?>
ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์แห่งภาคอีสาน
The Buddhist Art Conservation Club Of Esan (North Eastern Part Of Thailand)
16 พฤษภาคม 2567, 07:03:09 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  

กติกาในการ เช่า-แลกเปลี่ยนพระเครื่อง | พระเครื่องเมืองอุบลราชธานี | แจ้งปัญหาการใช้งาน
แจ้งเรื่องการยืนยันตัวตนสำหรับผู้ที่จะให้เช่าพระเครื่องฯ | วิธีสมัครสมาชิกเว็บ

  แสดงกระทู้
หน้า: 1 ... 14 15 [16] 17 18 ... 20
226  ชมรมสืบสานตำนานบูรพาจารย์สายสำเร็จลุน / ชมรมสืบสานตำนานบูรพาจารย์ศิษย์สายสำเร็จลุน / Re: เรื่องของ ยายชีนวล วัดภูฆ้องคำ เมื่อ: 01 ธันวาคม 2554, 09:56:55
ท่านยายชีดีเด่นอย่างไรครับ
ว่ากันว่าท่านเป็นศิษย์ หลวงปู่สำเร็จลุน และเป็นศิษย์รุ่นพี่ของญาท่านสวน ด้วยครับ
227  ห้องเวทย์วิทยาคมและสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ / เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน) / Re: "ปรอทกรอ" เครื่องรางแม่ทัพ เมื่อ: 30 พฤศจิกายน 2554, 15:12:38
 วิหารปรอทกรอ วัดน้อย วัดหลวงพ่อเนียมครับ เอาฝ่ามือตบผนังของวิหารข้างใดข้างหนึ่ง จะได้ยินเสียงดัง กรอ ๆๆๆครางอยู่ชั่วครู่
228  ห้องพระ / พระคณาจารย์อริยสงฆ์รวมจังหวัดอุบลราชธานี,ศรีสะเกษ,ยโสธร,อำนาจเจริญและมุกดาหาร / Re: หลวงปู่อุปัชฌาย์น้อย วัดทุ่งนางโอก เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2554, 18:27:15
ดูอยากอยู่เหมือนกันนะครับ มีเก๋นานยังครับพี่
เหรียญเก๊ ยังไม่นานหรอกครับ ผมก็เพิ่งเคยเห็น
229  ห้องพระ / พระคณาจารย์อริยสงฆ์รวมจังหวัดอุบลราชธานี,ศรีสะเกษ,ยโสธร,อำนาจเจริญและมุกดาหาร / Re: หลวงปู่อุปัชฌาย์น้อย วัดทุ่งนางโอก เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2554, 16:42:59
สรุปเหรียญไหนเก๊ครับ งง
เหรียญคุณ พุทธาคมเก๊ครับ...ล้อเล่นครับเหรียญแท้ครับ เหรียญเก๊รูปที่ผมโพสครับ
230  ห้องพระ / พระคณาจารย์อริยสงฆ์รวมจังหวัดอุบลราชธานี,ศรีสะเกษ,ยโสธร,อำนาจเจริญและมุกดาหาร / Re: หลวงปู่อุปัชฌาย์น้อย วัดทุ่งนางโอก เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2554, 15:29:33
     ด้านหลังตรงยันต์ จะไม่เหมือนกัน
231  ห้องพระ / พระคณาจารย์อริยสงฆ์รวมจังหวัดอุบลราชธานี,ศรีสะเกษ,ยโสธร,อำนาจเจริญและมุกดาหาร / Re: หลวงปู่อุปัชฌาย์น้อย วัดทุ่งนางโอก เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2554, 15:24:37
ผมเพิ่งกลับมาจากบ้านที่ ยโสธร เหรียญหลวงปู่อุปัชฌาย์น้อย มีอย่างในรูปที่โพสด้วยครับ เหรียญนี้น่าจะเลียนแบบหรือเปล่าครับ


232  ห้องพระ / หลวงปู่ชา สุภัทโท / Re: เคยสงสัย วัตถุมงคล ของหลวงปู่ชา กันบ้างไหม? เมื่อ: 25 พฤศจิกายน 2554, 14:10:53
