ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์แห่งภาคอีสาน

ห้องเวทย์วิทยาคมและสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ => เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน) => ข้อความที่เริ่มโดย: vs12 ที่ 12 ตุลาคม 2556, 16:42:24



หัวข้อ: หนุมานหินอ่อนสีชมพู
เริ่มหัวข้อโดย: vs12 ที่ 12 ตุลาคม 2556, 16:42:24
หนุมานหินอ่อนสีชมพู เบื้องหลังความโด่งดังของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์
     คืนวันที่  ๑๖ กันยายน ๒๕๐๐ จอมพลสฤษดิ์  ธนะรัชต์ ได้นำกำลังทหาร ทำรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลย์สงคราม ลงอย่างง่ายดาย พร้อมกับการก้าวขึ้นสู่บัลลังก์แห่งอำนาจอย่างเด็ดขาดในประเทศไทย ด้วยการประกาศกฏอัยการศึกทั่วประเทศ ท่านจอมพลใช้มาตรา ๑๗ สั่งการกับ มือวางเพลิง จอมอันธพาล สิงห์เฮโลอีน และผู้บ่อนทำลายชาติ คนต่อไปและคนต่อไปอย่างไม่เกรงกลัวใคร ซึ่งการสั่งยิงเป้าแต่ละครั้ง เป็นการเสริมสร้างพลังแห่งความกลัวเกรงของผู้กระทำความผิดเป็นลำดับๆ จนเมืองไทยสงบราบคาบ ด้วยอาชญากรรมต่างๆ อย่างสิ้นเชิง
         แต่ทว่า ท่ามกลางความสงบราบเรียบของบ้านเมือง กลับเป็นผลร้ายพอกพูนไว้กับ ท่านจอมพลเสมือนถูกฟ้าดินลงโทษ กับผู้มีบาปทางการเมืองอย่างท่านจอมพลสฤษดิ์ มีอาการเพียบหนัก จนถึงขั้นต้องบินไปผ่าตัดม้ามที่สหรัฐอเมริกา แพทย์ขีดเส้นตายไว้ไม่เกิน ๑ ปี ช่วงนี้เองที่เหล่าสมุนซ้ายขวาผู้จงรักภักดีต่อ พณ.ท่านเริ่มกระสับกระส่ายโดยเฉพาะอดีตกุนซือรัฐมนตรี X ถึงกับวิ่งพล่านไม่เป็นอันกินอันนอนไปด้วย
           อาจารย์เต็ง จิตตะวณิช ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังกับการแกะสลักจากสมาธิ (ซึ่งเคยแกะสลักตราจักรีจากหิน สลักพญาหงส์เหยียบคฑา และราชสีห์หยก น้อมเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาแล้ว) เมื่อปี ๒๕๐๐ จากการใช้สมาธิจิตจนเกิดนิมิตเป็นรูปที่จะแกะแล้วสลักขึ้นตามนั้น โดยที่ตนเองไม่เคยมีความรู้เรื่องการแกะสลักมาก่อนเลย (ว่ากันว่าทำได้เพราะบารมีเทพ)
          ชื่อเสียงอาจารย์เต็ง เป็นที่กล่าวขานกันในหมู่ผู้บ้าอำนาจของเมืองไทย อดีตรัฐมนตรี x จึงมาว่าให้อาจารย์เต็ง แกะสลักรูปหนุมานหาวเป็นดาวเป็นเดือน เพื่อต่ออายุให้ท่านจอมพลฯ  รูปหนุมานหาว  ตรงกับปีเกิดของ  ฯ พณ ฯ  จอมพล  สฤษดิ์  ธนะรัชต์  คือปีวอก  ( เกิดเมื่อวันอังคารที่  ๑๖  มิถุนายน พ.ศ.๒๔๕๑  ตรงกับแรม  ๓  ค่ำ  เดือน  ๗  ปีวอก )  หมายถึงลิงหรือหนุมานในเรื่องรามเกียรติ์  และหมายถึงอำนาจ,  ทหารเอก
