ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์แห่งภาคอีสาน

ประวัติศาสตร์ บุคคลสำคัญ วัฒนธรรม ประเพณี พุทธสถานและแหล่งท่องเที่ยวภาคอีสาน => ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี ท้องถิ่น => ข้อความที่เริ่มโดย: เต้ อุบล ที่ 05 ตุลาคม 2554, 01:38:41



หัวข้อ: มารู้จัก...ผลไม้อีสานกำลังจะสูญพันธุ์
เริ่มหัวข้อโดย: เต้ อุบล ที่ 05 ตุลาคม 2554, 01:38:41
ผลไม้อีสานที่ผมจะนำเสนอนี้

เป็นผลไม้ที่มีมานานแล้ว

แต่ปัจจุบันกำลังถูกทำลายโดยมนุษย์

มารู้จักผลไม้แต่ละชนิดกันเลยครับ


หัวข้อ: Re: มารู้จัก...ผลไม้อีสานกำลังจะสูญพันธุ์
เริ่มหัวข้อโดย: เต้ อุบล ที่ 05 ตุลาคม 2554, 01:39:06
1.หมากเล็บแมว เป็นผลไม้ลูกเล็กผลสีเขียวผลสุกสีดำนำมาทำไวผลไม้ได้ มีในฤดูหนาว


หัวข้อ: 2.หมากเม่าเกิดในฤดูฝน
เริ่มหัวข้อโดย: เต้ อุบล ที่ 05 ตุลาคม 2554, 01:41:41
หมากเม่า  มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Antidesma velutinosum Blume ในวงศ์ Stilaginaceae. เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบ ความสูงประมาณ 12-15 เมตร ออกดอกช่วงเดือนมีนาคม - พฤษภาคม และผลจะสุกในช่วงเดือนสิงหาคม ? กันยายน
หมากเม่า หรือ เบอร์รี่ไทย เป็นผลไม้ที่อุดมด้วยคุณค่าทางอาหารแร่ธาตุและวิตามิน เช่น แคลเซี่ยม เหล็ก วิตามิน บี 1 บี 2 วิตามินC วิตามินE ในปริมาณและมีคุณค่าสูง เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้อายุยืน สุขภาพแข็งแรง ลดความเสี่ยงจากมะเร็ง
หมากเม่าที่มีผลสุกจะมีสีม่วงแดง หรือสีดำ มีส่วนประกอบของ สารแอโทไซยานินและสารต้านอนุมูลอิสระ ลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ เส้นเลือดอุดตันในสมอง จากการยับยั้งโลหิตจับตัวเป็นก้อน  นอกจากนี้ยังใช้เป็นยาระบายและบำรุงสายตา


ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก http://www.oknation.net/blog/chabatani/2011/06/30/entry-1


หัวข้อ: 3.หมากเม็ก
เริ่มหัวข้อโดย: เต้ อุบล ที่ 05 ตุลาคม 2554, 01:44:05
หมากเม็ก เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งใบหรือยอดอ่อนชาวอิสานสินํามาเป็นผักเครื่องเคียง กินกับลาบ ป่น ฯลฯ ส่วนหมากหรือผล สิเป็นสีขาวรสชาติ สิออกหวานอมเปรี้ยว (กลิ่นคล้ายๆแอปเปิ้ล) พี่น้องบ้านเฮาสิหาได้ทั่วไป หน้าฝนนี้ละครับกําลังออกผล


หัวข้อ: 4.หมากเบ็น
เริ่มหัวข้อโดย: เต้ อุบล ที่ 05 ตุลาคม 2554, 01:45:15
มีรสชาด เปรี้ยว อมหวาน ข้างในมีเม็ดหลาย ต้นมันเป็นแบบได๋ผมกะบ่ฮู้คือกันเพิ่งเคยเห็นแล่วกะกินเป็นครั้งแรกในชีวิต
อยู่บ้านบ่มีครับ มีแต่หมากเก็นเดี๋ยวสิหารูปหมากเก็นมาให้เบิ่งเด้อครับ