    วัตถุประสงค์ของการสร้างวัตถุมงคลของคณาจารย์แต่โบราณ เพื่อให้คนที่มีกำลังใจอ่อน นึกถึงพระรัตนตรัย จึงสร้างให้คล้องคอไว้อยู่ใกล้ๆพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์  เพราะกำลังใจของคนจะไม่เท่ากัน และเพราะเหตุกำลังใจไม่เท่ากันนี้ พระพุทธองค์ต้องเปลืองคำสอนตั้ง 84000 พระธรรมขันธ์ เพื่อให้ถูกกับจริต วาสนา บารมีของแต่ละคน ทั้งๆที่ทุกคำสอน กล่าวถึงเรื่องเดียวกันหมด อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา
     พระพุทธเจ้า ยังมีตั้ง 3 ตระกูล 1.ปัญญาธิกะ 2.สัทธาธิกะ 3.วิริยาธิกะ
    พระอรหันต์ 4 ประเภท
     1.สุขวิปัสสโก นี่บรรลุแล้วไม่เห็นผีเห็นสาง ไม่เห็นสวรรค์ ไม่เห็นนรก มีแต่จิตสบาย กิเลสแห้งเหือดไป
     2.เตวิชโช การมีทิพย์จักขุญาณ สามารถรู้สัตว์และคนที่ตายไปแล้วไปเกิดที่ไหน คนและสัตว์ที่มาเกิดนี้มาจากไหน แล้วมีปุพเพนิวาสานุสสติญาณ สามารถระลึกชาติของตนเองได้
      3.ฉฬภิญโญ ทรงอภิญญาหมายความว่ามีฤทธฺ์ แสดงฤทธิ์ต่างๆ ได้ไม่จำกัด
      4.ปฏิสัมภิทัปปัตโต มีความรู้พิเศษ ครอบคุมฉฬภิญโญ ทรงพระไตรปิฎก รู้ภาษสัตว์ต่างๆ ภาษาคนภาษาสัตว์นี่ไม่ต้องเรียน รู้ แล้วก็รู้อธิบายขยายความ อธิบายเนื้อความขยายให้กว้างก็ได้ หรือเนื้อความที่เขาอธิบายมาแล้วกว้างๆ ก็ย่อลงให้สั้นให้เข้าใจได้ดี

 
233  ห้องเวทย์วิทยาคมและสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ / เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน) / "งูปากเป็ด"สัตวธาตุเทวดา เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2554, 11:34:38
     งูปากเป็ดเป็นสัตว์ที่มีดีในตัว เหมือนพวกงาข้างกำจัด  อะไรประมาณนั้น ลักษณะตัวเล็กมาก เท่ากับไม้ขีดไฟ เล็กใหญ่กว่ากันไม่มาก ก่อนตายเกล็ดจะสีดำปนน้ำตาล และจะเปลี่ยนสีทีหลัง เช่น สี เงิน สีทอง สีนาก สีนิล แต่ถ้าสีนิลจะต้องสังเกตุให้ดี เพราะจะมีงูดินที่มีลักษณะคล้ายกัน ถ้าเจอจะต้องเอาธนบัตรช้อนตักมาแล้วรองใส่แผ่นทอง แผ่นเงิน หรือแผ่นนากก็ได้ แล้วเขาจะตายทันที
      มีเรื่องเล่ากันว่า งูปากเป็ดเกิดจากเทวดาแปลงกายเพื่อมาให้ลาภสักการะแก่ผู้มีบุญที่ยัง ตกยาก บางคนก็เล่ากันว่า เกิดจาก ขนนกการเวก ซึ่งเป็นนกในชั้นสวรรค์ที่หลุดร่วงลงมาสู่ดินแดนมนุษย์ในชั้นเบื้องล่าง แล้วก็กลับกลายเป็นงูปากเป็ดดังกล่าว
       เมื่อใครได้พบงูปากเป็ด เข้าจะถือว่าท่านได้พบสมใบติเศรษฐีเข้าแล้ว โบราณท่านกล่าวว่า ชายหญิงอ้ายอีใดที่ได้พบงูเหลือมปากเป็ดให้รีบนำเงินนำทองมาช้อนขึ้นพร้อม ตั้งจิตอธิฐานให้มั่นอันเชิญไปอยู่กับตัว ให้จัดแต่งที่อยู่เป็นพานเงินพานทอง ลาดรองด้วยผ้าขาวบางเนื้อนิ่ม ประดิษบานไว้ในเบื้องสูง แล้วให้นำน้ำอบน้ำปรุงขึ้นมาประพรมให้สมกับที่เป็นของสูง หมั่นกราบไหว้บูชาด้วยธูปเทียนชวาลา เช้าเย็น และให้ถือพรตทรงศีลอย่าได้ขาด ไม่เกิน 3วัน 7วัน ลาภพระยาจะมากองหน้าบ้านทบเท่าทวีคูณ เป็นเรื่องเล่าแต่โบราณครับมีแล้วดีเจริญรุ่งเรืองมีโชคลาภ


234  ห้องเวทย์วิทยาคมและสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ / เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน) / Re: "ปรอทกรอ" เครื่องรางแม่ทัพ เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2554, 18:06:55