             อาจารย์เต็งเข้าสมาธิ เห็นเป็นเหตุร้ายจะบังเกิดแก่ตน และโดยเฉพาะ ผู้มาว่าให้ทำอย่างเด่นชัด จึงปฏิเสธไม่รับทำ  และขอร้องให้รัฐมนตรี X เลิกคิดจะทำการต่ออายุ พณฯท่านเสีย ไม่งั้นตัวเองจะรับเคราะห์แทน แต่ด้วยความซื่อสัตย์ต่อเจ้านาย อดีตรัฐมนตรี X  ยอมรับเคราะห์กรรมแทนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น โดยไม่ยอมล้มเลิกความตั้งใจที่จะทำพิธีต่ออายุ   จากนั้นพิธีประกอบเป็นตัวหนุมานอันลือลั่นจึงเกิดขึ้นมาในคืนวันเพ็ญ โดยรัฐมนตรี X ยอมลงทุนไปขุดดิน ๗ ป่าช้าด้วยตนเอง ครั้งสุดท้ายที่ไปขุดดินกลางท้องสนามหลวง เที่ยงคืนของคืนพระจันทร์เต็มดวง ขณะที่ปักธูปขอขมาอธิษฐานต่อเทพยดาและบูรพมหากษัตริย์ไทย สุนัขจากทั่วทุกสารทิศก็หอนโหยหวนขึ้นพร้อมกันคล้ายจะเป็นสัญญาณว่าเทพเจ้าแห่งมฤตยู  ได้ย่างพระบาทเข้ามารับรู้การกระทำอันฝืนกติกาแห่งยมฑูต แต่รัฐมนตรี X ก็ใจแข็งพอที่จะหอบคินนั้นมาปั้นเป็นฤาษีนารท เพื่อทำพิธีได้อย่างปลอดภัย ส่วนข้างอาจารย์เต็ง ซึ่งกำลังไปขนหินอ่อนเพื่อมาแกะสลักที่เขาโชงก จ.นครนายก ก็ต้องผจญกรรมเสี่ยงต่อการเสืยชีวิตและรอดมาได้ แต่ก็ต้องเสียขาไปหนึ่งข้างเพราะอิทธิพลของหินอ่อนอันลือลั่น...
          เบื้องหลังการทำหนุมานหินอ่อนสีชมพูนี้ เต็มไปด้วยความลี้ลับนานับประการ ยากเย็นเข็ญใจกว่าจะสัมฤทธิ์ผลออกมา ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมีอันเป็นไปจนไม่เหลือแม้แต่คนเดียวตายเกลี้ยงอย่างน่าสงสาร แต่จะยากเย็นอาถรรพ์แค่ไหน ก็ไม่พ้นความสามารถของผู้มีพลังจิตอันกล้าแข็งของอาจารย์เต็งไปได้ ทั้งๆที่ตลอดเวลาที่อาจารย์เข้าสมาธิ แกะสลักหนุมานหินอ่อน ตาทั้งสองข้างบวมแดงจนเกือบจะบอด ต้องพักแล้วรวมพลังอันแข็งกล้าฝ่าฟันมารร้ายจนลุล่วงเป็นรูปร่างหนุมานหาวเป็นดาวเป็นเดือน ที่มีมือหนึ่งถือจักร มือหนึ่งถือพระขรรค์ยืนเงื้อง่าอย่างองอาจบนแท่นไม้เล็กๆที่ต้องใช้เวลาทั้งสิ้น  ร่วม ๓ เดือน เพราะต้องเสียเวลาในการนำดินจาก ๗ ประเทศ พร้อมด้วยผงอิทธิเจ จากประเทศศรีลังกา   ด้าย ๙ สี ปิดลงในดวงจอมพลสฤษดิ์ บนแผ่นเงินแผ่นทอง ๓ แผ่น ที่สำคัญในตัวหนุมานตัวนี้ ใส่เครื่องผงลงกา  ลงไปด้วยนี่เองคือที่มาแห่งอำนาจในตัว พณฯท่าน ที่กำลังป่วยหนัก ถึงกับต้องให้น้ำเกลืออยู่ที่กองพล ๑ (บ้านสี่เสา) สามารถจะลุกขึ้นมาปฏิบัติการได้อย่างเฉียบพลัน เด็ดขาดแทบไม่น่าเชื่อ
