หลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทโร วัดนาอุดม อ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานี ?>
ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์แห่งภาคอีสาน
The Buddhist Art Conservation Club Of Esan (North Eastern Part Of Thailand)
24 เมษายน 2567, 10:23:07 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  

กติกาในการ เช่า-แลกเปลี่ยนพระเครื่อง | พระเครื่องเมืองอุบลราชธานี | แจ้งปัญหาการใช้งาน
แจ้งเรื่องการยืนยันตัวตนสำหรับผู้ที่จะให้เช่าพระเครื่องฯ | วิธีสมัครสมาชิกเว็บ

หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 9   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: หลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทโร วัดนาอุดม อ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานี  (อ่าน 235177 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
takker.09
Newbie
*

พลังน้ำใจ : 2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 1 : Exp 60%
HP: 0%



ดูรายละเอียด
« ตอบ #45 เมื่อ: 06 กันยายน 2554, 20:35:47 »

เสียดายเป็นคนอุบลแท้ๆๆบ่มีนำเพิ่น  ปี 2543-2546 ก็ทำงานในตัวจังหวัด กลับบ้านทีก็ไปทางตาลสุมบ้าง  ทางวาริน-พิบูลบ้าง ไม่รู้เรื่องกับเขาเลย เคยได้ก็หลวงปู่โทน รุ่นอีสานเขียวจากยาย  ญาทานสวนก็ได้ยินแต่ชื่อช่วงนั้นไม่ได้สะสม  หลวงปู่โชติ วัดภูเขาแก้วก็เรียนอยู่ข้างวัดนั่นแหละตั้ง 6 ปี ก็มีแต่ฟังเทศบางเวลา ตามแต่โรงเรียนจะนิมนต์ท่านมา  หลานของหลวงปู่โชติก็รุ่นเดียวกัน  เขาก็เอามาให้ดูอยู่สมัยนั้น พูดไปก็รำลึกถึงความหลัง สรุปแล้ว คิดได้กะสายเสียแล้ว เพราะตอนนี้มาเป็นเขยสกลนครแล้ว  กลับบ้านกะปีละสองครั้ง

บันทึกการเข้า
MaiUbon
Sr. Member
****

พลังน้ำใจ : 224
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 510

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 18 : Exp 30%
HP: 0%




ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #46 เมื่อ: 06 กันยายน 2554, 20:39:49 »

ยังไงก็สู้ ๆ ครับ ภาวนาขอท่านไม่แน่ครับอาจได้ดั่งใจหวัง 

บันทึกการเข้า
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
*****

พลังน้ำใจ : 634
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 982

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 25 : Exp 44%
HP: 0%



อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี

sabayd8861@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #47 เมื่อ: 07 กันยายน 2554, 01:35:24 »

ขอขอบพระคุณพี่ทหารจากนราธิวาสที่ส่งจดหมายมาขอเช่าบูชาพระของหลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทโร ครับ ..

วัตถุมงคลของหลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทโร ที่ตัวกระผมนำมาลงให้พี่ๆน้องๆสมาชิกเว๊ปได้ชมไม่ได้มีเจตนาจะปล่อยหรือให้เช่าบูชา

ที่ลงให้ชมเพื่อเผยแพร่เกียรติคุณของหลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทโร แห่งวัดนาอุดม ที่ตัวกระผมเคารพและเทิดทูน จึงแจ้งมา ณ ที่นี้ครับ ขอให้บารมีคุณ

พระศรีรัตนตรัย คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ และ หลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทโร ให้เหล่าทหารที่คอยปกป้องคุ้มครองดูแลชาติไทยของเราให้

ประสพแต่ความสุข ความเจริญ ก้าวหน้า ศัตรูที่คิดร้ายก็ขอให้แพ้ภัยตัวเองทุกๆคนไป.. ขอบคุณครับ ...
 

สาธุๆๆๆ ขอให้ทหารทุกท่านพบแต่ความสวัสดีมีชัยนะครับ...