          ผ่าปรอทกรอดูข้างใน


ที่มา...www.pralanna.com
235  ห้องเวทย์วิทยาคมและสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ / เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน) / "ปรอทกรอ" เครื่องรางแม่ทัพ เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2554, 15:36:30
 wan-e046
236  ห้องเวทย์วิทยาคมและสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ / เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน) / "ช้องหมูป่า"ของขลัง.. เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 00:13:26
     ชาวป่าหรือพรานเก่าสมัยก่อนมักจะมีเรื่องเล่าแปลกๆในป่าไม่รู้จบสิ้น  บ้างก็เกี่ยวกับอาถรรพ์ป่า บ้างก็อาถรรพ์สัตว์ และของขลังหายากที่เกิดขึ้นโดยผิดธรรมชาติ อาทิเช่น งาช้างกำจัด นาคบาศ และ ช้องหมูป่า
    เรื่องเล่าเกี่ยวกับช้องหมูป่ายังคงมีมาถึงปัจจุบัน มีการนำช้องหมูป่ามาแสดงให้เห็นบ้างประปราย สรรพคุณของช้องหมูป่าจะเด่นมากในเรื่องคงกระพัน ฟันแทงไม่เข้า หนังเหนียว ป้องกันอาถรรพ์ป่าต่างๆได้ ดังนั้นชาวป่าทั้งหลายจะติดตามค้นหากันอย่างเอาจริงเอาจังหากมีข่าวว่าพบหมูป่าที่น่าจะมีช้องอาถรรพ์นี้ติดตัวอยู่ หมูที่ว่านี้จะปรากฏว่าพรานที่หมายจะฆ่ามันด้วยปืนหรืออาวุธใดๆ จะมีอันผิดหวังทุกราย กระสุนด้านบ้าง ยิงถูกตัวแตไม่ระคายผิวบ้าง ต่างๆนาๆ ช้องหมูป่าเกิดจากการที่หมูป่าที่มีตบะแก่กล้าอายุมากๆ ทำการถอนขนเพชรหรือขนที่รวบรวมตบะ บนร่างกายมาอมไว้ในปาก โดยการค่อยๆรวบรวมทีละเส้นๆไว้ในปากจนขมวดเป็นวงคล้ายกำไล เมื่อหมูป่าที่มีช้องที่ว่านี้ อยู่ในปากจะไม่มีสิ่งใดมาทำอันตรายมันได้เลย
    ในเมื่อช้องหมูป่าศักดิ์สิทธิ์จริงแล้วเค้าฆ่าเจ้าตัวแล้วเอาช้องมันมาได้อย่างไร?

   คำตอบก็คือพรานจะรอจังหวะที่หมูที่มีช้องที่ว่านี้กินอาหารครับ โดยมันจะต้องคายช้องออกมาก่อนจะกินอาหาร จังหวะนี้แหละคือนาทีมรณะของมันนั่นเอง
 
ที่มา..www.mythland.org







237  ห้องเวทย์วิทยาคมและสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ / เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน) / Re: " เป็ดถบ" เป็ดกายสิทธิ์หุ่นพยนต์เฝ้าทรัพย์ เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 23:16:10
 จัดไปครับ ท่าน "เป็ดถบสังคโลก" จากเตาทุเรียง สุโขทัย


238  ห้องเวทย์วิทยาคมและสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ / เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน) / " เป็ดถบ" เป็ดกายสิทธิ์หุ่นพยนต์เฝ้าทรัพย์ เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 12:37:16
    เป็ดถบ  เป็นเป็ดที่ดิฉันว่าแปลกที่สุดก็ว่าได้ สำหรับ ?เป็ดถบ? นี้เห็นกันหลายคนยังมีพยานยืนยันอยู่ หลังจากอยู่บ้านริมน้ำไม่นานไฟก็ไหม้บ้าน คุณพ่อจึงย้าย ครอบครัวมาอยู่ในสวนคุณป้าซึ่งอยู่ที่บางพลัด ในสวนมีบ้านดิฉันกับบ้านคุณป้าจาด 2 บ้านรอบๆบ้านเป็นสวนเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิดส่วนใหญ่เป็นพืชยืนต้น จำพวก ทุเรียน มังคุด มะพร้าว มะม่วง มะยม ขนุน ตลอดจนกล้วย ระกำ มะละกอฯลฯ