หัวข้อ: 5.หมากเค็ง
เริ่มหัวข้อโดย: เต้ อุบล ที่ 05 ตุลาคม 2554, 01:47:32
หมากเค็งเป็นหมากไม้พื้นบ้านอีกชนิดหนึ่งที่มีชื่อทาง วิทยาศาสตร์ ว่า : Dialium cochinchinense Pierre สำหรับชื่อพื้นบ้านกะเอิ้นแตกต่างกันไปตามท้องที่ เช่น หมากเค็ง บักเค็ง นางดำ หยี เขลง หมากเค็ง เป็น ไม้ยืนต้นมีความสูงตั้งแต่ 15-30 เมตร ใบเป็นใบประกอบขนนก ปลายคี่ ออกเวียนสลับ ใบย่อยเรียงสลับกันบนก้านช่อใบแผ่รใบย่อย รูปไข่ ถึงรูปรี กว้าง 1.5-4.5 ซม. ยาว 4-7 ซม. ปลายทู่ถึงแหลม โคนมนถึงข้อนข้างสอบขอบเรียบ ผิวใบเกลี้ยง หรือมีขนเล็กน้อย ดอกเล้ก สีขาว ออกเป็นช่อขนาดใหญ่ตามปลายกิ่ง ผลกลมรี เมื่อสุกมีสีดำ กว้าง8- 10 มม. ยาวประมาณ 15 มม. ไม้ต้นสูง15-30เมตรใบประกอบแบบขนนกปลายใบคี่เรียงสลับใบรูปไข่ถึงรูปรีกว้าง1.5-4-7ซม.ปลายทู่ถึงแหลมโคนมนถึงค่อนข้างสอบขอบเรียบผิวใบเกลี้ยงหรือมีขนเล็กน้อยดอกเล็กสีขาวออกเป็นช่อขนาดใหญ่ตามปลายกิ่งผลกลมรีผลสุกสีดำมีเมล็ดเดียว
ประโยชน์ ลักษณะลูกที่ออกเท่าเม็ดถั่ว ลูกดิบ: ใช้ต้มเป็นน้ำดื่มแก้ไข้ ร้อนใน ผลสุก รสชาติหวานปนฝาด สีดำ เยื้อหุ้มเม็ดสีน้ำตาล รับประทานได้และ ปรุงเป็นขนมหวาน ผลออ่น สีเขียวรสฝาดนิยมนำมาต้มกินเมล็ดอ่อนข้างใน ยอดอ่อน : ให้รสเปรี้ยวใช้ประกอบอาหาร เนื้อไม้ : ใช้ในการก่อสร้าง ลำต้น : ใช้ทำเขียงเปลือกนำไปต้มย้อมแหหรือเปลือกนำมาต้มเคี่ยวใช้ทาแผล เปลือก : และแก่นย้อมสีให้น้ำตาลอมแดง


ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก  http://www.thaiesarnrecipes.com/เมนูอาหารอีสาน-หมากเค็ง


หัวข้อ: หมากผีผ่วน
เริ่มหัวข้อโดย: เต้ อุบล ที่ 05 ตุลาคม 2554, 01:48:40
ชื่อทั่วไป : นมควาย
ชื่ออื่น ๆ นมแมว(ภาษากลาง) นมวัว (พิษณุโลก กระบี่) พีพวน (อุดร) บุหงาใหญ่(ภาคเหนือ)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Uvaria rufa Bl.
วงศ์ : Annonaceae
ประเภท : ไม้เถา
ลักษณะวิสัย :
นมควายเป็นไม้พุ่มรอเลื้อยมีความสูง 5 เมตร กิ่งอ่อนมีขนละเอียดสีน้ำตาลแดง ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปวงรีหรือ รูปไข่ผิวใบมีขนสีน้ำตาลแดงทั้งสองด้าน กว้าง 2.5-3.5 ซม. ยาว 4.5-10 ซม. ดอกจะออกเป็นกระจุก 2-3 ดอก ที่กิ่งก้าน กลีบดอกสีแดงเข้ม กลิ่นหอม ผลเป็นผลกลุ่ม รูปไข่หรือรูปไข่กลับ เมื่อสุกมีสีแดงสด
การขยายพันธุ์ : เพาะเมล็ด
ประโยชน์ : แก่นและราก ต้มดื่ม แก้ไข้ซ้ำ ไข้กลับ เนื่องจากกินของแสลง ราก แก้ผอมแห้งแรงน้อย สำหรับสตรี ที่อยู่ไฟไม่ได้หลังคลอดบุตรและช่วยบำรุงน้ำนม ผล ตำผสมกับน้ำ ทาแก้เม็ดผดผื่นคัน


