......ผญาอีสาน...... ?>
ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์แห่งภาคอีสาน
The Buddhist Art Conservation Club Of Esan (North Eastern Part Of Thailand)
17 เมษายน 2567, 00:06:04 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  

กติกาในการ เช่า-แลกเปลี่ยนพระเครื่อง | พระเครื่องเมืองอุบลราชธานี | แจ้งปัญหาการใช้งาน
แจ้งเรื่องการยืนยันตัวตนสำหรับผู้ที่จะให้เช่าพระเครื่องฯ | วิธีสมัครสมาชิกเว็บ

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ......ผญาอีสาน......  (อ่าน 23307 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
*****

พลังน้ำใจ : 634
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 982

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 25 : Exp 44%
HP: 0%



อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี

sabayd8861@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2554, 22:04:45 »

คนอีสานมีคำคม สุภาษิตสำหรับสั่งสอนลูกหลานให้ประพฤติตนอยู่ในฮีตคอง (จารีต- ประเพณี) ไม่ออกนอกลู่นอกทาง คำคมเหล่านี้รู้จักกันทั่วไป ในชื่อ "ผญา" หมายถึง ปัญญา, ปรัชญา, ความฉลาด, คำภาษิตที่มีความหมายลึกซึ้ง (wisdom, philosophy, maxim, aphorism.)

ผะหยา หรือ ผญา เป็นคำภาษาอีสาน สันนิษฐานกันว่าน่าจะมาจากคำว่า ปรัชญา เพราะภาษาอีสานออกเสียงควบ "ปร" ไปเป็น ผ เช่น คำว่า เปรต เป็น เผต โปรด เป็น โผด หมากปราง เป็น หมากผาง ดังนั้นคำว่า ปรัชญา อาจมาเป็น ผัชญา แล้วเป็น ผญา อีกต่อหนึ่ง


สนับสนุนให้ IsanGate อยู่รับใช้ท่านตลอดไป ด้วยการคลิกแบนเนอร์ไปเยี่ยมผู้สนับสนุนของเราด้วยครับ
ปัญญา ปรัชญา หรือผญา เป็นกลุ่มภาษาเดียวกัน มีความหมายคล้ายคลึงกัน ใกล้ เคียงกันหรือบางครั้งใช้แทนกันได้ ซึ่งหมายถึง ปัญญา ความรู้ ไหวพริบ สติปัญญา ความเฉลียว ฉลาดปราชญ์เปรื่อง หรือบางท่านบอกว่า ผญา มาจากปัญญา โดยเอา ป เป็น ผ เหมือนกับ เปรต เป็น เผด โปรด เป็น โผด เป็นต้น ผญาเป็นลักษณะแห่งความคิดที่แสดงออกมาทางคำพูด ซึ่งอาจ จะมีสัมผัสหรือไม่ก็ได้

ผญา คือ คำคม สุภาษิต หรือคำพูดที่เป็นปริศนา คือฟังแล้วต้องนำมาคิด มาวิเคราะห์ เพื่อค้นหาคำตอบที่เป็นจริงและชัดเจนว่า หมายถึงอะไร
ผญา เป็นคำพูดที่คล้องจองกัน ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องมีสัมผัสเสมอไป แต่เวลาพูดจะ ไพเราะสละสลวย และในการพูดนั้นจะขึ้นอยู่กับจังหวะหนักเบาด้วย
ผญา เป็นการพูดที่ต้องใช้ไหวพริบ สติปัญญา มีเชาวน์ มีอารมณ์คมคาย พูดสั้นแต่กิน ใจความมาก
การพูดผญาเป็นการพูดที่กินใจ การพูดคุยด้วยคารมคมคาย ซึ่งเรียกว่า ผญา นั้น ทำให้ผู้ฟังได้ทั้งความรู้และความคิดสติปัญญา ความสนุกเพลิดเพลิน ยิ่งไปกว่านั้น ยังทำให้เกิด ความรักด้วย จึงทำให้หนุ่มสาวฝนสมัยก่อน นิยมพูดผญากันมาก และการโต้ตอบเชิงปัญญาที่ทำ ให้แต่ละฝ่ายเฟ้นหาคำตอบ เพื่อเอาชนะกันนั้นจึงก่อให้เกิดความซาบซึ้ง ล้ำลึกสามารถผูกมัด จิตใจของหนุ่มสาวไม่น้อย ดังนั้น ผญา จึงเป็นเมืองมนต์ขลัง ที่ตรึงจิตใจหนุ่มสาวให้แนบแน่น ลึกซึ้งลงไป