บันทึกการเข้า
MaiUbon
Sr. Member
****

พลังน้ำใจ : 224
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 510

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 18 : Exp 30%
HP: 0%




ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #48 เมื่อ: 07 กันยายน 2554, 18:50:32 »

ปฏิปทา และศีลาจารวัตร

พระครูอาทรพัฒนคุณ (หลวงปู่ญาท่านสวน ฉนฺทโร) ท่านเป็นพระอริยสงฆ์ที่เปี่ยมล้นไปด้วยพลังแห่งความเมตตา
ออกโปรดญาติโยมและศิษยานุศิษย์ท้งหลายโดยไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย ท้อถอย ถึงแม้จะได้รับคำทัดทานจากลูกศิษย์ลูกหาว่า ขอให้หลวงปู่พักผ่อนดูแลสุขภาพของท่านเองบ้าง ท่านก็ได้แต่ยิ้มถึงแม้ท่านจะเจ็บป่วยท่านก็ไม่เคยแสดงให้ผู้อื่นที่มากราบท่านทราบ ท่านก็ยังคงสงเคราะห์ญาติโยมต่อไปไม่หยุดหย่อน จนลูกศิษย์เขียนป้ายห้ามรบกวนท่าน เพื่อต้องการให้ท่านพักผ่อนบ้าง เมื่อท่านเห็นท่านก็จะให้เอาออกทันที ท่านได้บอกกับลูกศิษย์ว่า บางคนเค้าอาจจะเดินทางมาไกล เขาอาจจะมีเรื่องเดือดร้อนให้เราช่วยเหลือ หรือเขาอาจจะต้องรีบกลับเพราะเขาอยู่ไกล ส่วนเราอยู่ที่นี่จะพักผ่อนเมื่อไรก็ได้นี่ ท่านสอนให้เรารู้จักเมตตา เห็นอกเห็นใจ ในเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน รู้จักเสียสละ ความสุขส่วนตัวไม่เห็นแก่ความสุขสบาย เพื่อสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน ท่านให้การสงเราะห์โดยไม่เลือกชั้นวรรณะ ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ท่านให้ความเสมอภาคเท่ากันหมด ไม่ว่าคนจน คนรวย เศรษฐีมั่งมี ยาจก เด็กหรือผู้ใหญ่ ท่านเต็มใจสงเคราะห์ให้ทั้งหมด
ท่านมีความเป็นอยู่อย่างสันโดษ สมถะ เรียบง่าย ประหยัด มัธยัสถ์ ใช้สิ่งของที่ญาติโยมนำมาถวายอย่างคุ้มค่า ไม่มีความยินดีในการเป็นอยู่อย่างสุขสบาย หากแต่มีความยินดีในความเป็นอยู่อย่างทุรกันดาร แบบชนบท ซึ่งเป็นการส่วนกระแสของโลกโลกาภิวัตน์ อันเป็นสังคมที่มีแต่การแข่งขัน พัฒนาการเทคโนโลยี เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้แก่โลกมนุษย์ เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดกิเลสของความไม่รู้จักพอเป็นโลกแห่การช่วงชิงอำนาจ เอารัดเอาเปรียบซึ่งกันและกัน จนทำให้โลกในขณะนี้ มีความสับสนวุ่นวาย เกิดภัยพิบัติทั้งปวง ก็อันสืบเนื่องมาจากตัวกิเลสอุปทาน ความยึดมั่นถือมั่นในตัวกู ของกู กอดรัดฟัดเหวี่ยงเอาไว้ไม่ยอมปล่อย...ไม่ยอมวาง...
ด้วยเหตุนี้หลวงปู่ญาท่านสวน ฉนฺทโร ท่านจึงรู้เท่าทันกิเลส ไม่ยอมลุ่มหลงอยู่ในความสุขสบาย หากแต่ต้องการอยู่ใกล้ชิดกับความทุกข์ยากลำบาก เพื่อเอาความทุกข์ยากลำบากมาเป็นเครื่องขัดเกลากิเลส เพราะท่านรู้ว่าสรรพสิ่งในโลกนั้นล้วนแต่เคลื่อนไปสู่ความเป็นอนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา ทุกสรรพสิ่งทั้งหลาย ในโลกนี้เคลื่อนไปสู่ความเสื่อมสลายในที่สุด ไม่ยึด ไม่ทุกข์ ไม่สุข สิ่งเหล่านี้ ละได้ย่อมสงบ ท่านเป็นพระเถระผู้มีความสงบ เรียบร้อย ในทุกอิริยาบถ ยืน เดิน นั่ง นอน แม้กระทั่งเวลาฉันเป็นผู้มีความนอบน้อม อ่อนโยน ถ่อมตน ไม่โอ้อวดดังคำที่ว่า


? ปราชญ์แท้ ไม่คุยฟุ้ง ไม่อวดตน ?