หัวข้อ: Re: มารู้จัก...ผลไม้อีสานกำลังจะสูญพันธุ์
เริ่มหัวข้อโดย: เต้ อุบล ที่ 05 ตุลาคม 2554, 01:51:12
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก


http://www.oknation.net/blog/songamnat/2009/08/10/entry-2


หัวข้อ: Re: มารู้จัก...ผลไม้อีสานกำลังจะสูญพันธุ์
เริ่มหัวข้อโดย: ChayTurbo ที่ 05 ตุลาคม 2554, 19:38:38
ที่ผมเคยก็มีหมากเม่า หมากเม็ก และหมากผีบ่วน นี้ละครับ 

 ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล


หัวข้อ: Re: มารู้จัก...ผลไม้อีสานกำลังจะสูญพันธุ์
เริ่มหัวข้อโดย: เต้ อุบล ที่ 05 ตุลาคม 2554, 20:50:13
ที่ผมเคยก็มีหมากเม่า หมากเม็ก และหมากผีบ่วน นี้ละครับ 

 ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล

ถ้าท่านรู้จักเกิน 3 ชนิดไป แสดงว่าท่าน.....เป็นไทบ้านตัวจริง  019


หัวข้อ: Re: มารู้จัก...ผลไม้อีสานกำลังจะสูญพันธุ์
เริ่มหัวข้อโดย: tar ที่ 05 ตุลาคม 2554, 21:10:11
หมากหวด หมากยาง เด้อ้ายรูปเอามาลงแหน่  007


หัวข้อ: บักหวดข่า
เริ่มหัวข้อโดย: เต้ อุบล ที่ 05 ตุลาคม 2554, 21:16:03
เป็นผลไม้ที่หากินได้ช่วงหน้าแล้ง เวลากินแล้ว ปากจะมีสีม่วงไปหาดำ เมื่อกินแล้วสิหิวน้ำเป็นที่สุด เพราะฉะนั้น แนะนำว่า ควรเด็ดเอาพวงบักหวดข่า
เมือกินอยู่บ้าน หรือเถียงนาที่มีน้ำไว้พร้อมแล้ว บ่จั่งซั่นสิหิวน้ำทรมานหลาย


หัวข้อ: บักยางกก / บักยางต้น
เริ่มหัวข้อโดย: เต้ อุบล ที่ 05 ตุลาคม 2554, 21:20:37
หากินได้ช่วงหน้าแล้ง จะมีรสหวาน หอม แต่จะมียางสีขาวๆติดปาก อร่อยมากๆสมัยนี้หากินได้ยากแล้วครับ


หัวข้อ: บักยางเครือ / บักยางป่า
เริ่มหัวข้อโดย: เต้ อุบล ที่ 05 ตุลาคม 2554, 21:25:25
เป็นผลไม้ป่า หากินได้ในช่วงหน้าแล้ง ต้นเป็นชนิดไม้เลื้อยสูงประมาณ 10-30 ม.  ลูกสุกจะเป็นสีเหลือง รสออกเปรี้ยวนิดๆ ขึ้นอยู่กับต้นบางต้นจะหวานอร่อย


หัวข้อ: Re: มารู้จัก...ผลไม้อีสานกำลังจะสูญพันธุ์
เริ่มหัวข้อโดย: คนโก้ ที่ 05 ตุลาคม 2554, 21:33:14
เด็กน้อยสมัยนี้ฮู้จักบักหม้อบ่ครับ หน่วยกลมซ่ำลูกปิงปอง สีดำ เนื้อในสีดำ รสหวานพอซ่ำหนึ่ง ผมมักแฮงกินแล้วดำติดแข่ว