ภาษิตโบราณอีสานแต่ละภาษิตมีความหมายลึกบ้าง ตื้นบ้าง หยาบก็มี ละเอียด ก็มี ถ้าท่านได้พบภาษิตที่หยาบ ๆ โปรดได้เข้าใจว่า คนโบราณชอบสอนแบบตาเห็น ภาษิตประจำ ชาติใด ก็เป็นคำไพเราะเหมาะสมแก่คนชาตินั้น คนในชาตินั้นนิยมชมชอบว่าเป็นของดี ส่วนคน ในชาติอื่น อาจเห็นว่าเป็นคำไม่ไพเราะเหมาะสมก็ได้ ความจริง "ภาษิต" คือรูปภาพของวัฒนธรรม แห่งชาติ นั่นเอง

การจ่ายผญา หรือการแก้ผญา
การจ่ายผญา แก้ผญา เว้าผญา หรือพูดผญา คือการตอบคำถาม ซึ่งมึผู้ถามมาแล้ว ก็ตอบไป เป็นการพูดธรรมดา ไม่มีการเอื้อนเสียง ไม่มีทำนอง แต่เป็นจังหวะ มีวรรคตอนเท่านั้น ผู้ถามส่วนใหญ่จะเป็นหมอลำฝ่ายชาย คือลำเป็นคำถาม ฝ่ายหญิงจะเป็นฝ่ายตอบ หรือจ่ายผญา ด้วยเหตุนี้จึงมักจะเรียกว่า ลำผญา หรือลำผญาญ่อย เช่น

      (ชาย) ..... อ้ายนี้อยากถามข่าวน้ำ ถามข่าวถึงปลา อยากถามข่าวนา ถามข่าวถึงเข้า (ข้าว) อ้ายอยากถามข่าวน้อง ว่ามีผัวแล้วหรือบ่ หรือว่ามีแต่ชู้ ผัวสิซ้อนหากบ่มี
      (หญิง) ..... น้องนี้ปอดอ้อยซ้อยเสมอดังตองตัด พัดแต่เป็นหญิงมา บ่มีชายสิมาเกี้ยว พัดแต่สอนลอนขึ้น บ่มีเครือสิเกี้ยวพุ่ม พัดแต่เป็นพุ่มไม้เครือสิเกี้ยวกะบ่มี
หมอผญาที่ควรกล่าวถึงในที่นี้ คือ แม่ดา ซามงค์ แม่สำอางค์ อุณวงศ์ แม่เป๋อ พลเพ็ง แม่บุญเหลื่อม พลเพ็ง แห่งบ้านดอนตาล อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร เป็นต้น

การลำและจ่ายผญา ในสมัยโบราณนั้นจะนั่งกับพื้น คือ หมอลำ หมอผญาและหมอแคน จะนั่งเป็นวง ส่วนผู้ฟังอื่น ๆ ก็นั่งเป็นวงล้อมรอบ หมอลำบางครั้งจะมีการฟ้อนด้วย ส่วนผู้จ่ายผญา จะไม่มีการฟ้อน ในบางครั้งจะทำงานไปด้วยแก้ผญาไปด้วย เช่น เวลาลงข่วง หมอลำชายจะลำ เกี้ยว ฝ่ายหญิงจะเข็นฝ้ายไปแก้ผญาไป นอกจากหมอลำ หมอแคนแล้ว บางครั้งจะมีหมอสอยทำ การสอยสอดแทรกเป็นจังหวะไป ทำให้ผู้ฟังได้รับความสนุกสนาน การจ่ายผญาในครั้งแรก ๆ นั้น เป็นการพูดธรรมดา ไม่มีการเอื้อนเสียงยาว และนั่งพูดจ่ายตามธรรมดา ต่อมาได้มีการดัดแปลง ให้มีการเอื้อนเสียงยาว มีจังหวะและสัมผัสนอกสัมผัสในด้วย ทำให้เกิดความไพเราะ และมีการเป่า แคนประกอบจนกลายมาเป็น "หมอลำผญา" ซึ่งพึ่งมีขึ้นประมาณ 30-40 ปีมานี้

เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไปการพัฒนาของการจ่ายผญาจึงมีมากขึ้น จากการนั่งจ่ายผญา ซึ่งมองกันว่าไม่ค่อยถนัดและไม่ถึงอกถึงใจผู้ฟัง (ด้วยขาดการแสดงออกด้านท่าทางประกอบ) จึงมีการเปลี่ยนมาเป็นยืนลำ ทำให้มีการฟ้อนประกอบไปด้วย จากดนตรีประกอบที่มีเพียง แคน ก็ได้นำเอากลอง ฉิ่ง ฉาบ และดนตรีอื่น ๆ เข้ามาประกอบ จากผู้แสดงเพียง 2 คนก็ค่อย ๆ เพิ่มเป็น 3, 4 และ 5 คน จนมารวมกันเป็นคณะ เรียกว่า คณะหมอลำผญา บางคณะได้มีหางเครื่องเข้ามา ประกอบด้วย

ความทวย (ปริศนาคำทาย)
ความทวย ในภาษาอีสาน จะมีความหมายตรงกับ ปริศนาคำทาย ในภาษากลาง เป็นวิธีการสอนลูกหลานให้มีความคิด เชาว์ปัญญา ไหวพริบปฏิภาณเฉียบแหลม ประกอบกับการเล่านิทานที่มีคติสอนใจ ในสมัยก่อนนั้น คนบ้านนอกในภาคอีสานยังไม่มีวิทยุ โทรทัศน์ สิ่งบันเทิงที่พอมีคือการเล่านิทานชาดกของคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้าน ในขณะที่คนแก่ก็จะได้ความสุขใจมาจากการฟังเทศน์ฟังธรรมจากวัด

ช่วงเย็นหลังอาหารค่ำก็จะเป็นช่วงเวลาของเด็กๆ หนุ่มสาว จะได้ฟังนิทานชาดก นิทานพื้นบ้านกัน หลังการเล่านิทานก็จะมีการถามปัญหา หรือ ความทวย ผู้ใดสามารถตอบได้ก็จะได้รับรางวัลเป็นผลไม้ กล้วย อ้อย ตามฤดูกาล ตัวอย่างความทวย เช่น

ความทวย สุกอยู่ดิน กากินบ่ได้ สุกอยู่ฟ้า กายื้อบ่เถิง ไผว่าแม่นหยัง?
ความแก้ ลูกหลานก็จะคิดหาความแก้ ถ้าใครแก้ได้ท่านก็ให้รางวัลดังกล่าว แล้วความแก้หรือคำตอบนี้ก็คือ "ดวงตะวัน" และ "กองไฟ"

บันทึกการเข้า
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
*****

พลังน้ำใจ : 634
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 982

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 25 : Exp 44%
HP: 0%



อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี

sabayd8861@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2554, 22:10:17 »

คันได้กินลาบซิ้นอย่าลืมแจ่วแพวผัก ได้กินพาเงินพาคำอย่าลืมกระเบียนฮ้าง
คันเจ้าได้อยู่ยอดฟ้าผาสาทประดับมุข อย่าได้ลืมเฮียมทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า
คันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า
คันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มสัปทน อย่าได้ลืมคนจนผู้แห่นำตีนซ้าง

ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้วก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง
ลาบซิ้น = ลาบเนื้อ,   แจ่ว = น้ำพริกปลาร้า,   แพวผัก = ผักข้างรั้ว,   พาเงินพาคำ = ภาชนะเงิน,ทองคำ
กระเบียนฮ้าง = กระด้งผุๆ,   กั้งฮ่ม = กางร่ม,   สัปทน = ร่มผ้าสีแดง เป็นเครื่องยศของขุนนาง
 
เกลี้ยงแต่นอกทางในเป็นหมากเดื่อ หวานนอกเนื้อในส้มดั่งหมากนาว
เกลี้ยงปากทางไหทางในเป็นปลาแดก เกลี้ยงปากบั้งขังข้อปากกะทอ
เกลี้ยงฮอดใบ ใสฮอดลูก เกลี้ยงฮอดเข้าปลูก เกลี้ยงฮอดเข้าปัดลาน

 
กาบ่มักท่าน้ำสมุทรหลวงกะบ่ว่า กาบ่มักท่าน้ำกะตามถ้อนช่างกา
กินแกงแข้คางกะแจปากบ่ลั่น กินกะท้างคางกระด้างปากบ่เป็นชั้นบ้อ

 
เก้าสิฆ่าสิบสิฆ่าให้เอาแก่นคะยูงตี อย่าได้เอาบาลีต่อยตีตางฆ้อน
จะฆ่าให้ตายก็ฟาดด้วยไม้เนื้อแข็ง อย่าตีด้วยความรู้เลย
 
เก้าสิฆ่าสิบสิฆ่าให้เอาแก่นคะยูงตี มาซ่างเอาหัวใจตีเน่านูมในเนื้อ
ตายกะบ่ตายแท้พอทรงวิบาก อยากกะกินบ่ได้คาแค้นคั่งทวง
ขอให้หาหมอส้องทำขวัญให้แน่ จั่งสิหายพยาธิฮ้ายคายส้องบ่ให้เสีย

จะฆ่าให้ตายก็ฟาดด้วยไม้เนื้อแข็ง อย่าตีด้วยความรักความสงสารเลย
 
ใจประสงค์สร้าง กลางดงกะว่าท่ง ใจขี้คร้าน กลางบ้านกะว่าดง
ถ้าใจสู้ (ขยัน) อยู่กลางป่าดงก็เหมือนกลางทุ่ง ถ้าเกียจคร้านแม้อยู่กลางหมู่บ้านก็เหมือนในกลางป่า
ท่ง = ทุ่ง, ทุ่งนา
 
ใจบ่โสดาด้วยเว้าแม่นกะเป็นผิด ใจบ่โสดาดอมเว้าดีกะเป็นฮ้าย
แม้นไม่สบอารมณแล้วจะพูดอย่างไรก็ไม่มีทางถูกใจได้
โสดา = ยินดี, พอใจ,   เว้าแม่น = พูดถูกต้อง (ด้วยเหตุและผล),  เว้าดี = พูดด้วยดีๆ,   ฮ้าย = ร้าย
 
ตีเจ็บแล้วแสนสิออยกะปานด่า แม่นว่าเว้าจ้อยจ้อยกะปานไม้แดกตา
เมื่อถูกตีเจ็บแล้วจะปลอบประโลมปานใดก็ไม่หายเจ็บ
ออย = ปลอบ,   เว้าจ้อยจ้อย = พูดฉอเลาะด้วยคำหวาน,   แดกตา = ทิ่มตา
 
อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี
อย่าได้ลืมญาติพี่น้องของตัวเอง ไปยกย่องว่าผู้อื่นดีกว่า
สุไลเลียถิ้ม = ลืมเลือนไม่นึกถึง,   สุละ = ทอดทิ้ง,   ย่อง = ยกย่อง
 
เชื้อชาติแฮ้ง เหม็นสาบกันเอง ปูสอนปูให้ย่างตรง ห่อนฤสิทำได้
ตัวอย่างที่เลวหรือจะทำให้ผู้อื่นทำดีได้
แฮ้ง = แร้ง,   ย่าง = เดิน
 
