vs12
|
|
« เมื่อ: 02 ธันวาคม 2554, 13:04:32 » |
|
พระปรุหนัง เป็นพระเครื่องสมัยอยุธยายุคต้น สร้างขึ้นมาท่ามกลางกลิ่นอาย ของสงครามมีพุทธศิลป์งดงามมาก มีสร้างทั้งชนิดเนื้อ ชิน และชนิดชินปนตะกั่ว รวมทั้งเนื้อดินเผาด้วย พบครั้งแรก ที่กรุวัดพุทไธศวรรย์เมื่อพ.ศ. 2450 และค้นพบในวัดอื่นๆอีกหลายวัด ที่จังหวัดอยุธยามีชื่อเสียงด้านแคล้วคลาด และคงกระพัน มหาอุด ขุนพันธรักษราชเดช และ เสือฝ้าย มีความเชื่อในพระปรุหนังมากที่สุด ท่านขุนพันธุ์ แขวนพระเครื่องปรุหนังติดตัวเป็นองค์ประธาน ของพระเครื่องอีกหลายองค์ในสร้อยเส้นเดียวกัน แม้ว่าจะเกษียณอายุแล้วท่านขุนพันธ์ ก็ยังแขวนพระปรุหนังติดตัวเสมอ ในขณะะที่เสือฝ้าย แขวนพระปรุหนังจนนาทีสุดท้ายของชีวิตที่ตำรวจต้องนำพระเครื่องปรุหนัง ออกจากคอเสือฝ้าย ก่อนที่จะลงมือสังหาร
|
M30
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
vs12
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 02 ธันวาคม 2554, 13:08:15 » |
|
พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า เป็นพระเครื่องชินเงิน และชินเขียว เชื่อกันว่า มีส่วนผสมของเหล็กไหล ธาตุกายสิทธิ์อยู่ด้วย พระบางองค์มีเกศที่คดโค้ง จึงเป็นที่มาของคำว่าพระพิจิตรเกศคด เอ่ยชื่อพระเครื่องชนิดนี้ไม่มีนักเลงพระคนไหน ไม่รู้จัก เพราะพระเครื่องที่มีขนาดเล็ก เท่าเเม็ดข้าวเม่านี้ มีพุทธคุณเข้มขลังมาก เสือไท หรือพ่อหลิม 1 ใน7 ทหารเสือของเสด็จเตี่ย พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ อาจารย์ของขุนพันธ์ท่านก็บูชาพระพิจีตรเม็ดข้าวเม่านี้อยู่โดยใช้เสียบไว้ ที่ซอกฟัน และพระพิจิตรนี้ก็เป็นหนึ่งในพระเครื่องที่อยู่ที่คอของขุนพันธ์เช่นกัน เสือโน้มหรืออาจารย์โน้ม ท่าโรงช้าง ผู้ร้ายคนสำคัญแห่งเมืองพิจิตร มีความนิยมในพระพิจิตรเม็ดข้าวเม่าเป็นที่สุด ได้ฝังพระนี้ไว้ในตัวเองถึง5จุด จนอาวุธปืนของท่านขุนพันธ์ และตำรวจไม่สามารถ ทำอะไรเสือโน้มได้ จนต้องจับหมอโน้ม ถ่วงน้ำ
|
|
|
|
vs12
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 02 ธันวาคม 2554, 13:20:59 » |
|
พระท่ากระดาน เป็นพระเครื่องตะกั่วสนิมแดง พบครั้งแรก ที่ตำบลท่ากระดาน จัหวัดกาญจนบุรี ที่วัดเหนือ วัดกลาง และวัดใต้ ซึ่งถือว่าเป็นกรุ ต้นกำเนิด มีพุทธคุณเด่นดัง ทางมหาอุด แคล้วคลาด คงกระพัน พล.ต.ท.ประชา บูรณธนิต ผู้พิชิต เสือผาด ของรักของหวง ของนายพล หนังเหนียวคือพระท่ากระดาน ท่านเป็นเพื่อนสนิทกับท่านขุนพันธ์ ปาฎิหารย์ และความศักดิ์สิทธิ์ของพระท่ากระดาน มีที่มามาจากการที่ท่านพล.ต.ท. ประชาได้ดวลปืนกับคนร้าย ที่จังหวัดนครปฐม ตัวท่านถูกกระสุนปืนจากปืนของคนร้าย หลายนัด แต่ลูกปืนไม่ระคายผิว โดยที่ในขณะนั้น ท่านแขวนพระท่ากระดาน กับลูกอม ของหลวงปู่เหรียญวัดหนองบัว
|
M30
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
vs12
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 02 ธันวาคม 2554, 13:33:02 » |
|