     สวนที่ติดจากสวนของคุณป้าก็เป็นสวนของอา ลุง วงศาคณาญาติทั้งหลายเป็นสิบๆ ขนัดดูแล้วน่ากลัวในเวลากลางคืนเพราะไฟฟ้าและน้ำยังไปไม่ถึง  แต่พวกพี่ๆ คุณพ่อ คุณแม่ และครอบครัวป้าจาดไม่เคยกลัวเพราะอยู่จนชินแล้ว  พี่ๆของดิฉันกับลูกๆ ของป้าจาดซึ่งรุ่นราวคราวเดียวกันชอบไปเที่ยวในสวนกันบ่อย ไปเก็บผลไม้บ้าง ไปนอนในห้างในเวลากลางคืนบ้าง โดยเฉพาะในหน้าทุเรียนต้องไปเฝ้ากันทุกคืน
    ที่สวนของป้ามีบ่อน้ำเล็กๆอยู่บ่อหนึ่ง น้ำใสสะอาดตลอดปีตลอดชาติ ในคืนวันเพ็ญ 15 ค่ำวันหนึ่ง พี่ชายคนโตของดิฉันกับพี่ๆลูกป้าจาด 2-3คนต้องไปนอนห้างกันในสวน  คืนนั้นพี่ๆได้เดินคุยกันตามร่องสวนมาจนกระทั่งถึงบ่อน้ำน้อยนี้  แต่คราวนี้พี่ๆต้องประหลาดใจเพราะในบ่อน้ำน้อยนี้ มีลูกเป็ดสีทองสวยงามมาก 4-5 ตัวลอยเล่นในบ่อ ยิ่งต้องกับแสงจันทร์ดูเป็นสีทองอร่าม  พี่ชายกับเพื่อนๆจึงลงไปช่วยกันจับ แต่พอเอื้อมมือลงไปจับ เป็ดเหล่านั้นก็หายวับไปกับตา
และตั้งแต่นั้นมาทุกๆคืนวันเพ็ญ พี่ๆคุณพ่อและอีกหลายๆคนก็มักแอบผลัดกัน ไปดูเป็ดเหล่านั้น ซึ่งจะมีให้เห็นทุกครั้ง แต่ไม่สามารถจับได้  คุณปู่ คุณย่าและคุณพ่อบอกว่า เขาเรียกว่า ?เป็ดถบ?แต่ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร มาจากไหน รู้แต่ว่าทุกคืนวันเพ็ญเป็ดถบสีทองจะมาลอยน้ำเล่นทุกครั้ง ซึ่งถ้าหากไล่จับก็จะหายวับไปทันที  น่าเสียดาย ปัจจุบันความเจริญเข้าไปถึง บ่อน้ำจึงถูกถมไปเสียแล้ว กลายเป้นตึกรามบ้านช่องไปหมด จึงไม่มีใครเห็น เป็ดถบ อีกเลย
ที่มา   โลกทิพย์ ฉบับที่114 ปีที่ 6 เดือนตุลาคม 2530
  เป็ดถบ " เป็ดกายสิทธิ์ ของคนไทยโบราณ ในสมัยก่อน คนที่มีเงินมีทองมากๆ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ได้แต่แอบเอาไปผังดิน ถ้าจะฝังเฉยๆ ก็กลัวจะอันตธานหายไป  ดังนั้นต้องมีการทำพิธี ฝังรูปฝังรอย ป้องกันขุมทรัพย์เอาไว้ ครั้นจะไปเชิญหมออาคมมาทำพิธีให้ ความลับของที่ซ่อนก็ต้องมีอัน " ไม่ลับ " เป็นแน่ ดังนั้นจึงมีการสร้างหุ่นพยนต์" รูปเป็ด " ซึ่งเรียกกันว่า " เป็ดถบ "
เป็ดถบ ที่กล่าวถึง ไม่ใช่เป็ดธรรมดา เป็นรูปของเป็ดคู่ เพศผู้และเพศเมีย มีลำตัวติดกัน และมีสองหัว ใช้เป็นตัวแทนของเทพยดา ที่เราจะไปฝากทรัพย์เอาไว้ และใช้รูปเป็ด เป็นที่ให้ท่านสถิตย์ โดยลักษณะของเป็ดที่นำมาเป็นเครื่องหมายของเป็ดถบ เฝ้าทรัพย์ก็คือ
 ๑) เป็ดจะไม่ไปไหนไกลจากเล้านัก และก็กลับเข้าเล้าทุกวัน ก็คือจะเฝ้าอยู่ไม่หนีไปไหน 
๒) เป็ดมีความสามารถในการ เดิน วิ่ง หลบตามพุ่มไม้ ว่ายน้ำ และดำน้ำ หมายถึงว่าเวลามีผู้มาค้นหา ก็จะสามารถหลบหนี หรือเคลื่อนที่ไป ไม่ให้ผู้ที่จะมาลักขุด พบขุมทรัพย์ 
๓) เจ้าของทรัพย์ก็จะทำบุญอุทิศให้กับเทพที่ฝากทรัพย์เอาไว้ เมื่อเจ้าของทรัพย์ลาโลกไป ก็จะมาสถิตย์อยู่ที่เป็ดถบ