หญิงฮูปฮ้าย ครองวัตรพางาม ชายฮูบทราม วิชาพาฮุ่ง
หญิงแม้รูปชั่ว แต่จริยาวัตรทำให้งดงามได้ ชายแม้รูปทราม วิชาติดตัวก็ส่งให้เจริญรุ่งเรืองได้
ฮูปฮ้าย = รูปไม่งาม,   ครองวัตร = จริยาวัตร, การกระทำ,   ฮูปทราม = รูปชั่วตัวดำ,   ฮุ่ง = เจริญรุ่งเรือง
 
ความตายนี้แขวนคอทุกบาดย่าง ไผก็แขวนอ้อนต้อน เสมอด้ามดังเดียว
ความตาย ติดตามเหมือนเงาตามตัว ไม่มีผู้ใดหลุดพ้น
บาดย่าง = ทุกย่างก้าว,   ไผ = ใคร,   อ้อนต้อน = คอน, แขวน (สิ่งของขนาดเล็ก)
 
ไปหาพระให้เอาของไปถวาย ไปหานายให้เอาของไปต้อน
ต้อน = ต้อนรับ
 
เดินทางบ่อสุดเส้น อย่าถอยหลังให้เขาเหยียบ ตายขอให้ตายหน้าพุ้นเขาสิเอิ้นว่าหาญ
นักสู้ต้องสู้ไม่ถอยให้ตายอย่างวีรบุรุษ
บ่อสุดเส้น = ไม่ถึงที่หมายปลายทาง,   สิเอิ้น = เรียก,   หาญ = กล้าหาญ
 
คนผู้มีความฮู้ ซูซีเฮ็ดบ่แหม่น ความฮู้มีท่อแผ่นฟ้า เป็นบ้าท่อแผ่นดิน
มีความรู้ท่วมหัวแต่เอาตัวไม่รอด
ความฮู้ = ความรู้,   ซูซีเฮ็ดบ่แหม่น = ทำไม่ถูกต้อง,   ท่อ = เท่า
 
ให้เจ้าคอยเพียรสร้าง เสมอแตนแปงซ่อ ให้สร้างก่อสืบไว้ เสมอเผิ้งสืบฮัง
ให้ขยันสร้างตัวเหมือนผึ้งสร้างรัง
แตน = แมลงคล้ายผึ้ง,   แปงซ่อ = สร้างรัง (ช่อ),   เผิ้ง = ผึ้ง,   สืบฮัง = สร้างรัง
 
การงานนี้ อุปสรรคแสนหมู่ เกิดเป็นคนต้องสู้ อย่าถอยร่นหลีกหนี
เกิดเป็นคนต้องหนักเอาเบาสู้
 
บุญ บุญนี้บ่แหม่นของแบ่งได้ ปันแจกกันแหล่ว บ่อห่อนแยกออกได้ คือไม้ผ่ากลาง
คือจั่งเฮากินข้าว เฮากินเฮาอิ่ม บ่แหม่นไปอิ่มท้อง เขาพุ้นผู้บ่กิน

บุญ ผู้ใดสร้างผู้นั้นได้รับ ไม่สามารถแบ่งปันได้เหมือนสิ่งของ เหมือนข้าวผู้ใดกินผู้นันอิ่ม
บ่แหม่น = ไม่ใช่,   บ่ห่อน = ไม่สามารถ,   พุ้น = โน้น
 
ไผผู้เฮียนฮ่ำฮู้ วิชาปราชญ์ทางใด ก็ให้มีใจจด เผิ่งวิชาที่ตนฮู้
เรียนรู้ให้เชี่ยวชาญเป็นวิชาเลี้ยงตัว
ไผ = ผู้ใด,   เฮียนฮ่ำฮู้ = เรียนรู้,   เผิ่ง = พึ่ง,   ฮู้ = รู้
 
