ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์แห่งภาคอีสาน

ชมรมสืบสานตำนานบูรพาจารย์สายสำเร็จลุน => ชมรมสืบสานตำนานบูรพาจารย์ศิษย์สายสำเร็จลุน => ข้อความที่เริ่มโดย: บ่หัวซาผีบ้าเดินดิน ที่ 13 สิงหาคม 2554, 12:38:38



หัวข้อ: ญาท่านธรรมบาลผุย แห่งวัดป่าน้อย สหธรรมมิกหลวงปู่สำเร็จลุน
เริ่มหัวข้อโดย: บ่หัวซาผีบ้าเดินดิน ที่ 13 สิงหาคม 2554, 12:38:38
 กราบขอขมาพ่อแม่ครูบาอาจารย์ เจตนาเพื่อเผยแพร่ประวัติและบารมีของท่านให้พุทธศานิกชนได้รับรู้กันครับ    007


หัวข้อ: Re: ปริศนาภาพบูรพาจารย์ รูปที่5
เริ่มหัวข้อโดย: Agri_07 ที่ 13 สิงหาคม 2554, 12:57:58
ลูกขอกราบนมัสการ พระครูบาอาจารย์ สาธุุ   สาธุ  สาธุ...

ปล. ขอบคุณครับพี่ท่านบ่อหัวซา สำหรับข้อมูลที่มาเผยแผ่ครับ

๙๙๙หนุ่มสิงห์บางระจัน๙๙๙   007  007


หัวข้อ: Re: ปริศนาภาพบูรพาจารย์ รูปที่5
เริ่มหัวข้อโดย: ramin ที่ 13 สิงหาคม 2554, 13:33:14
 017 017 017 ผู้ข้าฯ ขอกราบนมัสการพระอาจารย์ใหญ่
ท่านคือใครน๊อ....ใช่ญาท่านธรรมบาล หรือว่าเป็นญาท่านแก้วไพฑูรย์


หัวข้อ: Re: ปริศนาภาพบูรพาจารย์ รูปที่5
เริ่มหัวข้อโดย: MaiUbon ที่ 13 สิงหาคม 2554, 20:20:12
รูปภาพนี้ไม่รู้เลยครับ  021 021


หัวข้อ: Re: ปริศนาภาพบูรพาจารย์ รูปที่5
เริ่มหัวข้อโดย: vs12 ที่ 13 สิงหาคม 2554, 21:29:30
ญาท่านธรรมบาล(ผุย)


หัวข้อ: Re: ปริศนาภาพบูรพาจารย์ รูปที่5
เริ่มหัวข้อโดย: vs12 ที่ 13 สิงหาคม 2554, 21:30:08
 007 007 007


หัวข้อ: Re: ปริศนาภาพบูรพาจารย์ รูปที่5
เริ่มหัวข้อโดย: ramin ที่ 13 สิงหาคม 2554, 21:34:43
 001
ถูกต้องนะครับ ท่าน vs12

