พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ ( หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี )

[middle spirit]

เราเป็นพุทธมามกะ
เราต้องสำรวมรักษา ใจ ของเราให้ได้
ศาสนาอยู่ที่ ใจ แห่งเดียว
ถ้า ใจ สงบแล้วนั่นแหละ
ชื่อว่าเข้าถึงศาสนาแล้ว
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๓

[middle spirit]

ถือรูปให้ถือคุณ
อย่าไปถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์
เห็นรูปแล้วนึกถึงคุณท่าน
เรานึกถึงรูปนึกถึงคุณท่านแล้ว
เราก็จะละอายใจ เราจะละความชั่ว
จะทำความดีตลอดเวลา
การนับถือเช่นนี้ไม่มีเสื่อมตลอดเวลาเลย
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือเทสรังสีรำลึก

[middle spirit]

ใจที่ไม่มีความสงบ
มันไม่มีพลังพอที่จะต้านทานอารมณ์ได้
ฉะนั้นจะต้องอดทนและต่อสู้ทุกๆวิถีทาง
เพื่อเอาชนะใจ
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๖๘

[middle spirit]

พระพุทธเจ้าทรงสอนเบื้องต้นให้รู้จักยอม
สละ จาคะสิ่งของที่มี
จาคะต่อๆไปคือ การสละความชั่ว
จาคะละเอียดไปกว่านั้นคือ ให้สละอารมณ์ที่พัวพันเกี่ยวข้อง
กระทั่งลงในปัจจุบัน อดีต อนาคตก็ไม่ให้มี
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๕๔

[middle spirit]

ปล่อยวาง ในการที่ควรปล่อยวาง
รักษา ในควรที่ควรรักษา
ระวัง ในควรที่ควรระวัง
นี่เป็นอุบายแยบคายของตนเอง
เป็นหน้าที่ของตน
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๗๒

[middle spirit]

                                                   เรื่องพระอาจารย์ – เหรียญปลอม
      อาตมาไม่เคยขอพึ่งหน้ากระดาษหนังสือพิมพ์มาแต่ไหนแต่ไรเลย บัดนี้อาตมาขอพึ่งหน้ากระดาษหนังสือพิมพ์ไทยรัฐเพื่อแก้ข่าวของอาตมาด้วย อาตมาขอพูดด้วยความสัตย์ความจริง อาตมาไม่เคยทำรูปเหรียญ ทั้งของส่วนตัวและของครูบาอาจารย์ หรือผู้ที่อาตมาเคารพนับถือ ค้าหากินเลี้ยงชีพเลย แม้การหาเงินด้วยการเรี่ยไรก็ไม่เคยทำ หากจะเรียกเอาค่าลงข่าวแล้ว อาตมาไม่มีเงินให้ ถ้าหากจะลงข่าวให้อาตมาด้วยความเมตตาได้แล้ว ขอให้ไทยรัฐได้กรุณาลงข่าวให้อาตมาด้วย จะเป็นพระคุณยิ่ง