พระนางพญาเป็นพระเครื่องเนื้อดินเผา สมัยอยุธยา พบที่วัดนางพญาจังหวัดพิษณุโลก สันนิษฐานว่าสร้างโดยพระวิสุทธฺกษัตรี พระมเหสี ของพระมหาธรรมราชา ซึ่งเป็นพระมารดา ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระเครื่องนางพญานี้มีชื่อเสียงครอบคลุม ในทุกๆด้าน ร.ต.อ.ยอดยิ่ง สุวรรณาครมือปราบปืนโหด ผู้สังหารเสือฝ้ายนั่นเอง เอ่ยชื่อนายตำรวจท่านนี้ บรรดาเสือต่างๆในยุคเสือฝ้าย ต้องพากันหัวหด เพราะตำรวจมือปราบท่านนี้ได้รับฉายาว่ามือปราบปืนโหด หรือ สิงห์ปืนสั่ง คือเดินหน้าฆ่าโจรลูกเดียว ไม่ชอบการจับเป็น และที่สำคัญเขาคือผู้สังหารเสือฝ้ายเสือร้าย เมืองสุพรรณบุรี ปกติร.ต.อ. ยอดยิ่งจะเป็นคนเชื่อมั่นในตนเองสูงและไม่เคยเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ จนได้ประสบกับตนเองว่าปืนไม่สามารถฆ่าเสือร้ายบางคนได้ อันเนื่องมาจากความศักดิ์สิทธิ์ของพระเครื่องรางของขลังในตัวเสือร้าย มีครั้งหนึ่งที่ไล่ล่าตามจับคนร้ายที่แขวนพระสมเด็จ นางพญา ทำยังไงก็ไม่สามารถพิชิตชีวิต คนร้ายคนนี้ได้ มิหนำซ้ำ ยังเกือบถูกคนร้ายเล่นงานเอาแทบแย่ จึงมีความศัธทาในพระนางพญาเป็นอันมาก จึงไปขอพระนางพญามาจาก ตรียัมปวาย หรือ พ.อ.ประจน กิติประวัติ ปรมาจารณ์ ทางพระเครื่อง ที่โด่งดัง ของเมืองไทย ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับร.ต.อ. ยอดยิ่ง มาไว้บูชา
|
.
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
vs12
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 02 ธันวาคม 2554, 13:44:12 » |
|
หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน เป็นเกจิอาจารย์ จังหวัดพิจิตร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก และเป็น สหธรรมิก กับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท โดยทั้งสององค์นี้เป็นพระอาจารย์ของเสด็จเตี่ย พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ปัจจุบันพระเครื่องหลวงพ่อเงิน จัดเป็นพระเครื่องรูปเหมือน เกจิอาจารย์ ที่มีค่านิยมสูงสุด เสือใบ หนึ่งในเสือสุพรรณเล่าไว้ว่า ที่เขารอดตายมาหลายครั้งจากคมกระสุน ของตำรวจ เพราะเขามี พระเครื่องรูปลอยองค์ ของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน และมีประสบการณจากหลวงพ่อเงินนับครั้งไม่ถ้วน ในคอของเสือใบ เขาจะไม่ยอมขาดองค์หลวงพ่อเงินเด็ดขาด
|
|
|
|
vs12
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 02 ธันวาคม 2554, 13:50:24 » |
|
พระมเหศวร คือพระเครื่องที่ตั้งชื่อ ตามชื่อโจร แต่เดิม มีชื่อว่าพระสวน ตามลักษณะของพระ ที่เป็นสองหน้า มีพระด้านละองค์ และหันเศียรกลับด้าน กลับหัวกลับหางกัน กัน เศียรหนึ่งขึ้น เศียรหนึ่งลง จึงเรียกกันว่าพระสวน หรือพระสวนทางนั่นเอง พระมเหศวร เป็นพระเครื่องเนื้อชินเงิน และเนื้อชินเขียว เชื่อว่ามีการจัดสร้างมาตั้งแต่สมัย อู่ทองตอนปลาย พบครั้งแรก ที่กรุวัดพระศรีมหาธาตุ สุพรรณบุรี มีชื่อเสียง ด้านคงกระพัน มหาอุด สูงมาก เสือมเหศวร มีความนับถือ พระองค์นี้มาก และได้บูชาติดตัว จนมีชื่อเสียงโด่งดัง ผู้คนจึงพากันเปลี่ยนชื่อจากพระสวน มาเป็นพระมเหศวร ตามชื่อเสือที่เป็นโจรชื่อดัง ในชุมโจรเสือฝ้าย แห่งสุพรรณบุรี
|
|
|
|
บ่หัวซาผีบ้าเดินดิน
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 02 ธันวาคม 2554, 13:53:53 » |
|
เยียมครับได้รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ครับ ขอบคุณครับ
|
.