    เรื่องขุมทรัพย์ โดยมากแล้ว ทรัพย์ที่ฝังเอาไว้ เจ้าของมักจะไม่ได้กลับมาขุด ขึ้นมา บางทีก็หมดอายุขัยเสียก่อน คราวนี้แหละ ความห่วงหาอาวรณ์ต่อสมบัตินั้น ทำให้ดวงวิญญาณไม่ไปไหน วนเวียน อยู่แถวๆนั้น บางครั้งเมื่อถึงวาระไปเกิดในภพใหม่ ก็จะ ไปเข้าฝันบอกให้ใครมาขุดเอาไปใช้ นัยว่าจะต้องเลือกคนดี หรือมีเนื้อนาบุญ หมายถึงว่าคนที่ได้ทรัพย์ไป ก็เอาไปเป็นทุนตั้งตัว บางส่วนนำไปทำบุญสร้างโบสถ์สร้างวิหารอุทิศ ให้กับเจ้าของทรัพย์ โดยมากมักจะใช้วิธีการเข้าฝัน หรือบางคนก็จะฝันเห็น " เป็ดถบ " หรือบางทีก็มาให้เห็น ก็เลยอยากให้ท่านทั้งหลาย รู้จัก" เป็ดถบ " กันเอาไว้ เผื่อว่าฝันเห็นเป็ดสองหัวแบบนี้ แสดงว่า ที่เรามาอยู่อาศัย มีขุมทรัพย์ซ่อนอยู่ ก็ทำบุญเลี้ยงพระอุทิศให้ท่านก็อาจจะพบขุมทรัพย์ หรือว่าจะมีโชคใหญ่ๆ ถือว่าเจ้าของที่ท่านให้ลาภ อย่าไปกลัวจนทำอะไรไม่ถูก เมื่อไปได้ที่ดินใหม่ บ้านใหม่ เมื่อสะดวกแล้วก็รีบทำบุญเลี้ยงพระ จะได้อยู่เย็นเป็นสุข และทำมาค้าขายดี มีกำไร   
ที่มา    จาก www.hobbieshut.com

239  ห้องเวทย์วิทยาคมและสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ / เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน) / Re: เรื่องเล่าของเดียรัจฉานวิชา เมื่อ: 17 พฤศจิกายน 2554, 15:25:23
 แฟนพันธุ์แท้
    ผมเคยเห็นคนที่ทั้งแขวน และพกพระเครื่องเป็นจำนวนเยอะ ๆ มาเป็นอันมากทุกคนล้วนมีวิธีแขวน
และพกคล้าย ๆ กันคือ ใส่สร้อยคอ, แหนบ, ตะกรุดคาดเอว และกระเป๋าถือ หรือสะพาย
อย่าง เช่น อ.อนันต์ สวัสดิสวนีย์ แขวนพระในสร้อยคอเพียงองค์เดียว แต่กระเป๋าเล็ก ๆ ที่ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ มีทั้งพระเล็ก ๆ น้อย ๆ ทั้งรูปภาพหรือแม้แต่ตะกรุด อัดแน่นไปหมด
พระในคอของ อ.อนันต์ น่าสนใจมากเป็นพระโบราณ ทำด้วยหินทิชชัน (ไม่รู้เรียกถูกหรือเปล่า) ปางสะดุ้งมารตกทอดมาแต่ปู่ย่าตาทวดของพ่อตา ซึ่งมีเชื้อสายเป็นเจ้านายของลาวในอดีต
เคยมีคนเอาสมเด็จบางขุนพรหมแท้ ๆ มาขอแลกก็ยังไม่ยอม
ใครรู้จักมักจี่กับ อ.อนันต์ ให้ขอดู จะสวยซึ้งตรึงใจแค่ไหนก็จะเห็นเอง
อ.เบิ้ม สุวัฒน์ มีพระในสร้อยคอมากขึ้นหน่อย บางทีคล้อง 2 พวง แต่กระเป๋าสะพายบ่ามีสารพัดของขลังเพียบแปร้ทั้งพระผง ทั้งเหรียญ สีผึ้ง น้ำมัน ครบถ้วนพร้อมใช้ พร้อมแจกญาติโกโหติกา ทุกเวลา
พระในคอจะแขวนเป็น เหลักอยู่ 2 องค์ คือ เหรียญรุ่น 2 ของหลวงปู่โต๊ะ วัดประดูฉิมพลี และ พระปรกโพธิ์ ของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว (องค์นี้เอาเม็ดยาจินดามณีแปะไว้ที่พระหัตถ์พระ 1 เม็ด อีกด้วย)
ส่วนสร้อยเส้นหนึ่งจะเป็นตะกรุด 9 ดอก ของหลวงพ่อหนูอินทร์ จ.กาฬสินธุ์
ไม่นับตะกรุดคาดเอวอีกคนละสายที่ทั้ง 2 อาจารย์มีเหมือนกัน
ถ้า จำไม่ผิด อ.อนันต์ จะคาดเอวด้วยตะกรุด หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน, หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง, หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง และหลวงพ่อโพธิ์ วัดวังหมาเน่า
ส่วน อ.เบิ้ม สุวัฒน์ คาดเอวด้วยตะกรุด หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน, หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง, หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี และหลวงพ่อสังข์ วัดบ้านกลอ (ใหม่)