ขอให้อดสาสู้ เพียรไปให้ถืกป่อง คุณอาจารย์ยกใส่เกล้า คนิงไว้อย่าสิลืม
อดทนสู้ในสิ่งที่ถูกต้อง ยกย่องคุณอาจารย์
อดสาสู้ = อดทนสู้,   ถืกป่อง = ถูกทาง,   คนิง = คนึง
 
ให้เจ้าเอาความฮู้ หากินในทางชอบ ความฮู้มีอยู่แล้ว กินได้ชั่วชีวัง
มีความรู้อยู่กับตัวหากินอย่างสุจริตได้ชั่วชีวิต
ความฮู้ = ความรู้,  ชั่วชีวัง = ชั่วชีวิต
 
คันว่าได้ดีแล้ว อย่าลืมคุณพ่อแม่ เผิ่นหากเลี้ยงแต่น้อย ถนอมให้ใหญ่สูง
ได้ดีแล้วอย่าลืมบุพการี
คันว่า = ถ้า,   เผิ่น = ท่าน
 
ตกกะเทินว่าได้เฮียนแล้ว สิเฮียนเหมิดสู่ซ่อง เฮียนให้เผิ่นได้ย่อง เหมิดถ้วนคู่สู่แนว
มีโอกาสได้เรียนแล้วต้องเรียนให้รู้จริงทุกอย่าง
ตกกะเทิน = ถลำตัว,   เฮียน = เรียน,   เหมิดสู่ซ่อง = หมดทุกด้าน,   ย่อง = ยกย่อง,   เหมิดถ้วนคู่สู่แนว = หมดทุกด้าน
 
ตกกะเทินว่าได้สู้ บ่ถอยหลังให้เขาว่า นับแต่มื้อสิก้าวไปหน้า บ่ถอย
เมื่อได้สู้แล้วไม่มีถอยให้ใครดูถูกได้
 
ฝนตกยังฮู้เอื้อน นอนกลางคืนยังฮู้ตื่น ความทุกข์ยังฮู้เตื้อง มีขึ้นเมื่อลุน
ฝนตกยังซาได้ นอนหลับยังรู้ตื่น ความทุกข์ก็มีโอกาสกลายเป็นสุขในวันข้างหน้า (ถ้าพยายาม)
เอื้อน = หยุด (ฝนซา),   เตื้อง = กระเตื้อง,   ลุน = วันข้างหน้า
 
คำสอนพ่อแม่นี้หนักเกิ่งธรณี ผู้ใดยำเยงนบหากสิดีเมือหน้า
ผู้ใดเคารพคำสั่งสอนพ่อแม่จะเจริญก้าวหน้า
เกิ่ง = ก้ำกึ่ง,   ยำเยง = ยำเกรง,   สิดี = เจริญ,   เมือหน้า = ภายหน้า
 
ยามยังน้อยให้หมั่นฮู้เฮียนคุณ บุญเฮามีสิยศสูงเพียงฟ้า
 
ได้ขึ้นเฮือแล้ว อย่าลืมแพป้องไม้ไผ่ ได้เป็นใหญ่แล้ว อย่าลืมข้าผู้พลอย
 
ชาติที่เงินคำแก้ว มันบ่แหม่นของไผ ผู้ใดมีใจเพียร หากสิหลงหลอนพ้อ
 
ไผผู้มัวเมาคร้าน การงานตั้งต่อ บ่มีวันสิพบพ้อ เงินล้านค่าแพง
 
ชื่อว่าโลกีย์กว้างเมืองคนมันบ่เที่ยง มันหากเงี่ยงซ่อยง่อยคือค่อยตลิ่งของ
ลางเทื่อแนวเด็กน้อยสอนคนหัวด่อน ลางเทื่อลุกไพร่บ้านสอนท้าวพ่อพญา ก็มี

โลกนี้ไม่เที่ยงหนอ วันนี้ลูกหลานอาจสอนพ่อแม่ พ่อเมืองยังต้องเชื่อชาวบ้าน
 
ชื่อว่าแนวเด็กน้อย ตากอความคึดหม่อ ได้กอขอข้อหล่อ ความเว้าผัดอยู่ดาว
เด็กน้อยมีความฮู้สองสามความมันก็อ่ง ผู้ใหญ่ฮู้ตั้งล้านก็อำไว้บ่ค่อยไข