? คนดีย่อม ไม่ยกตน ข่มท่าน ?


? คนเก่ง ย่อมทะนงอยู่ อย่างเงียบ ?


? คนโง่ อวดรู้ดี มีทั่วภพ ?



ท่านเคย ปรารภว่า ?อย่างเรามันต้องเสือซ่อนเล็บ ไม่จำเป็นต้องโอ้อวดคนอื่นเขาหรอก....?
ท่านสอนคนให้รู้จักเสียสละเพื่อส่วนรวม เพื่อกำจัดความเห็นแก่ตัวต้องการให้ศิษยานุศิษย์ มีความรักใคร่สามัคคีปรองดองกัน ไม่อิจฉาริษยากัน ท่านสอนให้รู้จัก เป็นผู้มีอัธยาศัยไมตรีจิตที่ดี เอาใจใส่แขกญาติโยมผู้มาเยือนจะเห็นได้ว่า ถ้ามีญาติโยมมากราบท่าน ท่านจะลุกขึ้นไปหยิบเอาสาดเสื่อมาปูให้จัดหาน้ำหาท่า ผลหมากรากไม้ตามที่มีมาให้รับประทาน นับเป็นความอบอุ่นและความประทับใจ แก่ญาติโยมผู้มากราบท่านโดยทั่วหน้ากัน ท่านเป็นแบบอย่างของนักพัฒนา นักก่อสร้างสิ่งอันเป็นสาธารณประโยชน์เพื่อประกอบกิจในทางพระพุทธศาสนา ในวัดวาอารามต่างๆอย่างมากมาย ตามแต่สถานภาพของความจำเป็น เพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป แต่ท่านหาได้ยึดติดกับสิ่งเหล่านั้นไม่ หากแต่ท่านมีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติธรรม ปล่อยวางกับสิ่งที่เรียกว่าวัตถุ เพื่อแสวงหาความหลุดพ้น
ปฏิปทาที่กล่าวมาเหล่านี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งในช่วงประวัติของท่าน เมื่อท่านยังดำรงสังขารธรรมอยู่นั้น ท่านไม่ได้ตั้งตัวเป็นอาจารย์สอน ท่านไม่ได้สอนด้วยคำพูดแต่เป็นการสอนให้ด้วยการลงมือทำให้ดูให้เป็นตัวอย่าง
 

 

วาระแห่งการมรณภาพ

 

 

เมื่อช่วงปลายปี พ.ศ.2548 สุขภาพของหลวงปู่เริ่มอ่อนเพลียเพราะท่านฉันอาหารไม่ค่อยได้ ปลายเดือนมกราคม 2549 ท่านมีอาการปวดท้อง คณะศิษย์จึงได้นิมนต์ท่านไปโรงพยาบาล ปรากฏ
ว่าอาการป่วยของท่านเป็นลำไส้อุดตัน เมื่อรักษาจนอาการดีขึ้นแล้วคณะแพทย์จึงได้อนุญาตให้ท่านกลับวัดได้ ต่อมาเมื่อช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ท่านมีอาการอ่อนเพลียไม่มีเรี่ยวแรง เพราะท่านฉันอาหารไม่ได้คณะศิษย์จึงได้นิมนต์ท่านไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกครั้ง เมื่อรักษาจนอาการดีขึ้นแล้ว คณะแพทย์จึงอนุญาตให้ท่านกลับวัดได้ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2549 ต่อมาท่านผู้ว่าราชการจังหวัด นายสุธี มากบุญ ท่านทราบว่าหลวงปู่มีอาการอ่อนเพลียไม่ค่อยสบาย ท่านจึงได้มีคำสั่งให้คณะแพทย์โรงพยาบาลตาลสุม มาเฝ้าดูแลอาการของหลวงปู่ที่วัดนาอุดม ตลอด 24 ช.ม.

