ดงเมืองเตยดงเมืองเตย คือ ชื่อเมืองโบราณสำคัญแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในเขตตำบลสงเปือย อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ภูมิประเทศโดยรอบยังพอเรียกขานได้ว่า ?ดง? นอกจากแมกไม้พื้นบ้านประเภทเบญจพันธุ์แล้วยังมีต้นยางนาขนาดใหญ่หลายสิบต้นยืนเปลือยร่างสูงตระหง่าน แผ่กิ่งก้านสาขาทอดเงาครึ้มสลัวสลางบนเนินดินสีเทาทึม บรรยากาศเย็น ๆ สงบ ๆ ชวนให้รู้สึกเคลิบเคลิ้มในอารมณ์ยิ่งนัก แม้สายแดดยามใกล้เที่ยงแผดเผาเปรี้ยง ๆ ไปทั่วท้องทุ่งยามหน้าแล้ง แต่ดงดอนแห่งนี้ยังคงสงบเย็น สงัดเงียบราวกับฝังตัวอยู่ไกลแสนไกลจากโลกปัจจุบันอันแสนเร่าร้อนและยุ่งเหยิง
หากสำรวจโดยรอบจะพบว่า สถานที่แห่งนี้ยังได้รับการสงวนไว้เป็นเขตศักดิ์สิทธิ์ของชุมชน มีการใช้ประโยชน์ในการบำเพ็ญเพียรทางจิตของพระธุดงค์ และกลุ่มอุบาสก อุบาสิกา พากันนุ่งขาว ห่มขาวนั่งสมาธิกันอย่างสมณะอยู่ตามศาลามุงหญ้าหลังเล็ก ๆ ส่วนหลักฐานด้านโบราณคดีพบว่า มีซากเจดีย์ สระน้ำหรือบาราย กำแพงเมือง ใบเสมาขนาดใหญ่ ศิลาจารึกอักษรปัลลวะ และชิ้นส่วนสถาปัตยกรรมศิลาทรายที่สวยงาม
จากร่องรอยเหล่านี้ นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์โบราณคดีต่างสันนิษฐานว่า ดงเมืองเตย เคยเป็นชุมชนโบราณสมัย เจนละ- ทวารวดี เมื่อประมาณพันปีเศษที่ผ่านมา เมืองโบราณแห่งนี้รวมทั้งชุมชนใกล้เคียงในแถบอารยธรรมลุ่มน้ำชี ? มูลเคยเป็นเมืองที่มีชื่อตามจารึกว่า ?ศังขะปุระ? ที่มีความสัมพันธ์ในฐานะเมืองสำคัญแห่งหนึ่งของอาณาจักรเจนละที่มีอาณาเขตกว้างขวางเกือบทั่วภาคอีสานโดยมีกษัตริย์เรืองอำนาจสูงสุดในยุคนั้นคือ ?พระเจ้าจิตเสน? เป็นผู้ปกครอง แล้วพัฒนาการมาเป็นอารยธรรมขอมในเวลาต่อมา
จากข้อมูลสด ๆ ในพื้นที่ หลักฐานสำคัญของเมืองโบราณแห่งนี้ไม่ใช่ฐานเจดีย์อิฐที่เคยรับรู้และเข้าใจว่านั่นคือทั้งหมดของ ?ดงเมืองเตย? แต่แท้จริงแล้วคือ ชิ้นส่วนประเภทศิลาทรายสีชมพูซึ่งเก็บรักษาไว้ภายในศาลาวัด หลายชิ้นมีขนาดมหึมา และแกะสลักลวดลายไว้สวยงาม สุดแสนอลังการ
เนื่องจาก ภายในเมืองโบราณดงเมืองเตยหรือบริเวณใกล้เคียงไม่ปรากฏซาก ร่องรอยสิ่งก่อสร้างใด ๆ ที่ใช้วัสดุประเภทหินเป็นวัสดุหลักในการก่อสร้าง จึงทำให้เกิดข้อสงสัยบางประการ ชิ้นส่วนสถาปัตยกรรมเหล่านี้ใช้ประดับตกแต่งสิ่งก่อสร้างใด และตั้งอยู่จุดใดของเมืองโบราณดงเมืองเตย หรือว่า ชุมชนแห่งนี้เป็นถิ่นพำนักของศิลปินพื้นบ้าน รับจ้างแกะสลักหินสำหรับนำไปประดับตกแต่งปราสาท เทวาลัยที่พบเห็นอยู่ดาษดื่นทั่วภาคอีสาน คงเกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมชนิดพลิกแผ่นดิน หรือมีเหตุการณ์สำคัญอะไรสักอย่างที่ทำให้การทำงานของช่างหยุดชะงักลง แล้วแตกกระสานซ่านเซ็นกันไปคนละทิศละทาง ชิ้นส่วนงานแกะสลักเหล่านี้จึงถูกทิ้งร้างอย่างที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน
ลายแกะสลักเหล่านี้บ่งบอกได้ดีว่า บรรพชนคนดงเมืองเตยมีความเจริญก้าวหน้า มีการติดต่อ สร้างเครือข่ายกับคนภายนอกอย่างคึกคักมาเป็นเวลานาน ที่สำคัญคือ ที่นี่เป็นชุมชนที่มีความมั่นคง สงบสุข ร่มเย็นเพียงพอที่จะก่อให้เกิดกลุ่มบุคคลที่มีภูมิปัญญาในการสร้างสรรค์ศิลปกรรมละเอียดอ่อน ล้ำลึกถึงเพียงนี้
ภายใต้เงาไม้ใหญ่อันวังเวง พลันนั้นคล้ายมีสำเนียงวิเวกแว่วในห้วงภวังค์ราวส่ำเสียงบริกรรมภาษาโบราณมาจากที่ใดสักแห่ง แม้ว่า เหล่าบรรพชนชาวเจนละ-ทวารวดี ได้สลายร่างและสูญสิ้นอาณาจักรแห่งการปกครองไปแล้วอย่างถาวรก็ตาม
แต่เลือดเนื้อแห่งอารยธรรมสีชมพูยังสดใสพร่างพราวโดดเด่นเหนือระบบการปกครองใด ๆ และสถิตย์เหนือกาลเวลา
ขอคุณข้อมูลจาก
http://www.oknation.net/blog/U-Thong/2010/03/12/entry-1