     เรื่องของอาตมามีอยู่ว่า  เมื่อวันมี่ ๕ เมษายน ๒๕๑๖ ที่วัดของอาตมาได้มีงานฝังลูกนิมิตผูกพัทธสีมา อาตมาไม่ให้มีพิธีอะไร นอกจากพิธีตามพระวินัยบัญญัติผูกพัทธสีมาเท่านั้น ได้มีลูกศิษย์ของอาตมาเองนั่นแหละคนหนึ่ง ขโมยเอารูปของอาตมาไปให้เขาปั๊มเหรียญแล้ว เอามาให้อาตมาสวดพุทธาภิเษกแจกในงาน อาตมาไม่ทำ บอกว่าฉันไม่ได้อนุญาตให้ทำ ทำไมทำอย่างนั้นได้ แล้วอาตมาเอาลงฝังในหลุมลูกนิมิตเสียหีบหนึ่ง อีกหีบกนึ่งเขาปิดกุญแจ เปิดไม่ได้จึงไม่ได้เอาลงฝัง(หีบลูกกระสุน) แล้วเจ้าของเขามาเอาคืนไป อาตมาได้ยอมเสียมารยาทขาดการสังวร ว่าเขาอย่างเสียหายหลายอย่าง จนเป็นเหตุให้เข้าหน้าอาตมาไม่ติดเหมือนกัน อาจจะเป็นหีบที่ยังเหลืออยู่นั้นก็ได้ ที่เขาเอาไปโฆษณาขายหากินมาจนบัดนี้ เรื่องทำเหรียญใครๆก็ทราบดีอยู่แล้วว่า เป็นอาชีพที่คล่อง ลงทุนน้อยแต่ได้ผลคุ้มค่า แม่พิมพ์ยังไม่ถูกทำลาย รูปเหรียญก็พิมพ์เพิ่มขึ้นอีกไม่รู้จักสิ้นสุด
      อุดมการณ์ของอาตมามันชักจะบ้าๆบอๆอยู่สักหน่อย ถึงจะไม่บ้าอย่างสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) ก็คงบ้าไปคนละแบบคนละยุคคนละสมัยก็ได้ การทำเหรียญครูบาอาจารย์ หรือท่านที่มีพระคุณควรเคารพนับถือ ตลอดถึงเหรียญพระพุทธรูปและพระสาวกทั้งหลาย ออกมาจำหน่ายขายกินนั้น (คำว่า บูชานั้น อย่าไปโกหกคนเองเลย บูชาจริงแล้วไม่ต้องรับสิ่งตอบแทนซิ) อาตมาละอายแก่ในใจเหลือเกิน แล้วก็ไม่เคยทำเลย แม้แต่คิดอยากจะทำไว้เพื่อบูชาส่วนตัว ก็ยังไม่เคยปรากฏเกิดขึ้นในจิตใจจนกระทั่งบัดนี้ จะเป็นเพราะอาตมาไม่เคยได้ศึกษาในวิชาด้านนี้หรืออย่างไรก็ไม่ทราบ มันยังเห็นไปตามประสาบ้าๆบอๆว่า การทำเหรียญของครูบาอาจารย์เป็นต้นดังกล่าวแล้ว ขายเพื่ออาชีพก็ดี  หรือเพื่อการก่อสร้างก็ดี  การสร้างเหรียญหรือรูปเหมือนของท่านผู้มีพระคุณและที่เคารพนับถือของตน มาเพื่อประโยชน์ของตนโดยแท้ เป็นที่อับอายขายหน้าอย่างยิ่ง ดูเป็นเนรคุณอย่างน่าบัดสีเสียเหลือเกิน หมดความสามารถแล้วหรือจึงต้องทำเช่นนั้น แต่อาตมามิได้ตำหนิติเตียนใครดอก ที่พูดนี้เพราะมีความเห็นเช่นนั้นจึงไม่ยอมทำ แล้วก็ไม่เชื่อว่าเหรียญเหล่านั้น จะช่วยให้คนดีได้ด้วย เพราะคนมีเหรียญมากๆเช่นนั้น ก็ยังไม่เห็นเลิกความชั่วได้ นอกจากจะเอาไปอวดกัน ผู้เคยทำความชั่ว เช่นว่า ดื่มสุรา เที่ยวนารี แข่งม้า ชนไก่ เล่นไพ่ ขี้โกรธ มักมาก ขี้โกง ขี้ขโมย ฯลฯ เหล่านี้ ก่อนได้เหรียญเป็นอยู่อย่างไร ได้เหรียญมาแล้วก็ประพฤติอยู่เช่นเคย มันจะมีประโยชน์อันใด
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี

[middle spirit]

               เรื่องพระอาจารย์ – เหรียญปลอม (ตอนที่2)
     ด้านโชคลาภเช่นกัน หากโชคลาภเกิดขึ้นเพราะเหรียญแล้ว  ดูเกิดมาจะง่ายเหลือเกิน  ไม่ต้องทำอะไรละ  ขอให้สะสมเหรียญไว้มากๆก็พอแล้ว ประชากรและรัฐก็คงสบายกันไปตามๆกันหมด แต่นี้หาเป็นเช่นนั้นไม่ เหรียญทุกวันนี้ยิ่งมากขึ้นเท่าไหร่ เศรษฐกิจยิ่งทรุดลงทุกวัน แต่ถึงกระนั้นก็ยังพากันหาเหรียญมาบูชา เพื่อช่วยให้เกิดโชคลาภยังไม่หยุดเลย
     ด้านอยู่ยงคงกระพันแล้ว เหรียญยิ่งทำให้ยุ่งใหญ่ ตำรวจทหารผู้ปราบโจรขโมยและ ค.ม. ก็อาศัยเหรียญไว้เป็นที่พึ่งป้องกันตัวเองเหมือนกัน ฝ่ายตรงกันข้ามก็อาศัยเหรียญไว้เป็นที่พึ่งป้องกันตัวเหมือนกัน  ต่างคนต่างเอาเหรียญไว้เป็นที่พึ่งป้องกันตัว แล้วห้ำหั่นซึ่งกันและกัน บางทีทั้งสองฝ่ายนั้น อาจได้เหรียญอาจารย์เดียวกันก็ได้ น่าสงสารอาจารย์จริงๆ ไม่ทราบว่าจะไปช่วยใคร ทุกๆคนก็เคารพนับถืออาจารย์ทั้งนั้น ถ้าช่วยทั้งสองทางอาจารย์เลยลายเป็นผู้ก่อการร้ายไปฉิบ หรือหากเหรียญของอาจารย์อยู่ ณ.ที่นั้นรวมกันหลายองค์ เมื่อถึงวาระนั้นเข้าอาจารย์เหล่านั้นไม่ทราบว่าจะทันได้ปรึกษาหารือกันหรือเปล่าก็ไม่ทราบ  ถ้าประชุมกันไม่ทันบังเอิญไปช่วยคนที่อาจารย์อีกองค์หนึ่งไม่พอใจเข้า อาจารย์เหล่านั้นอาจเกิดทะเลาะกันขึ้นก็ได้ คราวนี้แหละลูกศิษย์ระวังไว้เถอะ.
      ที่อาตมาขอความกรุณาให้ไทยรัฐช่วยลงข่าวเรื่องนี้ให้นั้น ก็เพราะว่าไทยรัฐมีคนนิยมอ่านมากแล้วเขาเหล่านั้นจะได้ทราบอุดมการณ์ของอาตมาเสียที อย่าได้หลงคำหลอกลวงของพวกมีอาชีพทางด้านนี้เลย.
      อนึ่ง เวลานี้ได้มีคนส่งจดหมายสอดธนาณัต และถามเรื่องเหรียญของอาตมาไปเป็นอันมาก อาตมาได้ปฏิเสธ และที่อ่านรายชื่อและที่อยู่ออก ก็ได้ส่งคืนไปแล้วหลายราย ต่อไปนี้เมื่อไทยรัฐลงข่าวให้แล้ว อาตมาจะไม่รับรู้ทั้งหมด เงินก็จะไม่ยอมรับทราบด้วย แต่ไหนแต่ไรมาเงินค่ารูปเหรียญหรือเงินที่เขาได้จากการจับใบ้หวยเบอร์จากอาตมาโดยไม่รู้ตัว เมื่ออาตมาทราบภายหลัง แม้แต่ไทยทานเล็กๆน้อยๆ อาตมาก็ส่งคืนหมด.
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
วัดหินหมากเป้ง

[middle spirit]

ปุถุชนคนธรรมดา ยากที่จะพยากรณ์กันได้
ว่าคนนั้นคนนี้หมดสงสัยหรือยังสงสัยอยู่ในธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
แม้แต่พระเราด้วยกัน ก็ไม่มีใครจะพยากรณ์กันได้
เว้นเสียแต่พระพุทธเจ้าพระองค์เดียวที่จะพยากรณ์ ว่าสาวกพระองค์นั้น องค์นี้ได้สำเร็จภูมินั้นภูมินี้
ถ้าใครพูดก็เข้าหลักที่ว่า อวดอุตริมนุสธรรม คือตนยังไม่รู้ไม่เห็นด้วยตนเอง
แต่ไปพยากรณ์คนอื่น ด้วยธรรมอันสูงของมนุษย์
แต่ผู้ปฏิบัติธรรมเข้าถึงธรรมแล้ว ย่อมรู้ชัดด้วยตนเองว่าได้ผลตอบแทนเป็นที่พอใจ
ถ้ามิเช่นนั้นแล้ว ใครเล่าจะปฏิบัติเพราะที่ได้จะเอามาให้ใครดูก็ไม่ได้
โอวาทธรรมคำสอน
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

[middle spirit]

สิ่งที่เป็นโทษ
ทำให้เกิดความเดือดร้อน
ก็ร้อนขึ้นที่ ใจ ของตน
ก็ ละ เสีย
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๖๓

[middle spirit]

เมื่อเรามีชีวิตอยู่สมบูรณ์บริบูรณ์
เรามีสติ มีอุบายปัญญา
มีความสามารถที่จะชำระ
ไม่ให้จิตวุ่นวายส่งส่าย จนเข้าถึงใจได้
อันนั้นเป็นของสำคัญมาก
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๒๕

[middle spirit]

วันหนึ่งๆ ใจของเรากลับกลอก
ไปสวรรค์ และตกนรก
ไม่ทราบกี่ครั้ง กี่หนแล้ว
ใครจะเลือกเอาอย่างไรก็ตามใจ
ของปรุงแต่งเอาด้วยตนเองทั้งนั้น
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๔๕

[middle spirit]

เราตั้งสติกำหนดเท่านั้นแหละ
เห็นอานิสงส์ทันที
ความเดือดร้อนวุ่นวาย
ความกังวลหายหมด
ความทุกข์ทั้งหลายไม่มีเกี่ยวข้อง
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๖๓

[middle spirit]