หัวข้อ: Re: มารู้จัก...ผลไม้อีสานกำลังจะสูญพันธุ์
เริ่มหัวข้อโดย: tar ที่ 05 ตุลาคม 2554, 22:03:11
ลำต้นตรงเหง่ามันมีหนามจักหน่อยแม่นบ่ครับ แล้วหน่วยดิบมันเอามาตำกินกะได้แม่นบ่ครับ ข้างในมีเม็ดหลายๆแม่นบ่
จักแม่น ผลไม้ชนิดเดียวกันบ่ครับเนี่ย

http://sites.google.com/site/krupiyasr2/bak-hmx


หัวข้อ: Re: มารู้จัก...ผลไม้อีสานกำลังจะสูญพันธุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Kongkrapan ที่ 09 ตุลาคม 2554, 15:03:38
ลำต้นตรงเหง่ามันมีหนามจักหน่อยแม่นบ่ครับ แล้วหน่วยดิบมันเอามาตำกินกะได้แม่นบ่ครับ ข้างในมีเม็ดหลายๆแม่นบ่
จักแม่น ผลไม้ชนิดเดียวกันบ่ครับเนี่ย

http://sites.google.com/site/krupiyasr2/bak-hmx
Tae อุบลครับ หารวบรวมรูปไว้แหน่เด้อ ยังมีอีกเยอะ 1.บักน้ำเต้า ต้นมันเป็นผุ่มเฟียดิน หน่วยมัน เท่ากับ บักตาขบหนี่หล่ะ หน่วยดิบมันสีเขียว ส่วนหน่วยสุกสีแดง ออกลูกเป็นพวง กินแล่ว ฝาดๆหวานๆ บ่อเห็นโดนแล่ว 2.บักก้นคก เป็นพุ่มเตี้ย เกิดตามหม่องเดียวกันกับบักน้ำเต้านั่นหละ หน่วยมันขนาดพอๆกับบักหำเหมี้ย ลูกดิบมันสีเขียว ขั่นมันสุกแล่ว สิออกสีอมเหลืองๆหน่อยๆ กินแล่งสิออกฝาดๆหวานๆเด้อ บ่อฮู่ว่าสิยังพอมีให่เห็นบ่อ 3.เอ้อคึดออกแล่ว บักข่อย หน่วยมันสีเหลืองๆกะกินได้เด้อ
4. บักผอุง หรือ บักผดุง นี่หล่ะ หน่วยสุกมันสีดำ ต้นมันสูงเติบ  4.บักม่วงหัวแมงวัน ใบมันคือบักม่วง แต่หน่วยมันบ่อคือ หน่วยมันสุกแล่วสีดำ ใกล้เคียงกับบักหว่า กินแล่ว ส่มๆ หวาน แต่บ่อหวานหลาย ต้นสูงเติบ มดแดงฮ่ายหลาย กัดหม่องอื่นบ่อว่า 5. บักค่อ นี่คงยังมีให่เห็นอยู่ 6.บักหาด (บ่อแม่นบักต้องเด๊)ต้นมันสูงเอาการอยู่ หน่วยสุกมันสีเหลือง เปรี้ยวๆหวานนิด น่าจะยังเหลืออยู่ 7.บักหม่วย หน่วยมันคล้ายเม็ดถั่วลิสง แต่ใหญ่กว่าเติบหนึ่ง หน่วยแก่สีน้ำตาลเป็นขน ต้องเอามาขั่วกับทราย สุกแล้วแก๋ในมันออกมากิน มันจะออกมันๆ แต่ถ่ากินหลายๆมันสิคันคอ 
 พิมพิ์เหมื่อยแล่ว หารูปมาลงแน่เด้อ


หัวข้อ: Re: มารู้จัก...ผลไม้อีสานกำลังจะสูญพันธุ์
เริ่มหัวข้อโดย: vs12 ที่ 09 ตุลาคม 2554, 16:05:59
จัดไปครับ ผลไม้บ้านเฮา 018 018 018 019


หัวข้อ: Re: มารู้จัก...ผลไม้อีสานกำลังจะสูญพันธุ์
เริ่มหัวข้อโดย: deknoy ที่ 09 ตุลาคม 2554, 16:59:12
ชอบหมากสุดท้ายที่สุดเลยครับพี่

