ของฝากจากพระยายม
(เรื่อง การอุทิศส่วนกุศล ท่านพระยายม (ลุงพุฒิ) ท่านมาสั่งให้หลวงพ่อบอกลูกหลาน เมื่อวันปวารณาออกพรรษาปี ๒๕๓๑ ซึ่งหลวงพ่อได้เล่าให้ฟังดังนี้)
หลวงพ่อ : พระยายมกับท่านลุง (นายบัญชี) มาเที่ยววันออกพรรษา
พระยายม กับท่านลุงฯ บอกว่า ?คนที่ผมจะช่วยได้ ต้องเฉพาะคนที่ผ่านสำนักผมเท่านั้นนะ!?
ถามท่านว่า ?ลุงมีข่าวอะไรส่งข่าวบ้างละ??
ท่านบอก ?ไม่มี! ผมหยุดนรกการ ๓ วัน?
รู้จักไหม? ชาวบ้านเขาหยุดราชการ ใช่ไหม..ท่านหยุดนรกการ ๓ วัน เมื่อวานนี้ (ออกพรรษา), วันนี้ (ปวารณา), และพรุ่งนี้
ถาม ?ทำไม??
ท่านบอก ?วันสำคัญนี่ วันมหาปวารณาผมไม่สอบสวน?
เลยถามว่า ?ถ้าเวลาที่ลุงไม่สอบสวน พวกที่คอยการสอบสวนเขามีอิสระใช่ไหม???
ท่านบอกว่า ?ตามปกติเขาก็มีอิสระอยู่แล้ว ไอ้ที่ไปยืนที่นั่นเขายืนรอคนไม่ให้ลงนรกเท่านั้นเอง?
คือ ท่านมีหน้าที่ไม่ให้ลงนรก แต่ก็ต้องไปตามกฎของกรรม ถ้ารู้กฎของบุญนิดหนึ่งท่านให้ไปสวรรค์ก่อนเลย.. ท่านจัดอย่างนั้น.
เลยถามท่านว่า ?ถ้าเขามีอิสระอย่างนี้เขาไปได้ไหม??
ท่านบอกว่า ?เขาไปไหนก็ได้ ถึงเวลาสอบสวนเขาก็มาเอง กฎของกรรมมันบังคับ?
หมายความ เขาจะต้องถูกสอบสวน ไม่งั้นเขาจะลงนรกทันที ถ้าเขามาที่นั่นยังมีโอกาสพ้นหรือไม่พ้น ยังไม่แน่
เลยถามว่า ?ถ้าบรรดาญาติเขาอุทิศส่วนกุศลให้ เขาจะมีโอกาสได้รับไหม??
ท่านบอกว่า ?ถ้าญาติฉลาด ได้รับทุกคน?
ญาติฉลาด หมายความ ทำบุญแล้วอุทิศส่วนกุศลให้ตรงให้คนเดียว อย่าให้คนอื่น แต่ต้องออกชื่อนะ เพราะเวลานั้นยังเป็นเวลาปลอดอยู่ มีสภาพคล้าย สัมภเวสี
ก็ถามท่านว่า ?ทำบุญอย่างไหน พวกนี้จึงจะไปสวรรค์ชั้นสูง มีความสุขมาก มีความสุขน้อย หรือไม่ได้รับเลย?
ท่านบอกว่า ?แดนใดที่ไม่มีบุญ ทำแล้วก็ไม่ได้รับเหมือนกัน
หมายความพระเรานี่ล่ะ! เป็นพระแต่หัวแต่ผ้าเหลืองมีไหม นี่แหละทำไปเท่ไรเจ๊งหมด ขาดทุน! ท่านบอกว่า อย่างนี้ทำเท่าไรก็ไม่มีผล อุทิศส่วนกุศลให้แก่พวกนั้นเขาก็ไม่ได้รับ เพราะรับไม่ไหว ถ้าทำบุญที่เขตมีบุญน้อย เขาก็มีอานิสงส์น้อย เขาก็มีความสุขน้อย นี่เราก็ไม่ต้องพูดกัน ทำบุญที่มีอานิสงส์ใหญ่ที่เป็นบุญมาก ก็ได้รับผลมาก ก็ถามถึงบุญ ท่านบอกว่า สังฆทาน นี่ดีที่สุด!
แล้วท่านก็บอกว่า ?ไปบอกชาวบ้านเขานะว่า คนที่ผมจะช่วยได้จริงๆ ต้องเฉพาะคนที่ผ่านสำนักผมเท่านั้นนะ? อย่าง สัมภเวสี เปรต อสุรกาย ไม่ผ่านท่าน ท่านช่วยไม่ได้ แล้วคนที่ลงนรกท่านใดก็ช่วยไม่ได้ เพราะไม่ได้ผ่านสำนักท่าน คนที่ต้องผ่านสำนักท่าน เมื่อผ่านสำนักท่านก็ต้องไปคอยอยู่ เลยถามท่านว่า ?ทำอย่างไร ถึงความแน่นอนจึงจะปรากฏ ลุงจะช่วยได้?
ท่านก็เลยบอกว่า ?เอาอย่างนี้ เวลาเขาทำบุญเสร็จ อุทิศส่วนกุศลให้แก่คนตาย ถ้ายังไม่มั่นใจให้บอกว่า??
?ถ้าบุคคลนี้ ยังไม่มีโอกาสโมทนาเพียงใด ขอพระยายมเป็นพยานด้วย ถ้าหากว่าพบเธอเมื่อใด ขอให้บอกเธอโมทนาเมื่อนั้น?
ท่านบอกว่า ?เพียงแค่เท่านี้แหละ! ผมก็ไม่ต้องสอบสวน มันโผล่หน้าเข้าไป ผมก็บอกว่า เฮ้ย! ข้าทำบุญอย่างโน้นมึงโมทนาเว้ย! มันก็ไปสวรรค์เลย แค่นี้ล่ะผมก็ไม่ต้องเหนื่อย??
(แล้ว หลวงพ่อก็จบการสนทนาระหว่างท่านกับพระยายมเพียงแค่นี้)
ที่มา : คัดลอกจาก หนังสือ ?การอุทิศส่วนกุศล? วัดท่าซุง หน้า ๙ - ๑๒
อ้างอิงจาก :
www.bloggang.com/mainblog.php?id=srt-student&month=15-11-2008&group=12&gblog=5http://board.palungjit.com/f10/%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9D%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A1-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3-263352.html