                 แต่หนุมานหินอ่อนตัวนี้ ฤทธิกล้าแข็งเกินไปเสียแล้ว เพราะการอัญเชิญเหล่าเทพทุกชั้นฟ้ามาร่วมปลุกเสกจึงต้องทุบขา หนุมานออกเสียข้างหนึ่ง  แล้วใส่เดือยเหล็กทำขาปลอมขึ้นมาแทน ส่วนแขนที่ต้องเด็ดออกเสียข้างหนึ่ง
เพื่อลดอิทธิฤทธิ์ที่จะบ้าระห่ำลงไม่งั้น จอมพลสฤษดิ์ อาจจะเป็นนโปเลียนที่ ๒ ของโลกก็อาจเป็นได้ ...ไม่มีใครล่วงรู้ถึงความลี้ลับในตัวหนุมานหินอ่อนตัวนี้แม้กระทั่งบัดนี้ นอกเสียจากอดีตรัฐมนตรี X ผู้ซื่อสัตย์ และอาจารย์เต็ง ผู้ประกอบพิธีมากับมือ  จวบจนกระทั่งวาระสุดท้ายของ พณฯ ท่านก็มาถึง ตามกำหนดของดวงในหนุมาน...
                 ที่ห้องดับจิต ณ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อ เวลา ๑๘ นาฬิกา ของวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๐๖ อันเป็นขณะเดียวกับที่บ้านกองพล ๑ (บ้านสี่เสา) บนห้องรับแขกอันเป็นที่ตั้งของหนุมานหินอ่อน ซึ่งกำลังหมุนติ้วอยู่หลายตลบและแล้วในที่สุดก็แตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ ในเวลาเดียวกัน
                 อวสานของ พณฯท่านจอมพลเผด็จการมาถึงแล้ว แม้จะต่ออายุมาได้ถึง ๒ ปี เต็ม ก็ไม่สามารถหนีความตายไปได้   รัฐมนตรี X ผู้ซื่อสัตย์ยอมรับเคราะห์กรรมจนตัวเองเกือบโดนโทษประหารในคดีฐานบ่อนทำลายชาติ ส่วนอาจารย์เต็งก็ต้องจบชีวิตอย่างน่าสงสารในเวลาต่อมาด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ปริศนา และมีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมลึกลับนี้อีกมากมายที่ต้องจบชีวิตลงไปพร้อมด้วยกัน


หัวข้อ: Re: หนุมานหินอ่อนสีชมพู
เริ่มหัวข้อโดย: vs12 ที่ 12 ตุลาคม 2556, 16:44:56
อาจารย์เต็งและผลงานรามสูรที่สร้างขึ้นมาจากพลังสมาธิ



หัวข้อ: Re: หนุมานหินอ่อนสีชมพู
เริ่มหัวข้อโดย: vs12 ที่ 12 ตุลาคม 2556, 16:46:04
ตราจักรีสลักจากหิน


หัวข้อ: Re: หนุมานหินอ่อนสีชมพู
เริ่มหัวข้อโดย: vs12 ที่ 12 ตุลาคม 2556, 16:48:34
วาระสุดท้ายของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เจ้าของคำ " ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่ผู้เดียว "


หัวข้อ: Re: หนุมานหินอ่อนสีชมพู
เริ่มหัวข้อโดย: vs12 ที่ 12 ตุลาคม 2556, 16:52:44
เข็มกลัดท่านจอมพลฯ