#ศาสนาสอนที่ตัวเรา
ฆราวาสพวกเราบางคน ตั้งแต่วันเกิดจนวันตาย ศีล ๕ สักตัวเดียวก็ไม่เคยรักษา
พอเห็นความผิดเล็กๆ น้อยๆ ของพระภิกษุสามเณร ก็อย่าเพิ่งถือว่าเลวทั้งหมด
การเหมาเอาว่าพระภิกษุเหมือนกันทั้งหมด ก็ยังไม่ถูก
พุทธศาสนา ไม่ได้หมายเอาที่ พระ หมายเอาการปฏิบัติต่างหาก
พระ นั้นอยู่ที่ บุคคล แต่ศาสนาไม่ได้อยู่ที่บุคคล
ศาสนาเป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
ถ้าบุคคลปฏิบัติผิด ก็เป็นเรื่องบุคคลผิดไม่ใช่ศาสนาผิด
ศาสนาก็ยังสอนตรงไปตรงมาอยู่ตามเดิม
สอนให้ละชั่วทำดีอยู่ตามเดิม แต่คนไม่ปฏิบัติตาม
เมื่อเราปฏิบัติตามคำสอนไม่ได้ จะหาว่าศาสนาไม่ดีไม่ได้
นี่ ให้พิจารณาอย่างนี้
ถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว ใครจะทำผิด ทำเลวทรามอย่างไร เป็นเรื่องศาสนาเสื่อมหมด
ยกให้ศาสนาไม่ดีทั้งนั้น
บางทีแม้แต่คนเข้าวัดเข้าวามาฟังเทศน์ฟังธรรม รักษาศีล อบรมภาวนาทำกัมมัฏฐาน แสดงกิริยาโกรธกริ้วขึ้นสักทีหนึ่ง
โอโฮ กล่าวโทษศาสนานี้ไม่ดีเลย เข้าวัดเข้าวาจนแก่จนเฒ่าแล้วยังละโลภโมโทสันไม่ได้
พูดอย่างนี้มันก็ผิดไป
อย่าพูดอย่างนั้น นั่นเรื่องของบุคคล
ศาสนาสอนให้ละ แต่บุคคลไม่ละ ไม่ทราบจะให้ทำอย่างไร
ถ้าเข้าใจได้อย่างนี้ก็สบาย
เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วจะทำอย่างไร
ขอตอบว่า เมื่อเขาไม่ทำ เราทำ
พากันคิดมานะขึ้นสักคนหรือทุกคน คิดมานะขึ้นมา
ลองดูซิ เขาไม่ทำเราทำ กระทำเป็นตัวอย่างเขา
ทีนี้มันไม่เป็นเช่นนั้นน่ะซี
ส่วนมากพอเห็นเขาไม่ทำ เราก็เลยไม่ทำ เลยพลอยไม่ดีไปตามเขา
เมื่อเราไม่ดี ก็คอยกล่าวโทษคนอื่น
ต่างคนต่างกล่าวโทษซึ่งกันและกัน เป็นเรื่องเดือดร้อนวุ่นวาย
แล้วมันจะดีอย่างไร
จึงว่าอย่าไปโทษศาสนา
ศาสนาสอนดี สอนให้ทุกคนพัฒนาตนเองทั้งกายและใจ
ไม่ได้สอนพัฒนาแต่กาย
ชาวโลกเดี๋ยวนี้เขาสอนพัฒนากันแต่ส่วนร่างกาย
พัฒนาจนถึงขนาดนี้แล้ว แทนที่โลกจะได้รับความสุขเยือกเย็น
แต่โลกกลับเดือดร้อนยิ่งกว่าเก่า นี่ก็แสดงว่าพัฒนายังไม่ถูกต้อง
ถ้าหากพัฒนาตามทางพุทธศาสนา คือพัฒนาไปพร้อมกันทั้งกายและใจแล้ว
ชาวโลกจะได้รับความเยือกเย็นสักขนาดไหน อันนี้ ยังไม่มีใครทำ
อย่างไรก็ตามเท่าที่อธิบายมานี้
ก็พอให้เห็นคุณประโยชน์ของการพัฒนาพร้อมๆ กันไปแล้วว่า คงจะมีความสุขแน่
ศาสนาสอนให้ได้รับความสงบ ไม่ใช่สอนให้เดือดร้อนวุ่นวาย
เมื่อเราสงบแล้ว คนอื่นยังไม่สงบก็ปล่อยไปเสียก่อน
ถ้าทุกคนต่างพากันทำความสงบแล้ว
จะได้รับความสุขเยือกเย็นขนาดไหน ลองหลับตาคิดดูก็แล้วกัน
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

[middle spirit]

เห็นกรรมดี และกรรมชั่ว ปรากฏที่ใจของตน
เป็นปัจจัตตังคือ ธรรมเป็นของรู้เฉพาะตน
หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๖๙

[middle spirit]

พระกริ่งนาคปรกนาสีดา ปี 2522 เนื้อทองแดง