ทั้งภาพถ่ายและเหรียญ ท่านั่งของท่านจะเป็นเอกลักษณ์ครับ


หัวข้อ: Re: ปริศนาภาพบูรพาจารย์ รูปที่5
เริ่มหัวข้อโดย: ramin ที่ 13 สิงหาคม 2554, 21:53:58
               ท่านพระธรรมบาล(ผุย) แห่งวัดป่าน้อยหรือวัดมณีวนาราม มีสัณฐานสูงใหญ่ สีผิวเนื้อขาวละเอียด ลักษณะท่าทางทุกส่วนสง่างาม ฟันทนไม่โยกคลอนสักซี่จนถึงวันมรณภาพ  เป็นสัทธิวิหาริกของท่าน พฺรหมฺสโร (พรหมมา) วันหนองยาง
                ภูมิลำเนา เกิดที่บ้านขุนปูน ตำบลคำไฺฮใหญ่ จังหวัดอุบลราชธานี  ท่านเชี่ยวชาญทางคันถธุระปฏิบัติเคร่งในธรรมวินัย  เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์และประชาชนที่อยู่ในชุมชนข้างวัด ท่านมีไหวพริบเฉียบแหลมในทางแปลงปริยัติ ตัดใจความให้สละสลวยเข้่าใจความง่าย ชอบใช้จีวรย้อมแก่นขนุนสีกรัก   พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ข้าหลวงต่างพระองค์ทรงอารธนาไปรับบิณบาตที่วัง ทำพิธิทดลองในการปฏิบัติพระธรรมวินัย ถึงกับได้เปล่งวาจาชมเชยว่า "ในเมืองอุบลมีแก้ววิเศษ" จึงเป็นเหตุให้นำมาซึ่งความเลื่อมใส จะเป็นปีเดือนอะไรไม่ทราบได้  ท่านเชิญชวนอันโตชนและบริวารชน  เสด็จมาทำพิธีสรงน้ำที่วัดและประทานอัฐบริิขารพร้อมทั้งสัญญาบัตรพัดยอดอันท่านเจ้าเคยใช้ ซึ่งมีอยู่ประจำวัด ให้ใช้ในงานหลวงเมืองอุบลเสมอมา ครั้นพระเจ้าบรมเธอกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ เสด็จกลับกรุงเทพฯ แล้ว ท่านก็ไปอยู่วัดบ้านคำไฺฮบ้าง มาอยู่วัดมณีวนารามบ้าง เป็นครั้งคราว ในระหว่างนี้ท่านมีอายุเข้าขั้นชรามากการไปมาเดินไม่สะดวก พวกอุบาสกชอบให้ขึ้นแคร่หามไปมาเสมอ ขณะที่หามไปที่ไหนๆ ก็ตามมักพูดปลอบโยนเอาอกเอาใจผู้หามเสมอว่า "อย่าบ่นว่าหนักเลย  อุตส่าห์หามตู้หนังสือไปเถิด"  ดังนี้  ครั้นมาภายหลังท่านไปบ้านคำไฺฮโดยขึ้นแคร่หามไปเวลากลับได้กลับทางเรือตามลำเซบก ระหว่างทางท่านได้หยุดพักฉันเพล  พอฉันเพลเสร็จท่านจะเดินทางต่อ แต่เผอิญท่านมีอาการปวดหัวมาก ท่านเองก็ทราบว่า "อาการเก่ากำเริบขึ้นอีก" จึงขึ้นจากเรือ พวกลูกศิษย์ได้ไปตามราษฎรบ้านดงบังมาจัดเตียงสำหรับหามเสร็จแล้ว ท่านก็ให้เขาหามรีบลัดมาทางตรงถึงวัดมณีวนาราม  ในวันนั้นอาการปวดศรีษะนั้น กำเริบขึ้นมากกลายเป็นไข้สันนิบาตแพทย์แผนโบราณได้เยียวยาสุดความสามารถ  เมื่ออาการไข้ค่อยทุเลาลง สายตาก็ค่อยมืดลงตามกันเมื่อไข้หายแล้วเส้นประสาททางตาก็หมดอำนาจ จึงทำให้ตาบอด ครั้นตาบอดแล้วการไปมาก็ต้องขึ้นแคร่หามอยู่ตามเดิม  ถึงเวลาขบฉันลูกศิษย์ก็ผลัดกันเปลี่ยนกันป้อน  ท่านจะนึกอย่างไรไม่ทราบท่านจึงกลับไปอยู่วัดบ้านคำใฮอีกหลายปี ก็ระยะที่ท่านไปอยู่วัดบ้านคำใฺฮนี้ประชาชนทั้งคฤหัสถ์และบรรพชิตก็ไปมานอบน้อมถวายปัจจัย ๔ ไม่ได้ขาด
            ครั้นกาลล่วงมาท่านชรามากเข้าศิษยานุศิษย์มาประชุมพร้อมกัน มีความเห็นตรงกันว่าท่านเป็นผู้ที่ประชาชนให้การสักการะและเคารพนับถือเป็นอย่างยิ่งจึงไม่ควรที่จะมรณภาพที่วัดบ้านคำใฺฮ จึงได้เชิญชวนกันไปรับท่านมาอยู่วัดมณีวนารามตามเดิม ท่านครองวัดอยู่ประมาณ ๓๐ ปี มรณภาพด้วยโรคชราที่กุฏิแดง อันตั้งอยู่ทิศตะวันตกศาลาการเปรียญคำณวนอายุได้ ๘๘ ปี ทำพิธีสรงน้ำศพเสร็จแล้วเชิญศพบรรจุหีบกำปั่นสำรองก่อน เมื่อบำเพ็ญกุศลสัตตมวารเสร็จแล้ว ก็เก็บศพไว้ ๖ เดือน เมื่อกำหนดวันจะทำฉาปนกิจศพ มีท่านเจ้าคุณ-พระพรหมมุนี เจ้าคณะมณฑลอุบลฯ สมันนั้น เป็นประธานจัดการปลงศพ จึงทำรูปนกหัสดีลิงค์ประกอบหอแก้วบนหลังนกและทำหีบนพสูญ แล้วบำเพ็ญกุศลอยู่ ๓ วันแล้วเชิญหีบศพไปประดิษฐานหอแก้วบนหลังคานก ชักลากไปทำฌาปนกิจศพที่สุสานป่าช้าวัดแจ้งแล้วเก็บอัฏฐิมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณี เสร็จแล้วก็นำอัฐิเข้าบรรจุในเจดีย์ท่านเจ้า(พระอริยวงศาจารย์) ซึ่งเป็นเจดีย์เก็บอัฐิของท่านสุวณฺโณ และท่านจันทรังสี



