ประวัติพระครูศุภกิจโกศล (ดี ศุภโร)

[คนโก้]

ประวัติพระครูศุภกิจโกศล  (ดี  ศุภโร)
ชาติภูมิ  พระครูศุภกิจโกศล  ดี  ฉายา  ศุภโร   นามเดิม  ดี  นามสกุล  หาญชัย  เกิดวันที่  18  กุมภาพันธ์  พ.ศ.2446  ตรงกับวันขึ้น  3 ค่ำ  เดือน 3  ปีเถาะ  ที่บ้านหินโงม  หมู่ที่ 4  ตำบลกุดข้าวปุ้น  อำเภอกุดข้าวปุ้น  ซึ่งสมัยนั้นขึ้นกับอำเภอขุหลุ หรืออำเภอตระการพืชผลในปัจจุบัน  จังหวัดอุบลราชธานี  โยมบิดาชื่อ  นายธาตุ  โยมมารดาชื่อนางมี  มีพี่น้องร่วมบิดามารดา  7 คน  คือ     1. พระครูศุภกิจโกศล (ดี  หาญชัย)
            2. นายลี   หาญชัย
            3. นายหยุย   หาญชัย
            4. นายผุย   หาญชัย
            5. นายผาย   หาญชัย
            6. นางหยาย   หาญชัย
            7. นางหยาด   หาญชัย
การศึกษาสามัญ   ในวัยเด็กพระครูศุภกิจโกศลไม่ได้เข้าโรงเรียนเพราะทางราชการยังไม่ได้ขยายโอกาสมาสู่ชนบท  ก่อนบรรพชาจึงได้ช่วยพ่อ แม่  ทำไร่ไถนา  จนกระทั่งปี  2463  พระครูศุภกิจโกศล อายุได้  18 ปี  โยมบิดาได้นำไปบรรพชาที่วัดอาทิตย์อุทัย  บ้านหินโงม  หลวงปู่ทิพพะสอน เป็นพระอุปัชฌาย์  จึงได้เริ่มเรียนหนังสือ  การเรียนสมัยนั้นเริ่มเรียนอักขระธรรม  ในใบลาน  เริ่มด้วยปัญญาบารมี  สวดมนต์น้อย  สวดมนต์กลาง  กับอาจารย์อ้วนจนจบบริบูรณ์  ในขณะที่กำลังเรียนอยู่บ้านนาผางนั้น  ได้ทราบว่าสำนักโรงเรียนอุดมวิทยากร  วัดพระเหลาเทพนิมิต  เมืองพนานิคม  มีโรงเรียนสอนภาษาไทย  ผู้จบชั้นสูงสุดของโรงเรียนสอบได้เสมียนครูประชาบาลเป็นจำนวนมาก  จึงได้ลาอาจารย์อ้วน  วัดบ้านนาผาง  เดินทางมาสำนักเรียนวัดพระเหลาเทพนิมิต  เมื่อเดือน ธันวาคม  2464  และได้ไปพักอาศัยอยู่กับพระอุปัชฌาย์อ่อน  เจ้าคณะแขวงขุหลุ  วัดบูรพา  บ้านพนา  อำเภอพนา  แล้วเข้าเรียนโรงเรียนอุดมวิทยากร  วัดพระเหลาเทพนิมิต  จนจบชั้นประถมบริบูรณ์ คือประถมปีที่ 3
การศึกษาปริยัติธรรม
พ.ศ. 2475  สอบไล่ได้ประโยคนักธรรมชั้นตรี
พ.ศ. 2478  สอบไล่ได้นักธรรมชั้นโท
พ.ศ. 2482  สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก
การบรรพชาและอุปสมบท
พ.ศ. 2463  โยมบิดาได้พาไปบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดอาทิตย์อุทัย  บ้านหินโงม  ตำบลกุดข้าวปุ้น  มีหลวงปู่ทิพพะสาน เป็นพระอุปัชฌาย์ 
พ.ศ. 2466  อุปสมบท  ณ  พัทธสีมาวัดธัญญุตตมาราม  บ้านกุดข้าวปุ้น  ตำบลกุดข้าวปุ้น  พระอุปัชฌาย์อ่อน  เป็นพระอุปัชฌาย์  พระอาจารย์เหลื่อน เป็นพระกรรมวาจาจารย์  แล้วพักจำพรรษาที่วัดอาทิตย์อุทัย  บ้านหินโงม  ตำบลกุดข้าวปุ้น
พ.ศ. 2468  มารผจญทางจิตใจ  อยากอยู่บ้าง  อยากสึกบ้าง  จึงแก้ปัญหาโดยการลาญาติโยม  ย้ายไปอยู่วัดบ้านหัวดอน  ตำบลไม้กลอน  อำเภอพนา  ในระหว่างนี้ได้เรียนเทศน์มหาชาติกัณฑ์มัทรี  กัณฑ์มหาราช  จากอาจารย์คง  เจ้าอาวาสวัดบ้านหัวดอน  จนสามารถเทศน์มหาชาติได้ดี มีความชำนาญ ชื่อเสียงโด่งดัง มาจนถึงปัจจุบัน
พ.ศ. 2469  ได้กลับมาเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านหินโงม  ตำบลกุดข้าวปุ้น
พ.ศ. 2472  ได้ศึกษามูลเดิม (มูลกัจจายน์) คือเรียนแปลภาษาบาลีเป็นภาษาไทย  จากอาจารย์ไม  ซึ่งมาจากวัดบ้านนาขะหมัน มาอยู่อาศัยวัดบ้านหินโงม
พ.ศ. 2480  ชาวบ้านกุดข้าวปุ้นได้นิมนต์มาเป็นเจ้าอาวาสวัดธัญญุตตมาราม  บ้านกุดข้าวปุ้น 
ตำแหน่งหน้าที่
พ.ศ.2469  เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านหินโงม  ตำบลกุดข้าวปุ้น
พ.ศ.2472  เป็นเจ้าคณะตำบลกุดข้าวปุ้น
พ.ศ.2480 เป็นครูสอนปริยัติธรรมสำนักวัดธัญญุตตมาราม  บ้านกุดข้าวปุ้น
พ.ศ.2481 เป็นกรรมการตรวจปัญหาธรรมสนามหลวง
พ.ศ.2491 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ.2504 ได้รับสมณะศักดิ์เป็นพระครูศุภกิจโกศล  เจ้าคณะอำเภอกุดข้าวปุ้น
พ.ศ.2507  ได้รับแต่งตั้งเป็นพระธรรมทูตสาย 6 เผยแพร่พระธรรม และอบรมสั่งสอนพุทธศาสนิกชนในเขต 5 ตำบลของอำเภอตระการพืชผล