|
|
บันทึกการเข้า
|
ราคาพระคือการอุปทานหมู่ของมนุษย์ ศรัทธาต่างหากที่จะอยู่คู่กับเราตลอดไป
|
|
|
|
vs12
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 02 ธันวาคม 2554, 15:19:24 » |
|
พระร่วงหลังรางปืน หรือขุนศึกแห่งเมืองชะเลียง เป็นพระยืนปางประทานพรพระวรกายทรงเครื่องชุดจอมกษัตริย์โบราณ พระเศียรทรงเทริดแบบชีโบ พระหัตถ์ด้านขวาแบหงายทาบระหว่างกลางพระอุระ ส่วนพระหัตถ์ซ้ายทิ้งห้อยแบหงายเช่นกัน จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อยังมีชีวิตอยู่เล่ากันว่า ทุกครั้งที่ออกตรวจราชการงานไกล ท่านมักจะห้อยพระร่วงหลังรางปืนติดตัวไปเพียงองค์เดียวทุกครั้ง
|
M30
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
mano
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 02 ธันวาคม 2554, 16:27:58 » |
|
สุดยอดมากครับที่นำข้อมูลดีๆๆๆมาให้อ่านครับ
|
.
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หนองเหล่า
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 04 ธันวาคม 2554, 00:22:45 » |
|
เดิมทีชอบอ่านประวัติของ เสือใบ เสือฝ่าย เสือผาด ทับสายทอง หรือคนสมัยก่อน อยู่ยงคงกะพัน หนังเหนียว ต่างๆ ได้อย่างไร ข้อมูลที่ท่านพี่ ที่ลงให้กระผมได้อ่านนี้ ช่วยให้ความกระจ่างในสิ่ง ที่กระผมยังไม่รู้ ได้ไขความ กระจ่าง ให้กระผมแล้วครับ ขอบคุณ ท่านพี่ ทุกๆท่านเลยนะครนับ.
|
.
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
vs12
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 04 ธันวาคม 2554, 00:30:45 » |
|
มีดเทพศาสตราวุธหลวงพ่อเดิม นับเป็นวัตถุมงคลที่ทรงอานุภาพมาก นอกจากเป็นวัตถุโบราณที่มีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ มีพุทธคุณครอบจักรวาล ยังถือได้ว่าเป็นงานศิลปะชั้นสูงที่เกิดมาจากภูมิปัญญาของชาวบ้านที่เป็นคนไทยแท้ๆ มาแต่โบราณ ความศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวของมีดหมอนั้น ท่านเปรียบมีดหมอของหลวงพ่อเดิมคือการรวมอาวุธทั้ง ๕ ประการ ที่มีฤทธานุภาพในสามโลก หาศาตราอาวุธใดมาเทียบเทียมได้ไว้ในมีดเล่มเดียว..โดยอาวุธดังกล่าวคือ... ๑.วชิราวุธของพระอินทร์ปราบได้ทั่วสวรรค์และเมืองมาร ๒.กระบองท้าวเวสสุวรรณที่กำราบภูตผีปีศาจได้ชงัดนักแล บรรดาผีต่างเกรงกลัวนักหนา ๓.ผ้าแดงของอาฬวกะยักษ์ที่เป็นมหาเพลิงเผาวอดทุกอย่าง ทำให้แผ่นดินแห้งแล้งได้นับหลายสิบปี ๔.นัยน์ตาของท่านพญายมราชอันทรงฤทธิ์อำนาจเหนือวิญญานร้าย ๕.จักรกรดของพระนารายณ์อันเลื่องฤทธิ์ตัดแหลกทุกอย่างที่ขวาง อาวุธทั้งหมดที่ว่านี้จะรวมอานุภาพกันเป็นเกราะกำแพงแก้วปกปักรักษาท่านผู้ครอบครองบูชาให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง ไม่มีสิ่งอำนาจชั่วร้ายใดมาต่อกรเข้ารุกรานได้ครับ...มีดหมอของหลวงพ่อเดิมท่านจึงมีชื่อเสียงโด่งดังมากในอิทธิคุณความศักดิ์สิทธิ์เล่ากล่าวขานสืบต่อกันมาจนถึงยุคนี้ หลวงพิบูลสงคราม(ซึ่ง ต่อมา ท่านคือ จอมพลป.