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2549 ท่านมีอาการอ่อนเพลียชีพจรเต้นอ่อนลง คณะแพทย์ผู้เฝ้าดูอาการ
จึงได้ตัดสินใจนำท่านไปรักษาอาการ ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ คณะแพทย์ต้องให้อาหารทางสายยางและใช้เครื่องช่วยหายใจ ไม่สามารถพลิกตัวเองได้

วันที่ 9 -10 -11-12 มีนาคม ท่านไม่มีอาการตอบสนอง(วันที่ 11 มี.ค.2549 คณะแพทย์ได้อนุญาตคณะผ้าป่าจากกรุงเทพฯเข้าเยี่ยมดูอาการหลวงปู่)
เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2549 เวลาช่วงประมาณบ่ายโมงท่านรู้สึกตัว ลืมตาขึ้นมองเพดานไปมา
ก็พอดีลูกศิษย์ที่เฝ้าอยู่มองเห็นอาการดีขึ้นและมีอาการตอบสนองยังมีสติสัมปชัญญะ เหมือนท่านพยายามบอกอะไรบางอย่างให้ลูกศิษย์ทราบ แต่มันติดอยู่ที่สายยางที่แพทย์สอดไว้ในปากของท่าน ลูกศิษย์ก็พากันดีอกดีใจและกราบเรียนท่านว่า หลวงปู่หายเร็วๆนะ จะได้พาหลวงปู่กลับวัด ท่านมองด้วยดวงตาที่ใสเป็นประกายพร้อมกับยักคิ้วให้ทั้ง 2 ข้างอย่างที่ท่านเคยยักคิ้วให้ลูกศิษย์ตอนที่ท่านยังดำรงสังขารตามปกติ ทำให้ลูกศิษย์ทุกคนที่ได้ทราบข่าวอาการของท่านดีขึ้น ก็พากันดีอกดีใจไปตามๆกัน แต่แล้วในเช้าวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ.2549 เวลา 6.30 นาฬิกา ซึ่งตรงกับวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ วังอังคาร (เป็นวันครูของท่าน) หลวงปู่ญาท่านสวน ได้ปล่อยวางสังขาร ด้วยอาการอันสงบยังความเศร้าโศกเสียใจและอาลัยอาวรณ์แก่ศิษยานุศิษย์ บัดนี้หลวงปู่ญาท่านสวนของเรา ผู้ซึ่งเปรียบเสมือนร่มโพธิ์ร่มไทรใหญ่ที่แพร่กิ่งก้านสาขา คอยปกคลุมให้ความชุ่มชื่น ร่มเย็น เป็นที่พักพิงแก่เหล่าสรรพสัตว์และศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย ท่านได้ปล่อยวางสังขารจากเราเสียแล้ว ท่านเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรที่ล้มด้วยอายุ กาลเวลาที่ตรากตรำ ทนแดดทนฝนมานาน ไม่ได้ล้มด้วยเพราะโรคาพยาธิเบียดเบียน เป็นการล้มไปตามกฎของธรรมชาติที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ เสื่อมโทรมและก็ดับไปเป็นธรรมดา ทุกสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกก็เป็นเช่นนี้เหมือนกันหมด ไม่มีใครได้รับอภิสิทธิ์ การยกเว้น ไม่มีเส้น ไม่มีสาย ไม่มีพวกเราพวกเขาทุกคนมีสิทธิ์และความเสมอภาคเท่าเทียมกันทั้งหมด แม้กระทั่งองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นศาสดาเอกของโลก เมื่อครั้งที่ท่านยังดำรงพระชนม์ชีพอยู่นั้น ท่านก็ปฏิบัติตนไปตามกฎของธรรมชาติ ท่านมิได้หลีกหนีความตาย ท่านเผชิญหน้ากับความตายอย่างองอาจ ท่านเป็นดั่งวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ ท่านได้เรียนรู้เรื่องธรรมชาติ เรื่องของโลก จนในที่สุดท่านก็รู้ทันธรรมชาติ รู้ทันโลก และท่านก็รู้วิธีการเอาชนะธรรมชาติเอาชนะโลก เป็นผู้อยู่เหนือโลก อยู่เหนือวัฏฏะสงสารท่านได้ตัดกิเลสอุปาทานจากขันธ์ 5 ตัดจากความยึดมั่นถือมั่น ซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งเครื่องพันธนาการผูกมัดชาวโลกทั้งหลายเป็นบ่อเกิดแห่งทุกข์ เมื่อท่านตัดกิเลส อุปาทานลงได้อย่างราบคาบแล้ว ท่านก็หาได้ตัดช่องน้อยแต่พอตัวไม่ท่านกลับมีความสงสารชาวโลก ที่ยังมีความโง่หลงงมงายนับเป็นพระมหากรุณาและเมตตาอันใหญ่หลวงที่พระองค์ท่านได้นำเอาธรรมะ ซึ่งพระองค์ท่านได้รู้แจ้งเห็นจริง นำมาเผยแผ่พร่ำสอน ชี้แนะให้แก่ชาวโลกเหล่าสาวก พุทธบริษัททั้งหลาย ได้มองเห็นโลกอันแท้จริง ดั่งที่ท่านมองเห็น เราอยู่กับโลกต้องเข้าใจในโลกมันเป็นเรื่องธรรมดาที่เหล่าศิษยานุศิษย์พึงแสดงความเศร้าโศกเสียใจอาลัยอาวรณ์ต่อการจากไปของหลวงปู่อย่างไม่มีวันกลับ ก็เนื่องจากว่าเมื่อครั้งท่านยังดำรงสังขารอยู่นั้นท่านได้ประกอบคุณงามความดีอันทรงคุณค่าทางธรรมอย่างมากมายมหาศาลมีความเมตตาต่อศิษยานุศิษย์เหมือนพ่อที่มีต่อลูกอย่างหาที่สุดไม่ได้ ด้วยคุณงามความดีและปฏิปทานี้แหละมันคือทรัพย์สมบัติอันมหาศาลที่ท่านได้ทิ้งไว้ให้พวกเราเหล่าศิษยานุศิษย์ทั้งหลายได้น้อมนำเอาไปประพฤติปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ต่อชีวิตต่อครอบครัว ต่อหน้าที่การงาน ต่อสังคมหลวงปู่ท่านมิได้หายไปไหน หลวงปู่ท่านยังสถิตอยู่ในหัวใจของศิษยานุศิษย์อยู่ตลอดเวลา สถิตตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้พบกับท่าน และจะสถิตต่อไปชั่วนิรันดร์
หลวงปู่ญาท่านสวน ฉนฺทโร สิริอายุได้ 95 ปี 6 เดือน 6 วัน 75 พรรษา


