หลวงพ่อเขียน ฐานวโร วัดพันธวิชา อ.อำนาจเจริญ จ.อุบล ปี ๒๔๙๘ ?>
ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์แห่งภาคอีสาน
The Buddhist Art Conservation Club Of Esan (North Eastern Part Of Thailand)
06 พฤษภาคม 2567, 04:51:35 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  

กติกาในการ เช่า-แลกเปลี่ยนพระเครื่อง | พระเครื่องเมืองอุบลราชธานี | แจ้งปัญหาการใช้งาน
แจ้งเรื่องการยืนยันตัวตนสำหรับผู้ที่จะให้เช่าพระเครื่องฯ | วิธีสมัครสมาชิกเว็บ

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: หลวงพ่อเขียน ฐานวโร วัดพันธวิชา อ.อำนาจเจริญ จ.อุบล ปี ๒๔๙๘  (อ่าน 6150 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
คมขวาน
VIP Member
*****

พลังน้ำใจ : 74
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 35

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 4 : Exp 79%
HP: 0%



ดูรายละเอียด อีเมล์
« เมื่อ: 06 สิงหาคม 2555, 11:50:06 »

 หลวงพ่อเขียน ฐานวโร นามเดิม นาย ขอ.  ท่านได้พา บิดา มารดา ญาติโยม ย้ายมาจากอำเภอเขื่องใน ท่านจบการศึกษา มูลกระจายณสูตร มหาวรรค จุลวรรค มีความเชียวชาญมากในการแปลบาลี  ธรรมบท มีความจำเป็นเลิศ และท่านยังเชี่ยวชาญในวิปัสนากรรมฐานเพราะท่านได้ศึกษาวิปัสนากรรมฐานจาก พระครูศรีสุตตาภรณ์ หลวงปู่ศรี วัดบ้านคูขาด อำเภอเขื่องใน และท่านยังได้เรียนกรรมฐานกับหลวงปู่แพง วัดสิงหาญ เมื่อคราวจำพรรษาวัดบ้านคูขาด เพราะพระครูศรีสุตาภรณ์กับ หลวงปู่แพง วัดสิงหาร มีความสนิดสนมกัน แลกเปลี่ยนวิชากันอยู่เรื่อยๆ ดังนั้น หลวงพ่อเขียนจึงได้รับการถ่ายทอกวิชาการทางรักษาโรคจากหลวงปู่แพงอีกด้วย ท่านได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดพันธวิชาท่านได้เริ่มก่อตั้งเป็นสำนักเป็นสำนักเรียน และพัฒนาหมู่บ้าน สร้างอ่างเก็บน้ำไว้ใช้ยามแล้ง พาชาวบ้านตัดถนนทางเดินรถเข้าตัวเมืองเพื่อความเจริญ วางผังหมู่บ้านให้เป็นระบบระเบียบ ท่านมีความอดทนอุสาหะเป็นยิ่ง ท่านได้เลื่อนเป็นพระอุปฌาย์ตำบลไก่เขี่ย (ตำบลไก่คำในปัจจุบัน) ในปี 2498 ท่านเป็นที่เคารพของข้าราชการปกครองในเมืองอำนาจจนได้มีการสร้างเหรียญถวายท่านในวาระฉลองตำแหน่ง จากคำบอกเล่าของผู้เฒ่า วัย 98 ปี ว่าท่านเก่งหลายทาง ทั้งวิปัสสนากรรมฐาน แปลบาลี วิชาอาคม วิชาแพทย์ เป็นที่พึ่งของคนในตำบลในสมัยนั้น ครั้งหนึ่งมีคนเห็นท่านใช้ไม้หวายปาดต้นกล้วยครั้งเดียวถึงกับขาดเป็น 2 ท่อน เพื่อกำหลาบนักเรียนในสำนักเพื่อการปกครอง บางครั้ง ท่านทำงานหนักมาเหนื่อยๆ เมื่อสรงน้ำสเสร็จท่านก็จะนั่งกรรมฐานต่อ  และเดินจงกรม  มีคนเล่าว่าบ่างครั้งมาจากงานดูหมอลำต่างบ้านในสมัยนั้นต้องเดินไป พอกลับต้องผ่านหลังวัด ตี 3 ตี 4  ก็จะเห็นท่านเดินจงกรมยุในวัด ท่านเป็นพระนักพัฒนา นักปฏิบัติอีกรูปหนึ่งที่น่าเคารพนับถือในจังหวัดอำนาจเจริญ จนเจ้าคณะได้ขนานนามท่านว่า หลวงพ่ออินทร์เขียน อำนาจเจริ

thxby10679MaiUbon, คนโก้, ทิดอ้วน, เล็ก หัวตะเข้
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.19 | SMF © 2006-2009, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!