    นี่พูดถึงเฉพาะคนที่รู้จัก คนที่เคารพนับถือกันเท่านั้น ไม่รวมคนอื่น ๆ ซึ่งก็มีวิธีแขวน และพกของขลังทำนองเดียวกันนี้เหมือนกันใครจะแขวนจะพกพระได้มากแค่ไหน ก็ยังดูเป็นปกติธรรมดา ไม่เห็นแปลก
แต่ถ้าพูดถึง คุณทวีพร ทองคำใบ ทุกคนจะยอมรับนับถือว่าท่านผู้นี้เป็นยอดในการแขวนและพกพระ
เฉพาะ สร้อยคอก็อย่างน้อย ๆ 5 เส้น แหนบอีกนับสิบ กระเป๋าถืออีกร่วมร้อยองค์ ตะกรุดคาดเอวอีก 3 เส้น พระทุกองค์เลี่ยมตลับเงินอย่างดี คิดดูจะหนักแค่ไหนบางวันแบกไม้เท้าเสกของหลวงปู่พรหมาไว้ไล่หมา ขณะปั่นจักรยานก็ยังเคยเห็นคุณทวีพร ทองคำใบ เป็นนักวาดภาพแสตมป์มือฉมังของเมืองไทย
และเป็นคนที่เรียกว่า ?ตกน้ำไม่ไหล?คือตกน้ำตรงไหน ก็งมเอาตรงนั้นเลย
เมื่อเปรียบกับคุณทวีพรแล้ว คนอื่น ๆ จะจ้องเจียมเนื้อเจียมตัว
ถึง จะถือว่าคุณทวีพรเป็นแชมป์ในการแขวนและพกพระในหมู่พวกเราแล้วก็ตาม แต่คุณทวีพร จะเทียบกับ คุณวสุธร โง้วศิลปศาสตร์ (ตี๋) ไม่ได้เลย ต่อไปนี้ผมจะเรียกคุณวสุธรว่า คุณตี๋ ตามถนัดปาก
คุณตี๋เอาพระทั้งแบบผง และโลหะสารพัดหลวงพ่อหลวงปู่ ทั้งประเทศมาเลี่ยมพลาสติก และร้อยพระสานประกอบกันจนกลายเป็นเสื้อสวมใส่ได้คะเนว่าจะมีพระทั้งหมดรวม แล้วประมาณ 300 องค์
มีอยู่คนหนึ่งเคยทำในลักษณะคล้าย ๆ กับคุณตี๋มาก่อน คือ เอาพระมาร้อยรวมกันหลายสิบองค์ จนกลายเป็นหมวก เสียแต่จำชื่อไม่ได้ จำได้แค่ว่าเป็นชาวจังหวัดลำปางแต่คุณตี๋บอกว่าไม่ได้ลอกไอเดียนี้จากใคร คุณตี๋คิดขึ้นเอง ถ้าบังเอิญไปตรงกันก็ช่วยไม่ได้  เสื้อพระนี้คิดทำขึ้นเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว
เหตุที่คิดทำก็เพราะว่าอยากแขวน อยากพกพระทั้งหมดที่มีอยู่
พอคิดได้ก็ลงมือทำทันที พอทำเสร็จก็เลื่อนชั้นขึ้นมาเป็นแชมป์พกพระอย่างสง่าผ่าเผยทันทีเหมือนกัน
เหตุที่คุณตี๋หันมาสนใจพระ ชอบพระ และพกพระอย่างเป็นชีวิตจิตใจก็เพราะได้ประสบอภินิหารของ หลวงพ่อเกษม เขมโก
เรียกว่าเป็นประสบการณ์สำคัญ และยิ่งใหญ่ที่ทำให้ชีวิตจิตใจคุณตี๋มีแต่พระเต็มหมดทั้ง 4 ห้องหัวใจ
ไม่มีสักห้องเดียวจะว่างไว้ให้ผู้หญิงอีกด้วย
สาวไหนไม่เชื่อลอง ๆ ไปติดตอขอเช่าสักห้องดูสิครับว่าจะเต็มจริงหรือไม่
ตอน ที่คุณตี๋มีอายุได้ 20 ปี (ปัจจุบัน 41) คุณตี๋มีแค่ เหรียญหลวงพ่อเกษม รุ่น 6 รอบ (สมทบทุนสร้างโรงพยาบาลสงฆ์) อยู่เพียงเหรียญเดียว ลักษณะเป็นเหรียญกลมมีรูปหลวงพ่อนั่งเต็มองค์อยู่ด้านหน้า ส่วนด้านหลังก็อีกแล้วครับ...ลืม
     คืนหนึ่งราว ๆ ตี 2 ไม่รู้นึกยังไง ไปนั่งเล่นอยู่บริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมืองอุบลราชธานี อยู่เพียงคนเดียว กำลังเพลิน ๆ ก็สะดุ้งโหยง เพราะเสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหว เห็นคนกำลังไล่ยิงกันอยู่ใกล้ ๆ
คนถูกไล่ยิงไม่มีปืนก็วิ่งหนีอย่างเดียว คนไล่ยิงมีปืนก็ไล่ยิงอย่างเดียว
ทั้ง คนหนีและคนไล่วิ่งมาทางเดียวกัน คือตรงมาหาคุณตี๋ พอถึงตัวคุณตี๋คนหนีก็คว้าตัวคุณตี๋ไว้เป็นกำบัง โดยเอาตัวของตนเองไปซ่อนอยู่ข้างหลังคุณตี๋ซะเฉย ๆ