* 00169_0.jpg (52.01 KB, 400x599 - ดู 2207 ครั้ง.)

thxby2804เข้มขลังบุญรักษา
บันทึกการเข้า
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
*****

พลังน้ำใจ : 634
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 982

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 25 : Exp 44%
HP: 0%



อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี

sabayd8861@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #49 เมื่อ: 07 กันยายน 2554, 18:52:51 »

สาธุๆๆๆลูกขอกราบอารธานาปู่ญาท่านเด้อครับ..........

บันทึกการเข้า
MaiUbon
Sr. Member
****

พลังน้ำใจ : 224
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 510

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 18 : Exp 30%
HP: 0%




ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #50 เมื่อ: 07 กันยายน 2554, 18:56:20 »

ดูรอยยิ้มของท่านสิครับน้องเต้ .. เป็นรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาเพราะท่านไม่มีอะไรที่จะต้องกังวลอีกแล้ว นี่แหละคือพระอรหันต์ครับ 

บันทึกการเข้า
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
*****

พลังน้ำใจ : 634
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 982

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 25 : Exp 44%
HP: 0%



อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี

sabayd8861@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #51 เมื่อ: 07 กันยายน 2554, 19:09:20 »

เมื่อคราวที่หลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทโร ได้รับกิจนิมนต์ไปร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษกวัตถุมงคล
ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพฯ
เมื่อถึงกำหนดเวลา เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปกราบนิมนต์พระภิกษุสงฆ์ทุกรูป โดยมีหลวงปู่ญาท่านสวนนั่งอยู่ด้านหน้า
เจ้าหน้าที่ได้เดินนำหลวงปู่เข้าไปในพระอุโบสถ พระรูปที่สองที่เดินตามท่านมาก็คือ หลวงปู่ทิม อัตตสันโต วัดพระขาว จ.อยุธยา
ซึ่งท่านเป็นพระอริยสงฆ์ผู้ปฏิบัติปฏิบัติชอบที่ได้รับการกล่าวขานจากศานุศิษย์ว่าท่านเป็น "เทพเจ้าแห่งความเมตตา"
เจ้าหน้าที่ได้จัดอาสนะสำหรับพระที่มาร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกที่ระเบียงด้านขวา