หัวข้อ: Re: ปริศนาภาพบูรพาจารย์ รูปที่5
เริ่มหัวข้อโดย: บ่หัวซาผีบ้าเดินดิน ที่ 14 สิงหาคม 2554, 10:08:13
ถูกต้องแล้วครับ ยอดเยี่ยมมากครับพี่รามิน หลวงปู่ใหญ่ญาท่านธรรมบาลผุย แห่งวัดป่่าน้อย ผู้ซึ่งเป็นสหธรรมิกของสำเร็จลุน ธรรมบาลผุยท่านนี้ถือว่าเป็นอาจารย์ใหญ่อีกท่านหนึ่งของสายสำเร็จลุนเพราะท่านมักแลกเปลี่ยนวิชาและไปมาหาสู่กับสำเร็จลุนอยู่เป็นประจำ ท่านมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ศิษย์ยุคต้นๆของท่านได้แก่ ลป.รอด วัดทุ่งศรีเมือง  หลวงปู่ญาท่านโสม(ญาท่านธรรมบาลโสดา)แห่งวัดเหล่าแดง อ.ดอนมดแดง ซึ่งศิษย์ในสาย ลป.รอด วัดทุ่งศรีเมืองทั้งหมดก็ถือว่าท่านธรรมาลผุยเป็นอาจารย์ใหญ่ อาทิ ลป.บุญ วัดคำหว้า ลป.บุญโฮม วัดดอนรังกา และองค์อื่นๆอีกมากมายครับ  มาพูดถึงศิษย์รุ่นหลังๆของท่านธรรมบาลผุยกันบ้าง ตามที่สืบทราบมา ก็คือท่าน หลวงปู่ด่อน แห่งวัดถ้ำเกีย และก็คงอมีองค์อื่นๆอีกมากมายครับ รูปภาพข้างบนเป็นรูปต้นแบบของเหรียญรุ่นแรกของท่าน ซึ่งสร้างขึ้นมาในปี 2514 ถึงแม้จะไม่ทันหลวงปู่แต่ก็เปี่ยมด้วยพุทธคุณและประสบการณ์มากมายเพราะปลุกเสกโดยคณะลูกศิษย์ของหลวงปู่ครับ 007


หัวข้อ: Re: ปริศนาภาพบูรพาจารย์ รูปที่5
เริ่มหัวข้อโดย: คนโก้ ที่ 15 สิงหาคม 2554, 13:53:04
สุดยอดครับ 017 017 017


หัวข้อ: Re: ญาท่านธรรมบาลผุย แห่งวัดป่าน้อย สหธรรมมิกหลวงปู่สำเร็จลุน
เริ่มหัวข้อโดย: chanatip ที่ 31 ธันวาคม 2554, 15:38:44
หลวงปู่ผุยสุดยอดมากครับ

จะว่าจริงๆ ก็หายากนะครับ พระยุคเดียวกันกับสำเร็จลุนแบบนี้



ข้อมูลท่านที่เกี่ยวกับสหายรักครับ

ข้อความสีแดงเป็นช่วงที่สำคัญมากครับ



หลวงปู่สำเร็จลุน อายุประมาณ 13 ปี พ. ศ.2402 ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ สำนักวัดบ้านเวินไซ บ้านของท่านเอง พระอุปัชฌาย์ไม่ปรากฎ
จำพรรษาเล่าเรียนจนอายุครบ 20 ปีได้ไปอุปสมบทที่สำนัก "วัดบ้านฮีบ้านเวียง" อำเภอตระการพืชผล ประเทศไทย พระอุปัชฌาย์สืบไม่ได้ ศึกษาอยู่กี่ปีสืบไม่ได้และได้ลาอุปัชฌาย์กลับวัดบ้านเวินไซ บ้านเกิดของท่าน