ความรู้มีเพียงน้อยนิด อย่าหยิ่งผยองอวดรู้
 
ชื่อว่าแนวความเว้าของคนมันเกินง่าย   ได้เทิงหงายและคว่ำความเว้าบ่อยู่ความ
เขาฮักเขาก็ย่อง เขาซังเขาก็ว่า   คือดั่งบักเค้าเม้า หมาเฒ่าเห่าแต่เขา
คันเฮาทำดีแล้ว เขาซังก็ตามซ่าง   คันเฮาเฮ็ดแม่นแล้ว หยันหย่อก็ซ่างเขา
เขาสิพากันท้วง ทั้งเมืองก็บ่เงี่ยง   เขาสิติทั้งค่าย ขายหน้าก็บ่อาย
 
ขุดดินดั้นประสงค์หาแต่บ่อนกิ่ว แนวสิ่วไม้ประสงค์ไง้แต่บ่อนบาง

บันทึกการเข้า
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
*****

พลังน้ำใจ : 634
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 982

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 25 : Exp 44%
HP: 0%



อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี

sabayd8861@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2554, 22:13:20 »

คำว่า "ทวย" ในภาษาของคนภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือคนอีสาน มีความหมายเป็น 2 อย่าง ทั้งเป็นปริศนาหรือปัญหา และเป็นทั้งคำทำนายหรือคำแก้ ทั้งนี้แล้วแต่สถานะที่ใช้ เช่น

ความหมายที่เป็นคำปริศนาหรือปัญหา เช่น นาย ก. เป็นเพื่อนรักกับ นาย ข. ตอบหรือแก้นาย ก. จะว่า
          "ข. กูสิทวยมึง (ฉันจะตั้งปัญหาถามแก) มึงสิแก้ได้บ่หมอ (เอ็งจะแก้ได้ไหมเพื่อน?)" นาย ข. ก็จะพูดว่า "มึงลองทวยมาเบิ่ง (เอ็งลองตั้งคำถามมาดู) กูสิแก้ (ฉันจะตอบ)"
          ให้พึงสังเกตให้ดีว่า คำว่า "ทวย" ที่เป็นลักษณะของปริศนาหรือปัญหานี้ ท่านจะใช้กับคำพูดที่ไม่มีสิ่งของให้ดู ถ้าจะเรียกว่า เล่นเชาว์ปัญญากันก็ไม่น่าจะผิด

ตัวอย่าง ความหมาย ทวย ที่เป็นปริศนาหรือปัญหา

ผู้อยู่โคกปั้นถ้วย เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ   มดลิ้น (มันทำรู มันขนดินมาวางไว้เรียงรายรอบรู มีขอบสูงเหมือนถ้วย แต่ความจริงไม่มีมดลิ้นทำรูในขณะที่ถามกัน

ผู้อยู่ห้วยสานมอง เจ้าว่าแม่นหยัง?
คำตอบ แมงย่างชิ้น (แมงมุมป่าชนิดหนึ่ง ตัวใหญ่ยาวชอบทำตาข่ายขึงดักอาหารระหว่างต้นไม้กับต้นไม้) ในขณะที่ถามปัญหากันก็ไม่มีแมลงที่ว่านั้นเลย




บันทึกการเข้า
คนโก้
Global Moderator
*****

พลังน้ำใจ : 687
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 678

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 21 : Exp 12%
HP: 0%



"ทางไปสวรรค์มันฮก ทางไปนรกมันแปน"

ego-2519@hotmail.com
ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2554, 09:12:10 »

นี่หล่ะครับทีเด็ดอีสานบ้านเฮา ทั้งธรรมปรัชญา วิถี  ภูมิปัญญา  มาฮ้อยเป็นผญาคารมณ์ คมจับจิตจับใจ ยอดเยี่ยมครับ