เมื่อหลวงปู่ญาท่านสวนเดินไปถึงและเจ้าหน้าที่ได้กราบนิมนต์ท่านนั่งหัวแถวรูปแรก
แต่ท่านไม่ยอมขึ้น เจ้าหน้าที่กราบนิมนต์ท่านขึ้นนั่ง ๓-๔ ครั้ง ท่านก็ไม่ยอมขึ้น
ท่านยืนรอหลวงปู่ทิม ที่เดินตามท่านมา
เมื่อหลวงปู่ทิมเดินมาถึง หลวงปู่ญาท่านสวนจึงได้นิมนต์หลวงปู่ทิมขึ้นนั่งหัวแถวก่อน...
ส่วนหลวงปู่ทิมท่านก็ไม่ยอมขึ้นนั่ง.. ท่านนิมนต์ให้หลวงปู่ญาท่านสวนขึ้นก่อน...
ต่างคนต่างยิ้มให้เกียรติกันและกัน จนในที่สุดหลวงปู่ญาท่านสวนท่านจึงจำใจขึ้นนั่งก่อนและตามด้วยหลวงปู่ทิมเป็นรูปที่สอง

หลังจากเสร็จพิธีมหาพุทธาภิเษก
ลูกศิษย์ชาวกรุงเทพฯ ได้พากันถามหลวงปู่ทิมว่า "ทำไมหลวงปู่ไม่ขึ้นไปนั่งก่อน..ทำไมถึงให้หลวงปู่รูปนั้นขึ้นไปนั่งก่อนหลวงปู่
...ไม่รู้ว่าอยู่วัดไหน...พวกกระผมไม่เคยเห็นและไม่เคยรู้จัก"
หลวงปู่ทิมได้เมตตาตอบลูกศิษย์ของท่านว่า " จะให้เราไปนั่งก่อนพระอรหันต์ได้อย่างไรล่ะ ก็ต้องให้ท่านขี้นนั่งก่อนสิ"
บัดนี้ลูกศิษย์พวกนั้นคงจะได้ทราบชื่อหลวงปู่รูปนั้นว่า "หลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทโร" แห่งวัดนาอุดม อำเภอตาลสุม จ.อุบลราชธานี

thxby2807เข้มขลังบุญรักษา
บันทึกการเข้า
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
*****

พลังน้ำใจ : 634
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 982

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 25 : Exp 44%
HP: 0%



อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี

sabayd8861@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #52 เมื่อ: 07 กันยายน 2554, 19:10:42 »

ขออโหสิเด้อปู่.........พ่อผมว่าปู่ยิ้มหวานๆๆ...ครับ

บันทึกการเข้า
คนโก้
Global Moderator
*****

พลังน้ำใจ : 687
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 678

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 21 : Exp 12%
HP: 0%



"ทางไปสวรรค์มันฮก ทางไปนรกมันแปน"

ego-2519@hotmail.com
ดูรายละเอียด
« ตอบ #53 เมื่อ: 07 กันยายน 2554, 20:29:50 »

555  ยิ้มหลวงปู่สวนเฮาเปี่ยมไปด้วยเมตตาอิหลีครับ

บันทึกการเข้า

"ขุนผู้หาญคองเมืองจั่งเฮืองฮุ่ง  ขุนขี้ย่านคองบ้านบ่ฮุ่งเฮือง"
Agri_07
@หนุ่มสิงห์บางระจัน
Sr. Member
****

พลังน้ำใจ : 155
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 354

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 15 : Exp 23%
HP: 0%




ดูรายละเอียด
« ตอบ #54 เมื่อ: 07 กันยายน 2554, 21:08:42 »

ลูกของกราบนมัสการหลวงปู่ญาท่านสวน ฉนฺทโร สาธุ สาธุ สาธุ...