 018 018 018


หัวข้อ: Re: มารู้จัก...ผลไม้อีสานกำลังจะสูญพันธุ์
เริ่มหัวข้อโดย: เต้ อุบล ที่ 09 ตุลาคม 2554, 17:37:20
ลำต้นตรงเหง่ามันมีหนามจักหน่อยแม่นบ่ครับ แล้วหน่วยดิบมันเอามาตำกินกะได้แม่นบ่ครับ ข้างในมีเม็ดหลายๆแม่นบ่
จักแม่น ผลไม้ชนิดเดียวกันบ่ครับเนี่ย

http://sites.google.com/site/krupiyasr2/bak-hmx
Tae อุบลครับ หารวบรวมรูปไว้แหน่เด้อ ยังมีอีกเยอะ 1.บักน้ำเต้า ต้นมันเป็นผุ่มเฟียดิน หน่วยมัน เท่ากับ บักตาขบหนี่หล่ะ หน่วยดิบมันสีเขียว ส่วนหน่วยสุกสีแดง ออกลูกเป็นพวง กินแล่ว ฝาดๆหวานๆ บ่อเห็นโดนแล่ว 2.บักก้นคก เป็นพุ่มเตี้ย เกิดตามหม่องเดียวกันกับบักน้ำเต้านั่นหละ หน่วยมันขนาดพอๆกับบักหำเหมี้ย ลูกดิบมันสีเขียว ขั่นมันสุกแล่ว สิออกสีอมเหลืองๆหน่อยๆ กินแล่งสิออกฝาดๆหวานๆเด้อ บ่อฮู่ว่าสิยังพอมีให่เห็นบ่อ 3.เอ้อคึดออกแล่ว บักข่อย หน่วยมันสีเหลืองๆกะกินได้เด้อ
4. บักผอุง หรือ บักผดุง นี่หล่ะ หน่วยสุกมันสีดำ ต้นมันสูงเติบ  4.บักม่วงหัวแมงวัน ใบมันคือบักม่วง แต่หน่วยมันบ่อคือ หน่วยมันสุกแล่วสีดำ ใกล้เคียงกับบักหว่า กินแล่ว ส่มๆ หวาน แต่บ่อหวานหลาย ต้นสูงเติบ มดแดงฮ่ายหลาย กัดหม่องอื่นบ่อว่า 5. บักค่อ นี่คงยังมีให่เห็นอยู่ 6.บักหาด (บ่อแม่นบักต้องเด๊)ต้นมันสูงเอาการอยู่ หน่วยสุกมันสีเหลือง เปรี้ยวๆหวานนิด น่าจะยังเหลืออยู่ 7.บักหม่วย หน่วยมันคล้ายเม็ดถั่วลิสง แต่ใหญ่กว่าเติบหนึ่ง หน่วยแก่สีน้ำตาลเป็นขน ต้องเอามาขั่วกับทราย สุกแล้วแก๋ในมันออกมากิน มันจะออกมันๆ แต่ถ่ากินหลายๆมันสิคันคอ 
 พิมพิ์เหมื่อยแล่ว หารูปมาลงแน่เด้อ



ผมกะเกิดใหม่ใหญ่ลุนครับ ลางอันกะบ่ฮู้จักเด้อครับ พี่ๆท่านได๋ไผมีความรู้กะร่วมกันแสดงความคิดเห็นเด้อครับ ขอบคุณหลายๆครับ 017