คุณตี๋นี่ก็ช่างกระไรเลย ดันตัวแข็งตกใจ ทำอะไรไม่ถูกไปเสียอีก
คน ไล่ยิงพอตามมาถึงก็ไม่ฟังอีร้าค่าอีรม จ่อปืนยิงต่อ โดยเล็งปืนผ่านตัวคุณตี๋เหมือนว่าไม่มีคุณตี๋อยู่ตรงนั้น คือมีเจตนาจะยิงอีกคนให้ตายดับคาปืนอย่างเดียวใครจะขวางก็ไม่สน
ปรากฏว่าพอเหนี่ยวไก กระสุนก็ด้านถึง 3 นัด
คน วิ่งหนีเห็นท่าไม่ดีหรือจะเห็นท่าดีก็ไม่ทราบ ผลักคุณตี๋กระเด็นไปแล้วตัวเองก็หันหลังวิ่งหนีต่อไปทางโรงหนังสินราชบุตรคน ไล่ยิงก็วิ่งไล่ยิงเปรี้ยง ๆ ต่อไป จนหายลับไปทั้งคู่
หลังเหตุการณ์นั้นผ่านไป คุณตี๋จึงคิดออกว่ารอดมาเพราะอะไร
ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเหรียญหลวงพ่อเกษมรุ่นที่ว่านี้อยู่เพียงเหรียญเดียว
ตั้งแต่นั้นโลกก็อ้าแขนรับนักสะสมพระเครื่องคนใหม่อีกคนด้วยเหตุดังนี้แล
ทุก วันนี้คุณตี๋ยังคงสะสมพระไม่พอ เห็นว่ากำลังอยากได้เหรียญทศบารมี รุ่นปืนแตกของหลวงปู่เปลี้ย วัดชอนสารเดช ผมก็นึกในใจว่าจะมอบให้เป็นที่ระลึกสักเหรียญ นี่ก็เป็นเรื่องมหัศจรรย์อีกเรื่องที่น่าทึ่งมาก เมื่อมาเป็นแชมป์พกพระขนาดนี้แล้ว ผมเห็นว่าพระขนาด 300 องค์นี้
บางที ระเบิดนิวเคลียร์ก็คงจะทำอะไรคุณตี๋ไม่ได้และก็ช่วยเบาแรงหลวงพ่อเกษมไปได้ อีกเยอะ แทนที่จะรับศึกอยู่แต่เพียงองค์เดียว ใคร ๆ ก็อย่าคิดเลียนแบบคุณตี๋ ถือเป็นความสามารถเฉพาะตัว
แม้ไม่สงวนลิขสิทธิ์เสื้อพระก็คงจะหาคนเอาอย่างได้ยาก
คุณตี๋ก็คงจะเป็นแชมป์ไปอีกนาน หรือจะตลอดกาลก็ยังบอกไม่ได้
ไว้ผมคิดหาวิธีล้มแชมป์พกพระได้เมื่อไร ค่อยขอท้าชิงเข็มขัดทีหลัง
ตอนนี้คิดไม่ออกเลย

งานเขียนของคุณอาอำพล เจน  ... จากหนังสือแปลก ฉบับที่ 520
วันที่ 1 กันยายน 2547


240  ห้องเวทย์วิทยาคมและสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ / เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน) / Re: เรื่องเล่าของเดียรัจฉานวิชา เมื่อ: 17 พฤศจิกายน 2554, 15:21:19
แม่โพสพรอด ข้าวเปลือกรอด
พระครูนิวาสธรรมขันธ์ (เดิม พุทธสโร) วัดหนองโพ ต.หนองโพ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์
         แม่โพสพรอดเป็นเครื่องรางชนิดหนึ่งมีอภินิหารมหัศจรรย์ยิ่งนัก หลวงพ่อเดิมมักสั่งลูกศิษย์ให้เสาะหาเก็บเอาไว้ หลวงพ่อบอกว่าเขารบทัพจับศึกกันในสมัยโบราณนั้น ใครมีแม่โพสพรอดจะได้กลับมาเห็นหน้าลูกเมียทุกคน เพราะตามธรรมดาเขานับถือพระแม่โพสพอยู่แล้ว เวลาจะกินก็เสกข้าว(เปล่า)กินก่อน ๓ คำ เวลากินอิ่มแล้วก็ยกมือไหว้พระแม่โพสพระลึกถึงพระคุณ
       โดยระหว่างที่กินข้าวนั้นถ้าหากเห็นว่ามีข้าวเปลือกปนอยู่ในจานข้าวสวยก็จง เลือกออกมาดู ถ้าหากมีเมล็ดไหนแตกหรือมีรอยร้าวที่เปลือกแสดงว่าใช้ไม่ได้ให้ทิ้งไป หากว่าเมล็ดใดแข็งและไม่มีรอยแตกรอยร้าว คงสภาพเหมือนเดิมให้เก็บเอาไว้เพราะนี่คือ แม่โพสพรอด ถือว่าเป็นของกายสิทธิ์ตามธรรมชาติ เพราะถือเคล็ดเอาว่า รอดจากการสีข้าว หรือ รอดจากการตำข้าว รอดจากการเก็บ การหากาก รอดจากการหุงด้วยความร้อนโดยเปลือกเมล็ดไม่แตก จึงเรียกว่า แม่โพสพรอด หรือ ข้าวเปลือกรอด บางตำราว่าข้าวเพชรหลีกก็มี