ประมาณ พ.ศ. เท่าใดไม่ปรากฎ ท่านได้ร่วมกับพระซึ่งเป็นสหายรักใคร่สนิทสนมกันมาก คือ ญาท่านธรรมบาล วัดป่าน้อย เมืองอุบล ประเทศไทย
ชักชวนกันไปศึกษาเล่าเรียนค้นคว้าจากสำนัก วัดบ้านนาหลงนาหลัก เมืองสุวรรณคีรี แขวงปากเซ ประเทศลาว โดยไปด้วยกันทั้งหมด 5 รูป
เมื่อไปถึงได้เข้านมัสการแจ้งความประสงค์ขอมอบตัวเป็นศิษย์ พระอาจารย์ท่านก็ยินดีรับและมอบให้ทั้ง 5 รูปนี้ ให้ขึ้นไปบนหอไตร ซึ่งบรรจุพระคัมภีร์ต่างๆมากมาย ให้ค้นคว้าเอาเองจนกว่าจะพบ ถ้าหากไม่พบห้ามกลับลงมาฉันอาหารเพล
มีตู้บรรจุพระไตรปิฎกอยู่ 3 ใบ ท่านพร้อมกับญาท่านธรรมบาล และพระภิกษุอีก 3 รูป ได้พร้อมกันค้นคว้าจนหมดทั้ง 3 ตู้
จนกระทั่งจวนถึงเวลาฉันอาหารเพล พระภิกษุทั้ง 3 รูป จึงได้ลงมาฉันอาหารเพลก่อน คงเหลือแต่ท่านและญาท่านธรรมบาลเท่านั้น ค้นอยู่จนอ่อนใจจึงไปพบอยู่ก้นตู้ผูกหนึ่งเล็กๆ ซึ่งสำคัญมาก ท่านทั้งสองจึงได้ถือเอาลงมาด้วย และได้นำไปศึกษาเล่าเรียนในตำราเล่มเล็กนี้
ก็คงได้ศึกษาแต่ท่านสำเร็จลุนและญาท่านธรรมบาลเท่านั้นรวม 2 รูป สำหรับพระภิกษุทั้ง 3 ขาดความอดทน พระอาจารย์สั่งไม่ให้ศึกษาและมีข้อห้ามที่ว่า
"พระภิกษุที่ได้ศึกษาจากตำราเล่มนี้จะสึกมิได้ต้องอยู่ในเพศพรหมจรรย์ตลอดชีวิต"


หัวข้อ: Re: ญาท่านธรรมบาลผุย แห่งวัดป่าน้อย สหธรรมมิกหลวงปู่สำเร็จลุน
เริ่มหัวข้อโดย: chanatip ที่ 05 มกราคม 2555, 08:03:23
กะไหร่ทอง สวยมาก


 :wan-e052:


(http://upic.me/i/t9/rimg0057.jpg) (http://upic.me/show/31818002)
(http://upic.me/i/yi/rimg0059.jpg) (http://upic.me/show/31818003)


หัวข้อ: Re: ญาท่านธรรมบาลผุย แห่งวัดป่าน้อย สหธรรมมิกหลวงปู่สำเร็จลุน
เริ่มหัวข้อโดย: mohbantung ที่ 02 มกราคม 2556, 18:41:06
เหรียญ ท่านธรรมบาล (ผุย) กะไหล่ทอง สวยมาก (องค์จริงสวยมากครับผม)


หัวข้อ: Re: ญาท่านธรรมบาลผุย แห่งวัดป่าน้อย สหธรรมมิกหลวงปู่สำเร็จลุน
เริ่มหัวข้อโดย: ส่องสนามเมืองนักปราชญ์ ที่ 05 ตุลาคม 2557, 23:08:19
เนื้ออัลปาก้า  เป็นเหรียญเก่าที่หายากอีก 1 เหรียญ

ตามหาอยู่หลายปี  สุดท้าย  ก็เจอ ในสภาพสวยกริ๊บๆ

ผู้เป็นดั่งสหายธรรมสำเร็จลุน และเป็นอาจารย์ใหญ่ของพระครูวิโรจน์


007(http://upic.me/i/yw/hl8z1.jpg) (http://upic.me/show/52999820)


หัวข้อ: Re: ญาท่านธรรมบาลผุย แห่งวัดป่าน้อย สหธรรมมิกหลวงปู่สำเร็จลุน
เริ่มหัวข้อโดย: ส่องสนามเมืองนักปราชญ์ ที่ 28 กันยายน 2560, 21:01:35
ข้อมูลอ้างอิง จากหนังสือ  เล่มด้านล่างนี้