หัวข้อ: Re: หมากผีผ่วน
เริ่มหัวข้อโดย: deknoy ที่ 20 พฤศจิกายน 2554, 08:39:30
ชื่อทั่วไป : นมควาย
ชื่ออื่น ๆ นมแมว(ภาษากลาง) นมวัว (พิษณุโลก กระบี่) พีพวน (อุดร) บุหงาใหญ่(ภาคเหนือ)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Uvaria rufa Bl.
วงศ์ : Annonaceae
ประเภท : ไม้เถา
ลักษณะวิสัย :
นมควายเป็นไม้พุ่มรอเลื้อยมีความสูง 5 เมตร กิ่งอ่อนมีขนละเอียดสีน้ำตาลแดง ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปวงรีหรือ รูปไข่ผิวใบมีขนสีน้ำตาลแดงทั้งสองด้าน กว้าง 2.5-3.5 ซม. ยาว 4.5-10 ซม. ดอกจะออกเป็นกระจุก 2-3 ดอก ที่กิ่งก้าน กลีบดอกสีแดงเข้ม กลิ่นหอม ผลเป็นผลกลุ่ม รูปไข่หรือรูปไข่กลับ เมื่อสุกมีสีแดงสด
การขยายพันธุ์ : เพาะเมล็ด
ประโยชน์ : แก่นและราก ต้มดื่ม แก้ไข้ซ้ำ ไข้กลับ เนื่องจากกินของแสลง ราก แก้ผอมแห้งแรงน้อย สำหรับสตรี ที่อยู่ไฟไม่ได้หลังคลอดบุตรและช่วยบำรุงน้ำนม ผล ตำผสมกับน้ำ ทาแก้เม็ดผดผื่นคัน

แถวบ้านที่หนองคายเรียก หมากผีพวน ครับ


หัวข้อ: Re: บักยางกก / บักยางต้น
เริ่มหัวข้อโดย: deknoy ที่ 20 พฤศจิกายน 2554, 08:40:13
หากินได้ช่วงหน้าแล้ง จะมีรสหวาน หอม แต่จะมียางสีขาวๆติดปาก อร่อยมากๆสมัยนี้หากินได้ยากแล้วครับ

แถวหนองคายเรียก หมากน้ำนมครับ


หัวข้อ: Re: มารู้จัก...ผลไม้อีสานกำลังจะสูญพันธุ์
เริ่มหัวข้อโดย: deknoy ที่ 20 พฤศจิกายน 2554, 08:48:34
หมากอันนี้เรียกว่า อืม... 021 021 021

บักห่า..จินเมิง.....
 001 001 001

(http://image.free.in.th/x/i/ir/image45ee_4c23b45b.jpg) (http://image.free.in.th/show.php?id=0431225e55f548931c4ac845d94d009a)


หัวข้อ: Re: มารู้จัก...ผลไม้อีสานกำลังจะสูญพันธุ์
เริ่มหัวข้อโดย: Kongkrapan ที่ 20 พฤศจิกายน 2554, 22:05:30
หมากน้ำเต้าครับ ถ่ายกับมือ มาฝาก


หัวข้อ: Re: มารู้จัก...ผลไม้อีสานกำลังจะสูญพันธุ์
เริ่มหัวข้อโดย: เต้ อุบล ที่ 20 พฤศจิกายน 2554, 22:07:50
ต้องระวังดีๆเด้อครับสำหรับไผที่บ่รุ เพราะมันสิมีผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่คล้ายๆกัน  018


หัวข้อ: Re: มารู้จัก...ผลไม้อีสานกำลังจะสูญพันธุ์
เริ่มหัวข้อโดย: พุทธาคม ที่ 21 พฤศจิกายน 2554, 09:11:10
เดินเข้าป่าผมชอบเก็บมากินครับ หวานดี


หัวข้อ: Re: มารู้จัก...ผลไม้อีสานกำลังจะสูญพันธุ์
เริ่มหัวข้อโดย: คนภูเขาร่มเงาธรรมมะ ที่ 27 พฤศจิกายน 2554, 01:30:36
หมากน้ำเต้าครับ ถ่ายกับมือ มาฝาก
บ้านข่อยเอิ้นหมากต้องแล่ง หามากก้นครก หมากปิด หมากส้มลม มาแหน่


หัวข้อ: Re: มารู้จัก...ผลไม้อีสานกำลังจะสูญพันธุ์
เริ่มหัวข้อโดย: สองแสนแสบ ที่ 27 พฤศจิกายน 2554, 11:08:19
ตะขบที่กรุงเทพฯมีอยู่ที่มหาวิทยาลัยเกษตร(แถวบ้านผม) เวลาขัยรถผ่าน บางทีผมก็จอดเก็บมากินเล่นเหมือนกันครับ 555+ หวานซะ 018 018