สรรพคุณก็ตรงตามชื่อ คือแคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยอันตรายต่าง ๆ นานา เมื่อได้มาแล้วถ้าหากหลวงพ่อเดิมยังอยู่ท่านจะให้หาหลอดเงินเล็ก ๆ บรรจุ ข้าวเอาไว้สัก ๓ เม็ด เป็นเคล็ดหมายถึงคุณพระรัตนตรัย แล้วนำมาให้ท่านปลุกเสกแล้วฝังติดตัวที่ต้นแขน แล้วท่านก็จะมอบคาถาปลุกเสกแม่โพสพรอดให้เพื่อสวดกำกับ
เคล็ดการ เก็บเม็ดข้าวแม่โพสพรอด หรือข้าวเปลือกรอดคือเวลาหยิบให้กลั้นใจหยิบด้วยคาถาที่เป็นมงคล เช่น พุทโธ ธัมโม สังโฆ หรือ อิ สฺวา สุ เช่นเมื่อกินข้าวแล้วพบเมล็ดข้าวเปลือกเมล็ดแรกก็กลั้นใจหยิบขึ้นมาโดยว่า พุทโธ หรือ อิ หากพบเมล็ดที่ ๒ ก็กลั้นใจหยิบโดยว่า ธัมโม หรือ สวา หากพบเมล็ดที่ ๓ ก็ กลั้นใจหยิบโดยว่า สังโฆ หรือ สุ เวลาว่าคาถาให้ว่าในใจ
        หากเก็บมาแล้วตรวจลักษณะของข้าวเปลือกแล้วว่าตรงกับตำราก็ให้เก็บเอาไว้ แต่หากไม่ตรงกับตำราก็ทิ้งไป เวลาพบใหม่ก็ให้ว่าคาถาเดิมของเมล็ดที่เสีย เช่น เราเก็บมาได้เมล็ดแรกแล้วด้วยคำว่า อิ แล้วต่อไปเมล็ดที่สองเราเก็บด้วยคำว่า สวา แต่บังเอิญเป็นเมล็ดแตก เมื่อเราพบใหม่ก็เก็บด้วยคำเดิมของเมล็ดที่เสียเพราะถือว่ายังไม่ได้เมล็ด นั้นมาเป็นต้น บางคนจะเก็บด้วยคาถาหัวใจนวหรคุณคือ อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ ให้ครบ ๙ เมล็ด เพราะถือเสียงพ้องกับคำว่า ก้าวหน้าอันหมายถึงเจริญรุ่งเรืองนั่นเอง
เมื่อเก็บได้ครบตามจำนวนแล้วก็ ให้จัดดอกไม้ธูปเทียนเลือกเอาวันดีคืนดีระลึกถึงหลวงพ่อเดิม ขอประสิทธิจากหลวงพ่อเสียก่อนแล้วจึงปลุกด้วยคาถาที่ท่านมอบให้ดังนี้
คาถาเสกพระแม่โพสพรอด นะโม ๓ จบ แล้วว่าโองการดังต่อไปนี้
 ?โอม นมัสการ ข้อขอให้พระพุทธะคุณนัง พระธัมมะคุณนัง พระสังฆะคุณนัง บิดาคุณนัง มารดาคุณนัง ข้าจะขอนมัสการครูบาอาจารย์เสร็จ ข้าจะเชิญพระสรรเพชรเสด็จมาอยู่เหนือเกล้าเหนือผม ขอเชิญพระพรหมมาเป็นตาซ้าย ขอเชิญพระนารายณ์มาเป็นตาขวา ขอเชิญพระแม่คงคามาเป็นน้ำลาย ขอเชิญพระพายมาเป็นลมปาก ขอเชิญพระโองการมาเป็นหัวใจ ข้าไซร้จะปลุกเสกพระโพสพรอดด้วยพระคาถา อาจาริโยปัญญาวุฒโธ
สิทธิอาจาริยะ สะพุทโธโรกัสสะปุริสสะธรรมะ มะมะยะมะราชะโน สุคะโต อะระหัง สัพพะปาปะกัง กะระนังวิยะยะธา กัณหะเณหะ อิกะวิติ พุทโธท้าวเวสสุวัณโณ อะระหังตัสสะ คะเตสิก คะเตสิก กิงกะระนัง พระอะระหังปิดทวารทั้งเก้า นะอุด โมอัด พุทธสะกัด ธาปิดมิดชิด เอกะนามะกิง กิงกะระนัง พระอะระหังปิดทวารทั้งเก้า ปุเรปุเร ปุเรมารัง ปุรังมามิ โหติสัมภะโว?
เพียงเท่านี้ก็เป็นอันว่าท่านได้เครื่องรางชั้นยอดชนิดหนึ่งจากหลวงพ่อเดิมเอาไว้ติดตัว ให้หมั่นสวดคาถาปลุกระลึกถึงหลวงพ่อเดิมบ่อย ๆ เถิด (ขอบคุณคุณไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม เจ้าของข้อมูล)
หน้า: 1 ... 14 15 [16] 17 18 ... 20
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.19 | SMF © 2006-2009, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!