมีขึ้นคอ ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมากว่า ชีวิตมีความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น โดยมีความเชื่อว่า ชื่อของหลวงปู่บุญมีเป็นมงคล
ทั้งนี้อาจจะพูดได้ว่า แขวนหลวงปู่บุญมีทำให้เป็นคนมีบุญ ก่อนหน้านี้ ไม่เคยสัมผัสปาฏิหาริย์อะไร เกี่ยวกับพระเครื่องเลย แต่เมื่อมีหลวงปู่บุญมี ทุกครั้งที่ตั้งจิตอธิษฐานของอะไร มักประสบความสำเร็จทุกครั้ง
หลังจากนั้น ก็ศึกษาประวัติของหลวงปู่บุญมี พร้อมกับเดินทางไปกราบไหว้ท่าน ยิ่งทำให้มีความศรัทธามากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ชาวบ้านทั่วไปจะเรียกขานท่านว่าหลวงปู่ หรือหลวงตาบุญมี แต่ท่านจะเรียกตัวท่านเองเสมอว่า พระบ้านนอก
ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๔๕๒ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๕ ค่ำ ปีระกา ตรงกับวันมาฆบูชา ท่านมรณภาพเมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๔๗ รวมสิริอายุ ๙๕ ปี ๓ เดือน ๙ วัน อายุพรรษา ๗๔ ปี รุ่นแรก ปี ๒๕๓๐
ส่วนสถาปัตยกรรมของวัดสระประสานสุขนั้น ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น และต่างจากวัดอื่นๆ เช่น ประตูทางเข้าวัดจะเป็นรูปพระอินทร์ทรงช้าง ๓ เศียร อุโบสถบนเรือสุวรรณหงส์ หอระฆัง ๕ ชั้น วิหารรูปเรือนาคราช ซึ่งตั้งอยู่กลางน้ำ อีกทั้งศาลาการเปรียญ ยังเป็นที่ประดิษฐานของพระประธานปางนาคปรก ขนาดใหญ่ อีกทั้งรูปเหมือนพระเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกหลายองค์ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้มากราบไหว้สักการะ
ภายในวัดนั้น มีความเงียบสงบร่มเย็น มีบริเวณที่กว้างขวาง โดยพุทธศาสนิกชน ได้เลื่อมใสและศรัทธาเดินทางมาทำบุญและเยี่ยมชมวัด ไม่ว่าทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ เป็นจำนวนมาก
พร้อมกันนี้ เอ๋ บีทาเก้น ได้ยกบางส่วน คำสอนของหลวงปู่ ที่นำมายึดปฏิบัติในชีวิต เช่น "ดีชั่วก็ตัวเรา จงเอาอยู่ที่ใจ สวรรค์อยู่ที่ใจ อย่าสงสัย เอาใจเถิด เดินทางเดียวกัน อย่าเหยียบรอยกัน ทำสมาธิให้ภาวนา ตาย ตาย ตาย ทุกลมหายใจ"
"ละชั่วประพฤติดี ละทิฐิไม่เป็นพาล หวังเพื่อพระนิพพาน บำเพ็ญญาณสนองคุณ"
หลวงปู่จะสอนเสมอว่า พระแก้วสององค์ คือ บิดามารดา ให้ระลึกถึงบุญคุณอยู่เสมอๆ ความกตัญญูคือสิ่งที่ล้ำค่า
"ให้เชื่อความดีที่เราทำ ให้เชื่อกรรมที่เราสร้าง"
"คนยากจน เพราะความตระหนี่ คนเป็นเศรษฐี เพราะบริจาคทาน"
เมื่อถามถึงหลักธรรม ที่นำมาใช้ในการบริหารธุรกิจนมเปรี้ยว จนประสบความสำเร็จ เอ๋ บีทาเก้น บอกว่า ใช้ทุกข้อ
แต่ข้อที่ใช้มากกว่าปกติ คือ ?ความละอายและเกรงกลัวต่อบาป? ซึ่งมีธรรมอยู่ ๒ ข้อ คือ หิริ (อ่านว่า หิ-ริ, หิ-หริ) แปลว่า ความละอายแก่ใจ ความละอายต่อบาป หิริ หมายถึงความละอายใจตัวเองต่อการทำความชั่วความผิด ต่อการประพฤติทุจริตทั้งหลาย และความละอายใจตัวเอง ที่จะละเว้นไม่ทำความดีซึ่งควรจะทำให้เกิดมีในตน เช่น บิดามารดามีความละอายใจที่จะไม่ดูแลบุตรของตน เป็นต้น
และ ๒.โอตตัปปะ เป็นอาการของจิตที่หวั่นไหว เมื่อจะทำความชั่ว เพราะกลัวความผิดที่จะตามให้ผลในภายหลังเกิดขึ้นได้ เพราะคิดถึงโทษหรือความทุกข์ที่จะเกิดขึ้นจากการทำชั่ว จากการประพฤติทุจริตของตน เช่น ตัวเองต้องเดือดร้อน เกิดความเสียหาย เสียทรัพย์สินเงินทอง เสียอิสรภาพ หรือถูกคนอื่นตำหนิติเตียน ถูกสังคมรังเกียจ เป็นต้น
ทั้งหิริ และโอตตัปปะ เป็นธรรมรักษาคุ้มครองโลก ทำให้โลกเกิดสันติ ทำให้คนเราอยู่กันอย่างสงบสุข เพราะคนที่มีหิริจะเกลียดความชั่ว และละอายที่จะทำความชั่ว ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทำให้ไม่ก่อความเดือดร้อนให้แก่โลกและสรรพสัตว์ทั้งปวง
อย่างไรก็ตาม ในวันอาทิตย์ที่ ๖ กันยายน ๒๕๕๒ สมาคมนักเรียนเก่าอำนวยศิลป์ โดย พล.ท.รังสฤษดิ์ แจ้งเจนกิจ นายกสมาคม ร่วมกับสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย จัดงานประกวด พระบูชา พระเครื่องและเหรียญคณาจารย์ ณ ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า งามวงศ์วาน จ.นนทบุรี
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในศิษย์เก่าโรงเรียนอำนวยศิลป์ และเคยเป็นประธานรุ่นหญ้าแพรก เอ๋ บีทาเก้น ฝากบอกว่า อยากเชิญชวนศิษย์เก่าโรงเรียนอำนวยทุกรุ่น ร่วมงานเลี้ยงรับรองคณะกรรมการประกวดพระ ในเย็นวันเสาร์ ที่ ๕ กันยายน ณ ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์
โดยอยากให้ศิษย์เก่าทุกรุ่นทุกท่าน ที่มีอยู่กว่า ๘ หมื่นคน กระจายอยู่ในทุกกลุ่มอาชีพ มาช่วยงานในครั้งนี้ ทั้งในส่วนของการร่วมงานเลี้ยง และส่งพระเข้าประกวด
?ก่อนหน้านี้ไม่เคยสัมผัสปาฏิหาริย์อะไรเกี่ยวกับพระเครื่องเลย แต่เมื่อมีหลวงปู่บุญมี ทุกครั้งที่ตั้งจิตอธิษฐาน ขออะไรมักประสบความสำเร็จทุกครั้ง?
เรื่อง - ภาพ... "ไตรเทพ ไกรงู"