๙๙๙หนุ่มสิงห์บางระจัน๙๙๙   

บันทึกการเข้า

" คิดดี  ปฏิบัติดี  จะได้ดี "
MaiUbon
Sr. Member
****

พลังน้ำใจ : 224
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 510

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 18 : Exp 30%
HP: 0%




ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #55 เมื่อ: 15 กันยายน 2554, 13:25:06 »

เวลาที่ผมไม่มีอะไรทำเบื่อ ๆ เซ็ง ๆ ผมก็จะหันไปมองรูปของหลวงปู่ที่ผมมีทำให้ผมรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก อาจเป็นเพราะร้อยยิ้มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตาของท่าน ทำให้ผมแอบยิ้มในใจไม่ได้ว่าทำไมหลวงปู่ถึงยิ้มได้น่ารักขนาดนี้และมีเมตตาขนาดนี้

ปล.นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวผมนะครับ
   

thxby2964เข้มขลังบุญรักษา
บันทึกการเข้า
MaiUbon
Sr. Member
****

พลังน้ำใจ : 224
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 510

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 18 : Exp 30%
HP: 0%




ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #56 เมื่อ: 20 กันยายน 2554, 13:54:30 »

ลูกเข้ามากราบนมัสการหลวงปู่ครับ  

บันทึกการเข้า
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
*****

พลังน้ำใจ : 634
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 982

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 25 : Exp 44%
HP: 0%



อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี

sabayd8861@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #57 เมื่อ: 20 กันยายน 2554, 18:01:18 »

ขอเอาบุญนำแนเด้ออ้าย  ขอกราบปู่นำอีกคนครับ   

บันทึกการเข้า
aon-ubon
Sr. Member
****

พลังน้ำใจ : 202
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 219

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 11 : Exp 97%
HP: 0%



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #58 เมื่อ: 26 กันยายน 2554, 17:02:11 »

ใครพอรู้ประวัติตะกรุดหนังเสือโคร่ง ญาท่านสวนบ้างครับ ผมได้มาหนึ่งดอก อยู่ในหลอดยางครับ ไม่รู้ว่าใช่ของหลวงปู่หรือเปล่า

บันทึกการเข้า
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
*****

พลังน้ำใจ : 634
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 982

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 25 : Exp 44%
HP: 0%



อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี

sabayd8861@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #59 เมื่อ: 26 กันยายน 2554, 18:00:28 »

ประเพณีการทอดกฐินใกล้เข้ามาแล้ว ปีนี้คณะศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทโร จะเป็นเจ้าภาพกฐินสามัคคีเพื่อนำไปถวาย ณ วัดนาอุดม อุบลราชธานี ในวันอาทิตย์ ที่ 16 ตุลาคม 2554 โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้

1. นำปัจจัยไปดำเนินการก่อสร้าง "พระมหาธาตุเจดีย์ศรีอุบล วัดนาอุดม"
2. นำปัจจัยส่วนหนึ่งสมทบทุนการก่อตั้ง "มูลนิธิหลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทโร"

รายการวัตถุมงคลที่จะมอบให้เป็นที่ระลึกแด่ผู้ร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคีในครั้งนี้มีดังนี้

1. ประธานอุปถัมภ์ 10,000 บาท จะได้รับมอบวัตถุมงคลชุดพิเศษ (ทั้งหมด)

- พระกริ่งโปร่งฟ้า-ไถ้รัสสี (พระกริ่งร่ำรวย) จำนวน 1 องค์
- เหรียญบาตรน้ำมนต์ รูปหลวงปู่ญาท่านสวน จำนวน 1 เหรียญ
- เหรียญเสมาแก้วสารพัดนึก จำนวน 1 เหรียญ
- สมเด็จปรกโพธิ์ เนื้อผงพุทธคุณเปิดโลก จำนวน 1 องค์
- เหรียญขวัญถุง รุ่นร่ำรวย จำนวน 2 เหรียญ

รายการร่วมเป็นเจ้าภาพยังมีอีกหลายรายการนะครับ ลองเข้าไปดูที่บอร์ดพลังจิต
ลูกขอร่วมเผยแพร่บารมีปู่ญาท่านสวน ครับ 

บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 9   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.19 | SMF © 2006-2009, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!