พิบูลสงคราม นายกรัฐ มนตรีที่อยู่ในตำแหน่งยาวนานที่สุดถึง ๑๕ ปี) โดยปกติแล้วท่านจะมีชีวิตอยู่ในระหว่างความเป็นความตายอยู่เสมอ เพราะศัตรูของท่านมีมาก ด้วยความเคารพศรัทธาต่อหลวงพ่อเดิมของนายทหารคนสนิทของท่าน และ ด้วยความเป็นห่วงผู้เป็นนาย นายทหารท่านนั้นจึงได้เดินทางไปที่วัดหนองโพ นครสวรรค์ เพื่อขอเช่าบูชามีดหมอหลวงพ่อเดิม เพื่อ นำมาให้นายไว้คุ้มครองตน และภายหลังหลวงพิบูลสงครามก็พกติดตัวเสมอ จาก บันทึกของกรมตำรวจระบุไว้ว่า เมื่อ วันที่ ๙ พ.ย.๒๔๘๑ ท่านได้ถูกอดีตทหารซึ่งเป็นคนรับใช้มานมนาน ตั้งแต่เป็นคนสวนอยู่กับบิดาของท่าน ซึ่งต่อมาได้เป็นคนขับรถให้หลวงพิบูลฯ และหลวงพิบูลฯรักใคร่เมตตายิ่ง เพราะท่านถือว่าเป็น ?ข้าเก่าเต่าเลี้ยง? แต่ด้วยอามิสสินจ้าง ?นายลี บุญตา? คน ขับรถที่ท่านไว้ใจที่สุด ยิงท่านในระยะเผาขนภายในบ้านของท่าน อัศจรรย์ยิ่งว่า ๒ นัดแรกยิงไม่ออก และมีการวิ่งไล่ยิงต่อกระทั่งกระสุนหมด แต่ก็ไม่โดนตัวท่าน และสุดท้ายร.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ (ยศขณะนั้น) ที่อารักขาท่านประจำในบ้านไล่ตามจับนายลีไว้ได้ และเมื่อเรื่องจบในเสื้อของท่านมีมีดหมอหลวงพ่อเดิม ขนาดจิ๋วๆ ที่เรียกว่า ?มีดสาริกา? ติดอยู่กับเสื้อของท่านเท่านั้นเอง
|
M30
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
warleas
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 04 ธันวาคม 2554, 13:08:52 » |
|
ความรู้พื้นบ้านอีก ความรู้หนึ่งครับ รก ที่มาพร้อมกับเราเกิด ต้องเป็นรกตัวเองเท่านั้น ใช้ตากแห้งจากวันพระดับ จนถึงวันพระใหญ่ นำมาติดตัวหรือให้พระท่านลงอาคมให้ก็ได้ สุดยอด
|
.
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
vs12
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2554, 21:21:34 » |
|
ปางเปิดโลก เป็นพระพุทธรูปอยู่ในอิริยาบถยืนอยู่บนดอกบัว พระหัตถ์ทั้งสองห้อยลงข้างพระวรกาย แบฝ่าพระหัตถ์ทั้งสองออกไปข้างหน้า เป็นกิริยาทรงเปิดโลกบางแบบยกฝ่าพระหัตถ์ทั้งสองขึ้น เมื่อครบกำหนด 3 เดือน ที่พระสัมพุทธเจ้าเสด็จขึ้นไปจำพรรษาโปรดพุทธมารดา จึงเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พระพุทธองค์ทรงทำโลกวิวรณปาฏิหาริย์ คือ ทรงเปิดโลกทั้ง 3 อันได้แก่ เทวโลก ยมโลก และมนุษยโลก ให้มองเห็นถึงกันหมดด้วยพุทธานุภาพ เหล่าเทวดาในสวรรค์มองเห็นมนุษย์และสัตว์นรก มนุษย์มองเห็นเทวดาและสัตว์นรก สัตว์นรกมองเห็นมนุษย์และเทวดา แล้วจึงเสด็จลีลาลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์สู่สังกัสสนคร ในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 พระเครื่องสำหรับคนเกิดวันพฤหัสบดี พล.ต.อ. เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แขวนเดี่ยว พระร่วงเปิดโลก ติดคอ พร้อมพกพาเครื่องรางของขลังที่มีทั้ง ตระกรุดหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ตระกรุดทองคำหลวงปู่โต๊ะ 108 ลูกอมหลวงปู่ยิ้มวัดหนองบัว
|
|
|
|
|