อนุสรณ์หินนางคอย
คิดถึงหลวงปู่ครูบาอาจารย์ที่นั่นของผมอย่างสุดอาลัย
เป็นเรื่องราวที่กล่าวขานโบราณเล่า
รักแสนเศร้าของเจ้าหญิงแม่มิ่งขวัญ
กับนักรบผู้ต่ำศักดิ์แอบรักกัน
แต่บิดากลับกีดกั้นสัมพันธ์นาง
ทั้งสองฝ่ายยิ่งรักมั่นสัมพันธ์ผูก
แม้นว่าถูกปิตุรงค์ทรงขัดขวาง
แต่บุพเพยังผูกมั่นมิหวั่นจาง
จึงคิดวางทางสมหวังดั่งที่ปอง
แล้วตกลงกันว่าจะลาหลีก
พากันปลีกหนีออกไกลใครทั้งผอง
จะครองคู่ดูแลรักดั่งตรักตรอง
แม้กายสองหากใจเดียวก่อเกี่ยวพัน
แต่แล้วก็เหมือนฟ้าแกล้งแสร้งให้ช้ำ
ฤาเพราะกรรมบรรดาลมาให้อาสัญ
องค์บิดาของเจ้านางตามวางทัณฑ์
ส่งทหารติดตามพลันโดยทันใด.............................
กล่าวถึงสองภัสดาภรรยาแก้ว
ต่างแน่แน่วจิตต้องกันไม่หวั่นไหว
หนีมาอยู่ในคูหากลางป่าไพร
ครองรักไปด้วยใจชื่นรื่นอุรา
เช้าวันหนึ่งเหมือนมีเหตุอาเพสบอก
สามีออกหาเสบียงไว้เลี้ยงหนา
แต่จนบ่ายอาทิตย์คล้อยลอยลับตา
ไม่กลับมาหาคู่ผู้เฝ้ารอ
นางคอยแล้วคอยเล่าเฝ้าใฝ่คิด
เพียรพินิศค่อยจนค่ำสุดช้ำหนอ
โอ้! พี่ยาหายไปไหนข้าใฝ่รอ
โปรดกลับมาเถิดพ่อยอดชาตรี
จากวันแล้ววันเล่าเงาไม่เห็น
แสนลำเค็ญแก่ใจนางอย่างล้นปรี่
จึงตั้งจิตอธิษฐานขานวจี
กลางราตรีอันเงียบงันด้วยหวั่นใจ
ว่าขอเฝ้ารอพ่อละออโฉม
จวบจนสิ้นปราณลมให้สมใฝ่
แม้นเดือนดาวจะร้างฟ้าลาลับไกล
จะขอไม่แปรเปลี่ยนไปดั่งใจปอง
ถึงยามตายวายม้วยมรณะ
ไม่ขอละสัจจาว่าเป็นสอง
มีเพียงหนึ่งสัตย์จริงจะยิ่งครอง
คือเฝ้ารอจวบจนสองจะเคียงกัน
แลด้วยแรงสัจจะอธิษฐาน
ดลวิญญาณให้นางรักสมัครฉันท์
เมื่อคราตายวายชีพสิ้นชีวัน
กายานั้นพลันเป็นหินเมื่อสิ้นลม
ตั้งเป็นรูปเสลากลางผาใหญ่
ดั่งนางไซร้คอยคู่อยู่ไม่รู้สม
คอยด้วยความแสนเหงาสุดเศร้าตรม
ดูช่างขมขื่นทรวงห้วงคำนึง
จนมาถึงบัดนี้จึงเรียกหา
นามภูผาว่านางคอยพลอยคิดถึง
อิงตำนานความรักมั่นอันตราตรึง
แสนสุดซึ้งประทับใจไม่เลือนลาง..
ที่มาของชื่อผานางคอย มีตำนานเล่าว่า นางเป็นลูกสาวของเจ้านครจำปาสัก ตามสามีมารบที่เมืองนครพนม นางเป็นทัพหลัง หยุดคอยสามีอยู่ที่ผาแห่งนี้ คอยแล้วคอยเล่าสามีก็ไม่กลับมาซักที แล้วทหารก็มาส่งข่าวว่าสามีของนางได้เสียชีวิตในสนามรบ นางเสียใจมากจึงกระโดดหน้าผาลงไป จึงเป็นที่มาของชื่อผานางคอย
ที่นี่ก็จะมีศาลาที่มีรูปปั้นของท่านอยู่ แล้วก็มีก้อนหินใหญ่ เป็นหน้าผาตั้งแคมป์ได้ รอดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า สวยมากๆ