บันทึกการเข้า

"ขุนผู้หาญคองเมืองจั่งเฮืองฮุ่ง  ขุนขี้ย่านคองบ้านบ่ฮุ่งเฮือง"
บ่หัวซาผีบ้าเดินดิน
ยิ้มเย้ยยุทธจักร
Administrator
*****

พลังน้ำใจ : 1197
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1328

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 29 : Exp 61%
HP: 0.1%



จงเป็นดั่งผีบ้าแล้วท่านจะปราศจากความทุกข์

ubonbc@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2554, 13:05:22 »

ที่แหละครับ เอกลักษณ์ของอีสานเฮา

บันทึกการเข้า

ราคาพระคือการอุปทานหมู่ของมนุษย์ ศรัทธาต่างหากที่จะอยู่คู่กับเราตลอดไป
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
*****

พลังน้ำใจ : 634
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 982

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 25 : Exp 44%
HP: 0%



อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี

sabayd8861@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2554, 13:18:00 »

"อย่าสุไลลืมทิ้มพงศ์พันธุ์พี่น้องเก่า
อย่าสุละเซื้อเหง้าหาญ้องผู้อื่นดี
เพิ่นว่าไทไกลนี้เจงเลงน้ำแจ่วข่า
บ่ท่อใสจิ่งหลิ่งไทใกล้น้ำแจ่วขิ่ง
เพิ่นว่าสิ่งของนี้บ่ขัดสีปัดเป่า
อีกบ่โดนกะสิเศร้าเสียค่าของแพง
ให้ค่อยแหย่งเอาไว้ของไทเฮาซาวอีสาน
ฮีตเก่าของโบราณอย่าพาลข้ามทิ้มเสีย ซั่นแล้ว"
 
 

บันทึกการเข้า
หนองเหล่า
Jr. Member
**

พลังน้ำใจ : 35
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 85

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 7 : Exp 43%
HP: 0%



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2554, 13:39:09 »

ไม่ได้ฟัง 017มานานแล้ว ต้องขอขอบพระคุณทุกท่าน ที่หามาให้อ่าน และชื่นชมครับ

บันทึกการเข้า
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
*****

พลังน้ำใจ : 634
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 982

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 25 : Exp 44%
HP: 0%



อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี

sabayd8861@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2554, 13:43:53 »

คนอีสานเฮานี้ให้ฮักแพงกันไว่คือข้าวเหนียวนึ่งใหม่
อย่าสิเพแตกม่างคือน้ำถืกข้าวเหนียว 

 

บันทึกการเข้า
คนโก้
Global Moderator
*****

พลังน้ำใจ : 687
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 678

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 21 : Exp 12%
HP: 0%



"ทางไปสวรรค์มันฮก ทางไปนรกมันแปน"

ego-2519@hotmail.com
ดูรายละเอียด
« ตอบ #8 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2554, 06:02:12 »

ผญาอีสานยังแบ่งเป็นรูปแบบต่างๆอีกครับ ทั้งกาพย์  โคลง  กลอน  ร่าย  นักปราชญ์บ้านเราที่ชำนาญเชี่ยวชาญด้านนี้ที่โดดเด่นคือ  พระอุบาลีคุณูปมาจารย์  (จันทร์  สิริจันโท)  ผลงานที่โดดเด่นเช่นสิริจันโทวาทยอดคำสอน  กาพย์ปู่สอนหลาน  กาพย์หลานสอนปู่  กาพย์พระมุนี  กาพย์พระเวสสันดร เป็นต้นhttp://www.isarngointer.org/forums/%E0%B8%9C%E0%B8%8D%E0%B8%B2-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%8D%E0%B8%B2-%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%A2/3433-%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%AE%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%9C%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99.html

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03 พฤศจิกายน 2554, 06:11:09 โดย ego2519 » บันทึกการเข้า

"ขุนผู้หาญคองเมืองจั่งเฮืองฮุ่ง  ขุนขี้ย่านคองบ้านบ่ฮุ่งเฮือง"
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.19 | SMF © 2006-2009, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!